×

American Airlines เตรียมปลดพนักงาน 19,000 ตำแหน่ง หากรัฐไม่ต่อมาตรการเยียวยา, ครม. เห็นชอบคง VAT 7% ต่ออีกปี: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (26 ส.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
26.08.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนียอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 4.3%MoM โดยเป็นการขยายตัวลดลงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 7.6%MoM แต่ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้นกว่าช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา

 

  • American Airlines บริษัทสายการบินในสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่ามีแผนที่จะปลดพนักงานกว่า 19,000 ตำแหน่งในช่วงเดือนตุลาคมนี้ หรือคิดเป็นกว่า 13.6% ของพนักงานทั้งหมดจาก 140,000 คนทั่วโลก หากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือเพื่อปกป้องการจ้างงานที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมีวงเงินกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจนถึงเดือนกันยายน ทั้งนี้ธุรกิจสายการบินยังไม่สามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติ สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา 

 

  • วานนี้ ปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ระดับ 7% ต่อไปอีก 1 ปี จนกระทั่งวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจให้กับภาคเอกชน อันจะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัวหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว

 

  • คีธ คราช เลขาธิการประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาพลังงานและสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ของสหรัฐฯ ปรับลดสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ในเงินกองทุนของมหาวิทยาลัยที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนลง หลังการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับจีนมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ETF ที่ลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ Index Fund หรือหุ้นประเทศจีนโดยตรง เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวไม่สอดคล้องกับแนวนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่าทางการจีนมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและขาดความโปร่งใสด้านการบัญชี ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้ในอนาคต

 

  • วานนี้สหรัฐฯ ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนสิงหาคมออกมาที่ 84.8 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 91.7 จุด และแย่กว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 93.0 จุด หลังผลกระทบของโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ ส่งผลให้ตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว หลังจากที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนกรกฎาคมประกาศออกมาที่ 901,000 หลัง สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2007 หรือกว่า 13 ปี และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 785,000 หลัง และขยายตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 791,000 หลัง คิดเป็นการขยายตัวกว่า 13.9%MoM จากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำที่หนุนความต้องการซื้อบ้าน

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลงจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลงจากเดือนที่แล้วและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ สวนทางกันกับดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้นและทำ New High อย่างต่อเนื่องจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลัง โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ และสตีเวน มนูชิน ให้คำมั่นว่าจะดำเนินข้อตกลงการค้าในเฟสแรกให้ประสบผลสำเร็จ ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาอ่อนแอ โดยตัวเลข GDP ปรับตัวลง 9.7%QoQ บ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง สร้างความกังวลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังมีการคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะลดลง รวมไปถึงกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโกจะลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเฮอริเคน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดเริ่มลดลง ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ลดความกังวลว่าอาจเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยนักลงทุนได้เทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นฟูเร็วๆ นี้

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 28,248.44 ลดลง 60.02 (-0.21%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3,443.62 เพิ่มขึ้น 12.34 (+0.36%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 11,466.47 เพิ่มขึ้น 86.75 (+0.76%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 13,061.62 ลดลง 4.92 (-0.04%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6,037.01 ลดลง 67.72 (-1.11%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,329.71 ลดลง 2.03 (-0.06%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 20,030.05 ลดลง 83.31 (-0.41%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23,296.77 เพิ่มขึ้น 311.26 (+1.35%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6,161.4 เพิ่มขึ้น 31.8 (+0.52%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3,373.58 ลดลง 12.06 (-0.36%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 13,669.41 เพิ่มขึ้น 2.71 (+0.02%)
  • China A50 อยู่ที่ 15,550.9 เพิ่มขึ้น 92.61 (+0.6%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 25,486.22 ลดลง 65.36 (-0.26%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12,758.25 เพิ่มขึ้น 111.12 (+0.88%)
  • SET อยู่ที่ 1,315.99 ลดลง 1.12 (-0.09%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2,366.73 เพิ่มขึ้น 36.9 (+1.58%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5,338.89 เพิ่มขึ้น 61.85 (+1.17%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 38,843.88 เพิ่มขึ้น 44.8 (+0.12%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 43.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.89 (+2.09%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 46.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.89 (+1.96%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1,929.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 0.22 (-0.01%)

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising