- คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายฉุกเฉิน 0.5% สู่ระดับ 0.25% โดยมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา นอกจากนี้ ยังได้ประกาศโครงการปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารพาณิชย์ (TFS) โครงการใหม่ เพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางรวมทั้งมาตรการใหม่เพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ให้ปล่อยเงินกู้มากขึ้นด้วย
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกแถลงการณ์ระงับการเดินทางจากประเทศยุโรปทั้งหมด ยกเว้นอังกฤษ ในช่วง 30 วันข้างหน้า และจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งรุนแรงในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย
- ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้ สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนกุมภาพันธ์ โดย CPI ออกมาขยายตัวที่ 0.1% (MoM) และ 2.3% (YoY) ส่วน Core CPI ขยายตัวที่ 0.2% (MoM) และ 2.4% (YoY) นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลัง (Crude Oil Inventories) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.664 ล้านบาร์เรล
- ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คืนนี้ โดยตลาดคาดว่าจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ เพื่อพยุงเศรษฐกิจจากผลกระทบของเชื้อไวรัส อีกทั้งตลาดยังคาดการณ์อีกว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังทั้ง Fed และ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้แล้ว
- น้ำมันส่อแววล้นโลก สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ หรือ EIA เปิดเผยว่า สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่เพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล ด้านสต๊อกน้ำมันเบนซินลดลง 5 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสต๊อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 6.4 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.7 ล้านบาร์เรล
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวร่วงแรงกว่า 1,400 จุด หลัง WHO ยืนยันว่า โควิด-19 เข้าสู่ภาวะการแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ล่าช้า อาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนขายหุ้นออกมา สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกัน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หุ้นสายการบินร่วงแรง อาทิ easyJet ของอังกฤษ ร่วง 7.59% เป็นต้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวร่วงแรงจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมไปถึงทางซาอุฯ เพิ่มกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำมันล้นตลาดได้ ด้านราคาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมาแรง
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 23,553.22 ลดลง -1,464.94 (-5.86%)
- S&P 500 ปิดที่ 2,741.38 ลดลง -140.85 (-4.89%)
- Nasdaq ปิดที่ 7,952.05 ลดลง -392.20 (-4.70%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 10,438.68 ลดลง -36.81 (-0.35%)
- FTSE 100 ปิดที่ 5,876.52 ลดลง -83.71 (-1.40%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 2,905.56 ลดลง -4.46 (-0.15%)
- FTSE MIB ปิดที่ 17,928.64 เพิ่มขึ้น 58.46 (0.33%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 19,416.06 ลดลง -451.06 (-2.27%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 5,725.90 ลดลง -213.65 (-3.60%)
- Shanghai ปิดที่ 2,968.52 ลดลง -33.46 (-1.11%)
- SZSE Component ปิดที่ 11,200.05 ลดลง -236.81 (-2.07%)
- China A50 ปิดที่ 13,622.85 ลดลง -154.26 (-1.12%)
- Hang Seng ปิดที่ 25,231.61 ลดลง -160.90 (-0.63%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 10,893.75 ลดลง -109.79 (-1.00%)
- SET ปิดที่ 1,249.89 ลดลง -21.36 (-1.68%)
- KOSPI ปิดที่ 1,908.27 ลดลง -54.66 (-2.78%)
- IDX Composite ปิดที่ 5,154.10 ลดลง -30.98 (-0.60%)
- BSE Sensex ปิดที่ 35,697.40 เพิ่มขึ้น 62.45 (0.18%)
- PSEi Composite ปิดที่ 6,353.26 ลดลง -31.76 (-0.50%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 32.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.38 (-4%)
- ราคาน้ำมันเบรนท์ ปิดที่ 35.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.43 (-3.8%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1,642.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -18 (-1.08%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters