- Apple Inc. ถูกบริษัทหลักทรัพย์ Rosenblatt ปรับลดคำแนะนำหุ้นจาก ‘ถือ’ เป็น ‘ขาย’ ส่งผลให้ภาพรวมขณะนี้มีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลดคำแนะนำเป็นขายแล้ว 5 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1997 สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนในดีมานด์สินค้าของ Apple ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iPhone และ iPad ขณะที่สินค้าอื่นอย่าง iWatch, AirPods และ HomePod ก็ยังไม่สามารถทดแทนรายได้ส่วนที่ขาดหายไปได้ ผลกระทบครั้งนี้มาจากความไม่แน่นอนกรณีสงครามการค้า และกระแสชาตินิยมในจีน โดยมีประชาชนออกมาต่อต้านสินค้าจากสหรัฐฯ สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
- จับตาตัวเลขตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดจะประกาศตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTs Job Openings) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 7.470 ล้านตำแหน่ง โดยลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 7.449 ล้านตำแหน่ง ซึ่งถือว่าทรงตัวอยู่เหนือระดับ 7.0 ล้านตำแหน่งได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ทั้งนี้หากตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ออกมาดีกว่าคาด อาจส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะไม่ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมช่วงกลางเดือนนี้ก็เป็นได้
- จับตายอดขอสินเชื่อรายใหม่ในจีน โดยวันนี้ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีกำหนดจะประกาศตัวเลขจำนวนสินเชื่อรายใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาสู่ระดับมากกว่า 1,000 ล้านหยวนต่อเดือน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวแตะระดับ 1,650 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนหน้าที่ 1,180 ล้านหยวน โดยสะท้อนความต้องการสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเตรียมใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยวานนี้ Francois Villeroy de Galhau เจ้าหน้าที่ ECB ให้สัมภาษณ์ว่า ECB พร้อมที่จะดำเนินนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหากจำเป็น แต่ทุกอย่างยังต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้ง ขณะที่ Benoit Coeure สมาชิก Governing Council ของ ECB ก็ให้สัมภาษณ์ในทิศทางเดียวกันว่า ECB จำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากกว่าที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนกรณีสงครามการค้า พร้อมเผยด้วยว่าปัจจุบัน ECB มีเครื่องมือหลากหลายเพื่อนำมาใช้บริหารความคาดหวังของนักลงทุน
- จับตาความตึงเครียดเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาญี่ปุ่นได้ประกาศจำกัดการส่งออกวัสดุไฮเทคในกลุ่มสารเคมีไปยังเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่พอใจคำตัดสินยึดทรัพย์บริษัทญี่ปุ่นในเกาหลี เพื่อจ่ายเป็นค่าชดเชยแรงงานในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ล่าสุดประชาชนเกาหลีใต้เริ่มมีกระแสเรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าของญี่ปุ่นเพื่อตอบโต้กรณีดังกล่าว ซึ่งสร้างความกดดันต่อการค้าและเศรษฐกิจของทั้ง 2 ฝ่าย
สภาวะตลาดวานนี้
- เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาแข็งแกร่ง โดยข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวกดดันตลาดการลงทุนทั่วโลก หลังนักลงทุนคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ยุโรป
- STOXX600 ปิดที่ 389.29 ลดลง 0.29 (-0.07%)
- DAX ปิดที่ 12,543.51 ลดลง 25.02 (-0.22%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7,549.27 ลดลง 3.87 (-0.05%)
- FTSE MIB ปิดที่ 21,976.00 ลดลง 9.79 (-0.04%)
เอเชีย
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,672.20 ลดลง 79.10 (-1.17%)
- Shanghai ปิดที่ 2,933.36 ลดลง 77.70 (-2.58%)
- Hang Seng ปิดที่ 28,331.69 ลดลง 443.14 (-1.54%)
- KOSPI ปิดที่ 2,064.17 ลดลง 46.42 (-2.20%)
- BSE Sensex ปิดที่ 38,720.57 ลดลง 792.82 (-2.01%)
- Nikkei ปิดที่ 21,534.35 ลดลง 212.03 (-0.97%)
- SET ปิดที่ 1,731.03 ลดลง 0.20 (-0.01%)
สหรัฐฯ
- DOW30 ปิดที่ 26,806.14 จุด ลดลง 115.988 (-0.43%)
- S&P500 ปิดที่ 2,975.95 จุด ลดลง 14.46 (-0.48%)
- NASDAQ ปิดที่ 8,098.38 จุด ลดลง 63.41 (-0.78%)
Commodities
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 64.11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,400 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing