- จับตาตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดจะประกาศตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 7.311 ล้านตำแหน่ง ลดลงจากครั้งก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 7.348 ล้านตำแหน่ง แต่ยังคงขยายตัวได้เหนือระดับ 7.0 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001 สะท้อนภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และความต้องการแรงงานจำนวนมากในสหรัฐฯ
- ญัตติยุบสภาสหราชอาณาจักรไม่ผ่านการลงมติเป็นรอบที่ 2 โดยวานนี้ค่าเงินปอนด์อังกฤษแข็งค่าทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ แตะระดับ 1.12 ปอนด์ต่อยูโร หลังจากที่นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน พยายามเสนอญัตติยุบสภาอีกครั้ง แต่ผลปรากฏว่าได้คะแนนเสียงสนับสนุนเพียง 298 เสียงเท่าเดิม ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 ของรัฐสภาที่ 434 เสียง เมื่อประกอบกับการผ่านร่างกฎหมายป้องกันการแยกตัวแบบไร้ข้อตกลง (No-Deal) ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้บอริส จอห์นสันต้องดำเนินการเจรจากับยุโรปเพื่อหาข้อสรุป หรือ เลื่อนเวลาการแยกตัวออกไปเป็นวันที่ 31 มกราคม 2020 แทน ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลกรณี No-Deal Brexit ที่อาจเกิดขึ้นหากญัตติยุบสภาของบอริส จอห์นสันผ่านความเห็นชอบ และอาจส่งผลให้เกิดการแยกตัวแบบ No-Deal ได้สูง
- Fed เผยสงครามการค้าฉุด GDP โลก 1% นักวิจัยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เผยผลการวิจัยระบุว่า ระดับความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าที่เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1970 ส่งผลให้ธุรกิจลดการลงทุนและการผลิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อไปยังการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ประมาณ 1% ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังส่งผลไปยังกลุ่มประเทศอื่นๆ ทั้งตลาดเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้ว รวมมูลค่ากว่า 850,000 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญก็คือท่าทีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ Fed ยังยืนยันว่า การดำเนินการของ Fed จะเป็นไปโดยปราศจากปัจจัยการเมืองชี้นำ เพื่อหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
- เยอรมนีแย้มอาจกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน Shadow Budget โดยวานนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีปรับตัวขึ้น 0.34% หลังทางการเยอรมนีเผยเตรียมพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังเพิ่มเติม จากนโยบายการเงินปกติ โดยในครั้งนี้รัฐบาลจะพิจารณาการใช้ Shadow Budget ซึ่งอยู่นอกงบประมาณประจำปี แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่ม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความคาดหวังต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของเยอรมนีเพิ่มเติม
- จีน-รัสเซียเดินหน้าสะสมทองคำต่อเนื่อง ธนาคารกลางจีนรายงานปริมาณการถือครองทองคำเพิ่มเติม 9 เดือนต่อเนื่อง รวมกว่า 99 ตัน สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับรัสเซียที่มีปริมาณการถือครองทองคำมูลค่าแตะระดับ 109,500 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการลงทุน จากกรณีสงครามการค้า พร้อมยืนยันทยอยถือครองทองคำเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนทั่วโลก
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบทั่วโลก 2 วันนับจากวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดหุ้นอังกฤษ หุ้นกลุ่มส่งออกถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ Healthcare, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มสาธารณูปโภค หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างมากในปีนี้ เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่ามีแนวโน้มลดน้อยลงที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลเยอรมนีจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลัง
- ในส่วนของราคาน้ำมันได้รับปัจจัยหนุนจากรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ของซาอุดีอาระเบียให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าลดการผลิตน้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 26835.51 เพิ่มขึ้น 38.05 (0.14%)
- S&P 500 ปิดที่ 2978.43 ลดลง -0.28 (-0.01%)
- Nasdaq ปิดที่ 8087.44 ลดลง -15.64 (-0.19%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 12226.1 เพิ่มขึ้น 34.37 (0.28%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7235.81 ลดลง -46.53 (-0.64%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3495.02 ลดลง -0.17 (0%)
- FTSE MIB ปิดที่ 21989.73 เพิ่มขึ้น 42.4 (0.19%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 21318.42 เพิ่มขึ้น 118.85 (0.56%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6648 เพิ่มขึ้น 0.70 (+0.01%)
- Shanghai ปิดที่ 3024.74 เพิ่มขึ้น 10.42 (+0.56%)
- Hang Seng ปิดที่ 26681.40 ลดลง 9.36 (-0.04%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 10786.51 ลดลง -14.63 (-0.14%)
- SET ปิดที่ 1671.22 เพิ่มขึ้น 1.16 (0.07%)
- KOSPI ปิดที่ 2026.42 เพิ่มขึ้น 6.87 (0.34%)
- IDX Composite ปิดที่ 6326.21 เพิ่มขึ้น 17.26 (0.27%)
- BSE Sensex ปิดที่ 37145.45 เพิ่มขึ้น 163.68 (0.44%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7933.68 ลดลง -26.44 (-0.33%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 57.85 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.33 (2.40%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 62.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.05 (1.70%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1511.1 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง -4.4 (-0.29%)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing