×

Fed สั่งธนาคารพาณิชย์ห้ามซื้อหุ้นคืน จำกัดปันผล, GDP ไตรมาส 1/20 สหรัฐฯ หดตัว 5.0% ตามคาด: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (26 มิ.ย. 2563)

โดย FINNOMENA
26.06.2020
  • LOADING...

– จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE) ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งสะท้อนอัตราเงินเฟ้อที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ 0.2% (MoM) ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.4% (MoM) สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับยอดค้าปลีก (Retail Sales) ที่ประกาศสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ยอดการใช้จ่ายส่วนบุคคลที่มีกำหนดประกาศวันนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 9.0% (MoM) ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -13.6% (MoM) จากแนวโน้มความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง

 

– ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อภาวะวิกฤต แม้จะเกิดกรณีเลวร้ายขึ้น (Worst Case Scenario) อย่างไรก็ตามในภาวะดังกล่าวอาจส่งผลให้สัดส่วนทุนสำรองของธนาคารเหล่านั้นลดลงมาสู่ที่ระดับ 7.7-9.5% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงขั้นต่ำ Fed จึงสั่งให้ธนาคารพาณิชย์งดการซื้อหุ้นคืน และจำกัดการจ่ายเงินปันผลในไตรมาส 3/20 นี้ให้ไม่เกินค่าเฉลี่ยของกำไร 4 ไตรมาสที่ผ่านมาเท่านั้น ก่อนที่ Fed จะดำเนินการทำ Stress Test อีกครั้งในไตรมาส 4/20 โดย เลล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน ซึ่งมีอำนาจออกคะแนนเสียง ระบุว่า การอนุญาตให้จ่ายปันผลอาจส่งผลต่อทุนสำรองของธนาคาร ซึ่งอาจส่งผลต่ออันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารต่อไป 

 

– อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ให้สัมภาษณ์ว่ากำลังเตรียมการเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อเริ่มต้นการบังคับใช้ข้อตกลงการค้า USMCA อย่างเป็นทางการ หลังจากการเจรจาลุล่วงในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา

 

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 1/20 ครั้งที่ 3 ออกมาที่ -5.0% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และการประกาศครั้งก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับการหดตัวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/08 จากมาตรการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาสที่ 2/20 จะติดลบ 30% ก่อนที่จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในไตรมาสที่ 3 และ 4 หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น

 

– วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าเสนอให้รัฐสภาอนุมัติวงเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจกลุ่ม Semiconductor ภายในประเทศผ่านทางการให้งบประมาณวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงการให้โครงการของรัฐสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาดังกล่าวได้มากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ของ Supply Chain สมัยใหม่ที่กลุ่มเทคโนโลยีเป็นผู้นำ ซึ่งทำให้ชิปเป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง

 

ภาวะตลาดวานนี้

– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาไม่ค่อยดีก็ตาม โดยมีแรงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารจากแรงหนุนที่คณะกรรมการประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ผ่อนคลายข้อกำหนด Volcker Rule ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธนาคารสามารถลงทุนเพิ่มเติมได้ โดยหุ้นโกลด์แมนแซคส์พุ่ง 4.6% และหุ้นเจพีมอร์แกนพุ่ง 3.5% เป็นต้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี รวมทั้ง ECB มีแผนจะปล่อยกู้ให้กับประเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดให้ดีขึ้น 

 

– สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แสดงถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลดีต่ออุปสงค์น้ำมัน ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาจากปัจจัยดังกล่าว

 

สหรัฐฯ

– Dow Jones อยู่ที่ 25745.6 เพิ่มขึ้น 299.66 (1.18%)

– S&P 500 อยู่ที่ 3083.76 เพิ่มขึ้น 33.43 (1.1%)

– Nasdaq อยู่ที่ 10017 เพิ่มขึ้น 107.84 (1.09%)

 

ยุโรป

– DAX อยู่ที่ 12177.87 เพิ่มขึ้น 83.93 (0.69%)

– FTSE 100 อยู่ที่ 6147.14 เพิ่มขึ้น 23.45 (0.38%)

– Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3218.91 เพิ่มขึ้น 22.79 (0.71%)

– FTSE MIB อยู่ที่ 19234.75 เพิ่มขึ้น 71.77 (0.37%)

 

เอเชีย

– Nikkei 225 อยู่ที่ 22259.79 ลดลง -274.53 (-1.22%)

– S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5817.7 ลดลง -148 (-2.48%)

– Shanghai อยู่ที่ 2979.55 เพิ่มขึ้น 8.93 (0.3%)

– SZSE Component อยู่ที่ 11813.53 ลดลง 0 (0%)

– China A50 อยู่ที่ 13938.63 เพิ่มขึ้น 72.49 (0.52%)

– Hang Seng อยู่ที่ 24781.58 ลดลง -125.76 (-0.5%)

– Taiwan Weighted อยู่ที่ 11660.67 เพิ่มขึ้น 48.31 (0.42%)

– SET อยู่ที่ 1325.88 ลดลง -7.55 (-0.57%)

– KOSPI อยู่ที่ 2112.37 ลดลง -49.14 (-2.27%)

– IDX Composite อยู่ที่ 4896.73 ลดลง -68 (-1.37%)

– BSE Sensex อยู่ที่ 34842.1 ลดลง -26.88 (-0.08%)

– PSEi Composite อยู่ที่ 6118.26 ลดลง -70.57 (-1.14%)

 

Commodity

– ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.02 (2.69%)

– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 41.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.15 (2.85%)

– ราคาทองคำ อยู่ที่ 1765.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 203.68 (0.21%)

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising