×

ยุโรปเตรียมออก Hit List คุมบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ หวังหนุนความโปร่งใส, จีนเผยธุรกิจการบินฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังเปิดเมือง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (12 ต.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
12.10.2020
  • LOADING...
  • VariFlight ผู้ให้บริการข้อมูลการบินพลเรือนของจีนเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการบินของจีนฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยระดับเที่ยวบินขาออกแตะ 375,300 เที่ยวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ลดลงเพียง 6.86% (YoY) สืบเนื่องจากการเปิดให้บริการอีกครั้งของท่าอากาศยานทั่วประเทศหลังผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
  • วันศุกร์ที่ผ่านมา แดเนียล โอเดย์ ประธานกรรมการบริหาร (CEO) บริษัท Gilead Sciences เปิดเผยว่า Remdesivir ยาต้านไวรัสโควิด-19 จะมีปริมาณมากพอสำหรับผู้ป่วยทั่วโลกภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ พร้อมระบุว่าผลการทดลองเป็นไปอย่างน่าพึงพอใจ และ Remdesivir มีส่วนช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยลงอย่างมาก โดยในปัจจุบันกำลังมีความพยายามพัฒนายาดังกล่าวให้ใช้ในการรักษาได้ง่ายมากขึ้นด้วยการสูดดม (Inhaled Version) จากเดิมที่ในขั้นทดสอบนั้นใช้วิธีการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ (IV)
  • ช่วงเช้าที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงินเมื่อทำธุรกรรมฟอร์เวิร์ดสกุลเงินต่างประเทศ ลงเหลือ 0% จากระดับเดิมที่ 20% ซึ่งเดิมทีนั้นการสำรองทุนส่วนนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น โดย PBOC ระบุว่า จะยังคงรักษาความยืดหยุ่นและเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนให้สมเหตุสมผลและสมดุลตามปัจจัยพื้นฐานต่อไป
  • สหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า กำลังจัดทำ Hit List หรือรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 20 อันดับแรก ซึ่งมีแนวโน้มครอบคลุมไปถึงบริษัทชื่อดังอย่าง Facebook, Apple, Amazon และ Google เพื่อเพิ่มมาตรการตรวจสอบและควบคุมมากขึ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลมากขึ้น ทำให้เกิดการแบ่งปันข้อมูลกับบริษัทขนาดเล็ก และทำให้บริษัทขนาดเล็กสามารถแข่งขันได้ โดยเกณฑ์การแบ่งบริษัทที่จะเข้ามาอยู่ในรายชื่อดังกล่าวจะอยู่บนพื้นฐานของจำนวนผู้ใช้เป็นหลัก 
  • สำนักข่าวซินหัวรายงานในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในตัวมิงก์กว่า 10,000 ตัว ในรัฐยูทาห์ ส่งผลให้รัฐยูทาห์ออกคำสั่งกักกันฟาร์มทุกชนิดที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสทันที แต่ยังไม่มีคำสั่งให้กำจัดสัตว์ในฟาร์มแต่อย่างใด โดยสันนิษฐานว่าตัวมิงก์อาจได้รับเชื้อมาจากคนงานภายในฟาร์ม ซึ่งตรวจพบการติดเชื้อในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีหลักฐานการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากสัตว์สู่มนุษย์ อย่างไรก็ตาม ในสหภาพยุโรปซึ่งตรวจพบการแพร่ระบาดไปก่อนหน้านี้ ได้กำจัดตัวมิงก์ไปหลายแสนตัวในช่วงเดือนมิถุนายน จากความกังวลว่าอาจเป็นต้นตอการแพร่ระบาดไปยังสัตว์อื่นหรือแม้กระทั่งมนุษย์

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจที่จะออกมาในเร็วๆ นี้ โดยทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการอัดฉีดเงินให้ประชาชนเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มวงเงินมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจให้มากกว่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามนักลงทุนเริ่มจับตาดูงบการเงินที่จะเริ่มประกาศในสัปดาห์นี้ สอดคล้องกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกันจากตัวเลขเศรษฐกิจในอิตาลีที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมทั้งการคาดการณ์งบไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปจะออกมาดีขึ้น จากความช่วยเหลือของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้
  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังแรงงานนอร์เวย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันได้หยุดประท้วงแล้ว รวมทั้งการกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันอีกครั้งในพื้นที่อ่าวเม็กซิโก หลังถูกพายุเฮอริเคนเดลต้าพัดถล่ม ส่งผลให้ด้านอุปทานน้ำมันกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และทำให้ราคาน้ำมันถูกลง ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ด้วยแรงหนุนจากความคืบหน้าของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่ม ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้น

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 28,586.9 เพิ่มขึ้น 161.39 (0.57%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3,477.13 เพิ่มขึ้น 30.3 (0.88%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 11,579.94 เพิ่มขึ้น 158.96 (1.39%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 13,051.23 เพิ่มขึ้น 9.02 (0.07%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6,016.65 เพิ่มขึ้น 38.62 (0.65%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,273.12 เพิ่มขึ้น 17.36 (0.53%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 19,595.38 เพิ่มขึ้น 12.95 (0.07%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23,619.69 ลดลง -27.38 (-0.12%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6,102.2 เพิ่มขึ้น 0.2 (0%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3,272.08 เพิ่มขึ้น 54.02 (1.68%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 13,289.26 เพิ่มขึ้น 381.81 (2.96%)
  • China A50 อยู่ที่ 15,454.99 เพิ่มขึ้น 245.72 (1.62%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 24,119.13 ลดลง -74.22 (-0.31%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12,887.19 เพิ่มขึ้น 140.82 (1.1%)
  • SET อยู่ที่ 1,267.14 ลดลง -7.69 (-0.6%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2,391.96 เพิ่มขึ้น 5.02 (0.21%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5,053.66 เพิ่มขึ้น 14.52 (0.29%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 40,509.49 เพิ่มขึ้น 326.82 (0.81%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 5,931.61 ลดลง -11.05 (-0.19%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.18 (2.95%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 42.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.3 (3.08%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1929.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.22 (0.46%)

 

finnomena

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising