×

IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลก คาดหดตัวน้อยลงเหลือ 4.4% ในปี 2020, สองผู้ผลิตยาต้านโควิด-19 ระงับทดลองหลังอาสาสมัครป่วยไม่ทราบสาเหตุ: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (14 ต.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
14.10.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหภาพยุโรปมีกำหนดประกาศดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 0.8% (MoM) ซึ่งเป็นการขยายตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.1% (MoM) แต่ยังโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 หลังจากผ่านพ้นช่วงการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งเป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต ประจำเดือนกันยายน โดยคาดว่าจะขยายตัว 0.2% (MoM) ทั้ง 2 ดัชนี ซึ่งขยายตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.3% (MoM) และ 0.4% (MoM) ตามลำดับ

 

  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ร่วมกับธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปี 2020 จะหดตัว 4.4% ซึ่งน้อยลงกว่าที่ประมาณการไว้ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ระดับ 4.9% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2021 เหลือ 5.2% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าขยายตัว 5.4% ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจอื่นๆ ทั่วโลก ประกอบด้วย สหรัฐฯ คาดว่าปี 2020 เศรษฐกิจจะหดตัวเพียง 4.3% จากเดิมที่คาดว่าติดลบ 8.0% ก่อนที่จะขยายตัว 3.1% ในปี 2021 ขณะที่สหภาพยุโรปคาดว่าจะหดตัว 8.3% ในปี 2020 จากเดิมที่คาดว่าติดลบ 10.2% ก่อนที่จะขยายตัว 5.2% ในปี 2021และจีน คาดว่าจะขยายตัว 1.9% ในปี 2020 จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 1.0% ก่อนที่จะขยายตัว 8.2% ในปี 2021

 

  • Eli Lilly & Co. หนึ่งในบริษัทยาของสหรัฐฯ ที่พยายามผลิตยาต้านโควิด-19 ในลักษณะของแอนติบอดี้ ออกแถลงการณ์ระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมทดลอง เนื่องจากกังวลความปลอดภัยของอาสาสมัคร โดยแอนติบอดี้นี้ได้นำไปใช้ทดลองรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควบคู่กับการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ของบริษัท Gilead Sciences โดยก่อนหน้านี้ Johnson & Johnson ได้ประกาศระงับการทดสอบวัคซีนโควิด-19 เช่นเดียวกัน หลังพบอาสาสมัครมีอาการป่วยโดยยังไม่ทราบสาเหตุ

 

  • นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์ระบุว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ และไม่มีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้ หลังเกิดความกังวลว่าทรัมป์อาจแพร่เชื้อได้ หลังออกจากโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว และถอดหน้ากากอนามัยออกเมื่อกลับถึงทำเนียบขาว และมีการปรากฏตัวในที่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง

 

  • วานนี้ Blackrock บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2020 ออกมาที่มีกำไร 9.22 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขยายตัว 27% (YoY) และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 7.80 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เติบโตขึ้นแตะระดับ 7.81 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมขยายตัวได้ สอดคล้องกับ CITI Group ธนาคารอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ที่รายงานว่ามีกำไร 1.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น หดตัว 32% (YoY) แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.93 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากธุรกิจวาณิชธนกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ JP Morgan Chase ธนาคารใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ที่มีกำไร 2.92 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.23 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากการกันสำรองหนี้เสียที่ระดับ 611 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ระดับ 1,500 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน รายได้จากธุรกรรมเทรดดิ้งอยู่ที่ระดับ 6,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 6,200 ล้านดอลลาร์

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ไม่ค่อยดีนัก ล่าสุดทางบริษัท Johnson & Johnson ได้หยุดการทดลองวัคซีนหลังพบอาสาสมัครรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลให้ทางบริษัทหยุดรับอาสาสมัครเข้าร่วมทดลองด้วย รวมทั้งปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก แสดงถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มชะงัก สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกันจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ โดยตัวเลขดัชนีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจทั้งในโซนยุโรปและในเยอรมนีออกมาแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจอาจยังไม่กลับมาฟื้นตัวในเร็วๆ นี้

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจีนประกาศตัวเลขนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือน กันยายนที่ผ่านมา รวมทั้งทาง OPEC คาดการณ์ปีหน้าว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดความกังวลว่าอาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองคำแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น รวมทั้งความไม่แน่นอนของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้ข้อตกลงที่แน่นอน

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 28679.81 ลดลง -157.71 (-0.55%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3511.93 ลดลง -22.29 (-0.63%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 11863.9 ลดลง -12.36 (-0.1%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 13018.99 ลดลง -119.42 (-0.91%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 5969.71 ลดลง -31.67 (-0.53%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3279.19 ลดลง -18.93 (-0.57%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 19558.69 ลดลง -160.08 (-0.81%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23601.78 เพิ่มขึ้น 43.09 (0.18%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6195.7 เพิ่มขึ้น 63.7 (1.04%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3359.75 เพิ่มขึ้น 1.28 (0.04%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 13798.58 เพิ่มขึ้น 90.51 (0.66%)
  • China A50 อยู่ที่ 15973.02 เพิ่มขึ้น 32.87 (0.21%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 24597.5 ลดลง -52.18 (-0.21%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12947.13 ลดลง -8.78 (-0.07%)
  • SET **ปิดทำการ**
  • KOSPI อยู่ที่ 2403.15 ลดลง -0.58 (-0.02%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5132.57 เพิ่มขึ้น 39.47 (0.78%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 40625.51 เพิ่มขึ้น 31.71 (0.08%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 5923.23 ลดลง -8.38 (-0.14%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.71 (1.8%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 42.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.73 (175%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1893.44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -28.51 (-1.48%)

 

finnomena

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising