×

HSBC คาด ธปท. อาจดัน QE, G20 ให้คำมั่นพร้อมทำทุกทางลดความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (20 ก.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
20.07.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้ธนาคารกลางจีนมีกำหนดประกาศอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี โดยคาดว่าจะยังคงไว้ที่ระดับ 3.85% ต่อเนื่อง หลังจากลดอัตราดอกเบี้ยและเสริมสภาพคล่องผ่านการให้เงินกู้ MLF และตลาด OMO ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ญี่ปุ่นมีกำหนดประกาศยอดการส่งออกประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะหดตัว 24.9% (YoY) หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 จากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว หลังจากผ่านทั้งกรณีสงครามการค้าในช่วงปีก่อนหน้า และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระยะสั้น

 

  • วานนี้ธนาคาร HSBC ให้มุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ระบุว่า ไตรมาสที่ 3 นี้ยังมีแนวโน้มไม่ฟื้นตัวจากปัญหาหนี้ในครัวเรือนสูง สร้างแรงกดดันต่อการบริโภค สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับการลงทุนทั้งรัฐและเอกชนที่ชะลอตัว และการท่องเที่ยวเองที่ยังฟื้นตัวเต็มที่ จนอาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินฝืด และทำให้ GDP ในปี 2563 ติดลบ 8.2% ซึ่งอาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาเหลือที่ 0.25% พร้อมทั้งเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีช่องว่างจากระดับสูงสุดที่ ธปท. เคยถือครองตราสารหนี้มากที่สุดถึง 12.9%

 

  • วานนี้รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ G20 ระบุว่า กลุ่มประเทศ G20 จะยังคงใช้เครื่องมือทางการเงินและการคลังทั้งหมดที่มี เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการพักชำระหนี้ให้แก่กลุ่มประเทศยากจนที่สุดไปจนถึงสิ้นปี เพื่อลดความเสี่ยงเศรษฐกิจขาลงในช่วงเวลานี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
  • วานนี้สำนักงานข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การประชุม 27 ผู้นำของสหภาพยุโรปยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ (Recovery Fund) วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรได้ เนื่องจากยังมีความเห็นขัดแย้งกันในหมู่ผู้นำประเทศต่างๆ ด้านการจัดสรรเงินช่วยเหลือ และการกำกับดูแลการใช้เงิน ซึ่งหนึ่งในจุดประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนนี้ก็คือการให้เปล่าบางส่วนแก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สูงที่สุด เช่น สเปนและอิตาลี และบางส่วนจะเป็นการให้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งจุดนี้เองที่ยังถูกคัดค้าน เนื่องจากกลุ่ม Frugal Four (สี่ตระหนี่) อันประกอบไปด้วย เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน และออสเตรีย มองว่าไม่ควรให้เงินให้เปล่า และประเทศที่จะได้รับเงินกู้นั้นต้องปฏิรูปเศรษฐกิจด้วย

 

  • วานนี้ แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใหม่อีกครั้ง หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 100 รายเป็นครั้งแรก ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะรวมไปถึงการปิดสถานบันเทิง การห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน และการปิดเมืองบางส่วน โดยเน้นไปที่กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความจำเป็นก่อน ลัมเปิดเผยว่า รัฐบาลจะปรับปรุงโรงแรมและสถานที่จัดแสดงนิทรรศการใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง เพื่อใช้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการและผู้ป่วยที่อาการทรงตัว

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงหลังผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 2 ออกมาไม่สู้ดีนัก รวมไปถึงจำนวนผู้ติดโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สร้างความกังวลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา จากแนวโน้มที่เศรษฐกิจอาจไม่ฟื้นตัวตามคาด สวนทางกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากผลประกอบการบริษัทหลายๆ แห่งในไตรมาส 2 ที่ออกมาแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโรที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในการประชุมหลังตลาดปิด 

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หวั่นปริมาณความต้องการใช้น้ำมันลดลง หลังจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจส่งผลให้มีการปิดเมืองและเศรษฐกิจกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้น หวังเศรษฐกิจชะลอตัวจากจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 ออกมาอ่อนแอ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากปัจจัยดังกล่าว

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 26671.95 ลดลง -62.76 (-0.23%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3224.73 เพิ่มขึ้น 9.16 (0.28%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 10503.19 เพิ่มขึ้น 29.36 (0.28%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 12919.61 เพิ่มขึ้น 44.64 (0.35%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6290.3 เพิ่มขึ้น 39.61 (0.63%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3365.6 เพิ่มขึ้น 0.25 (0.01%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 20419.39 เพิ่มขึ้น 63.3 (0.31%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 22696.42 ลดลง -73.98 (-0.32%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6033.6 เพิ่มขึ้น 22.7 (0.38%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3214.13 เพิ่มขึ้น 4.03 (0.13%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 13114.94 เพิ่มขึ้น 118.6 (0.91%)
  • China A50 อยู่ที่ 15124.51 เพิ่มขึ้น 143.12 (0.96%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 25089.17 เพิ่มขึ้น 118.48 (0.47%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12181.56 เพิ่มขึ้น 23.82 (0.2%)
  • SET อยู่ที่ 1359.58 เพิ่มขึ้น 11.72 (0.87%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2201.19 เพิ่มขึ้น 17.43 (0.8%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5079.59 ลดลง -18.79 (-0.37%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 37020.14 เพิ่มขึ้น 548.46 (1.5%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 6088.75 ลดลง -58.91 (-0.96%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.2 (-0.49%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 43.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.22 (-0.51%)
  • ราคาทองคำอยู่ที่ 1809.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -14.78 (-0.82%)

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising