×

ByteDance ยื่นศาลสหรัฐฯ ระงับ Executive Order ห้ามดาวน์โหลด TikTok, ไบเดนเรียกร้องแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงแทนกินส์เบิร์ก หลังพ้นเลือกตั้ง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (21 ก.ย. 2563)

โดย FINNOMENA
21.09.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ วันนี้ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีกำหนดประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.85% เช่นเดิม เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมานั้น PBOC ใช้กลไกกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอื่น อาทิ MLF และ LPR  ควบคู่กับการเสริมสภาพคล่องผ่านทาง Open Market Operation (OMO) เป็นหลัก

 

  • สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ByteDance บริษัทเจ้าของแอปพลิเคชัน TikTok ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อขอให้ยกเลิก Executive Order ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันดาวน์โหลด TikTok ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นต้นไป ซึ่งคำสั่งดังกล่าวนั้นครอบคลุมไปถึงการที่ Google และ Apple จะต้องนำแอปพลิเคชันดังกล่าวออกจากแอปสโตร์ของตนเองด้วย โดย ByteDance ระบุว่า การใช้ Executive Order ดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต อีกทั้งทำไปเพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่าที่จะเน้นการหยุดภัยคุกคามจากต่างประเทศอย่างที่กล่าวอ้าง

 

  • วันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงว่าเตรียมพิจารณายกเลิกคำสั่งห้ามไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในช่วงต้นปี 2021 หลังจากที่ห้ามการปันผลในช่วงก่อนหน้า เพื่อสำรองสภาพคล่องรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จะพิจารณาจากพัฒนาการของเศรษฐกิจยุโรปในระยะต่อไป ควบคู่กับปริมาณการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ และแนวทางการกันสำรองอย่างเพียงพอ เพื่อเตรียมรองรับกับสถานการณ์หนี้เสียที่อาจเลวร้ายลงในปี 2021 เป็นหลัก เพื่อให้ธนาคารสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ตามปกติควบคู่กับป้องกันความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้น

 

  • จากกรณี รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก หนึ่งในผู้พิพากษาศาลสูงสหรัฐฯ ได้เสียชีวิตลงในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ล่าสุด โจ ไบเดน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อการเสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงขึ้นมาทดแทน และเรียกร้องให้วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันงดลงมติเลือกผู้ที่ถูกเสนอชื่อ จนกว่าจะถึงช่วงเวลาหลังการเลือกตั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอำนาจศาลซึ่งจะอยู่กับประชาชนอเมริกันไปอีกกว่า 10 ปี จะเกิดขึ้นในช่วงที่ปราศจากการชี้นำเพื่อหวังผลทางการเมือง หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ให้สัมภาษณ์ระบุว่ามีบุคคลในใจเตรียมเสนอชื่อไว้แล้ว

 

  • วันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้แถลงถึงการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะกลับมาดำเนินมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง ภายใต้การกดดันขั้นสูงสุด สืบเนื่องจากอิหร่านไม่รักษาสัญญาตามข้อตกลงนิวเคลียร์ สอดคล้องกับท่าทีของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ต่ออายุการห้ามซื้อขายอาวุธกับอิหร่านเช่นกัน

 

สรุปภาวะตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง 3 วันติดต่อกัน แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีก็ตาม แต่ตลาดได้รับแรงกดดันจากความล่าช้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ในสหรัฐฯ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดนแรงเทขายหนักสุดหลังปรับตัวขึ้นมาโดดเด่นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อาทิ หุ้น Apple ร่วง 3.17% และ หุ้น Alphabet ร่วง 2.38% เป็นต้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกันจากความกังวลที่อาจมีการปิดเมืองอีกครั้งหลังจำนวนผู้ติดเชื้อในโซนยุโรปเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มการบินและรถยนต์ปรับตัวร่วงแรงจากแรงกดดันดังกล่าว

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังการประชุม OPEC+ ออกมาให้ยืดระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากที่มีการคาดการณ์ว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะลดลงนั้น ช่วยลดความกังวลที่อาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นไปอย่างซบเซา ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลดังกล่าว

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 27657.42 ลดลง -244.56 (-0.88%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3319.47 ลดลง -37.54 (-1.12%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 10793.28 ลดลง -117 (-1.07%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 13116.25 ลดลง -91.87 (-0.7%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6007.05 ลดลง -42.87 (-0.71%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3283.69 ลดลง -32.88 (-0.99%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 19524.94 ลดลง -214.79 (-1.09%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23360.3 เพิ่มขึ้น 40.93 (0.18%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5864.5 ลดลง -18.7 (-0.32%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3338.09 เพิ่มขึ้น 67.65 (2.07%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 13245.09 เพิ่มขึ้น 229.9 (1.77%)
  • China A50 อยู่ที่ 15678.89 เพิ่มขึ้น 402.38 (2.63%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 24455.41 เพิ่มขึ้น 114.56 (0.47%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12875.62 เพิ่มขึ้น 2.88 (0.02%)
  • SET อยู่ที่ 1288.39 เพิ่มขึ้น 3.99 (0.31%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2412.4 เพิ่มขึ้น 6.23 (0.26%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5059.22 เพิ่มขึ้น 20.82 (0.41%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 38845.82 ลดลง -134.03 (-0.34%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 5908.9 ลดลง -37.72 (-0.63%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 41.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.22 (54%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 43.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.11 (-26%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1949.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.48 (13%)

 

Finnomena

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising