- Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่ หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ตอบโต้ทางการทหารต่ออิหร่าน เมื่อคืนนี้ ดัชนี Nasdaq ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง (+0.67%) หลังประธานาธิบดีทรัมป์แถลงว่า จะไม่ตอบโต้ทางทหารต่อเหตุการณ์โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรักโดยอิหร่าน ส่วนดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.49% และ Dow Jones บวกอีก 0.56% เช่นเดียวกัน ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียตอบรับข่าวดีดังกล่าว กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกอีกครั้ง
- แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประกาศเตรียมยื่นญัตติลดอำนาจทางการทหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สืบเนื่องจากกรณีโจมตีนายพลระดับสูงของอิหร่านเมื่อสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ญัตติดังกล่าวน่าจะผ่านวุฒิสภาได้ยาก เนื่องจาก ส.ว. จากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่
- ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังแกร่ง หลังตัวเลขจ้างงานของ ADP ออกมาเหนือคาดเมื่อคืนนี้ โดยสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน ADP (ADP Nonfarm Employment) เดือนธันวาคม ออกมาที่ 202,000 ตำแหน่ง เหนือคาดจากนักวิเคราะห์ที่ 160,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 124,000 ตำแหน่ง นับเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธันวาคม หดตัว 0.5% (YoY) ต่ำกว่าคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.4% (YoY) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธันวาคม ขยายตัว 4.5% (YoY) ต่ำกว่าคาดที่ 4.7% (YoY) หรือเพิ่มขึ้น 0.0% (MoM) ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 0.3% (MoM)
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq กลับมาปิดบวกอีกครั้งจากแรงซื้อของนักลงทุนที่เริ่มคลายความกังวลจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังทรัมป์กล่าวว่า จะไม่โจมตีอิหร่านคืน แต่จะใช้มาตรการทางเศรษฐกิจตอบโต้แทน นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ แสดงถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลจากเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง หลังเกิดแรงเทขายของนักลงทุนจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นไปแรง รวมไปถึงแรงกดดันจากข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง
- สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่เริ่มดีขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงแรงตามไปด้วย
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 28745.09 เพิ่มขึ้น 161.41 (0.56%)
- S&P 500 ปิดที่ 3253.05 เพิ่มขึ้น 15.87 (0.49%)
- Nasdaq ปิดที่ 9129.24 เพิ่มขึ้น 60.66 (0.67%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13320.18 เพิ่มขึ้น 93.35 (0.71%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7574.93 เพิ่มขึ้น 1.08 (0.01%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3772.56 เพิ่มขึ้น 13.31 (0.35%)
- FTSE MIB ปิดที่ 23832.02 เพิ่มขึ้น 108.64 (0.46%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23204.76 ลดลง -370.96 (-1.57%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6817.6 ลดลง -8.8 (-0.13%)
- Shanghai ปิดที่ 3066.89 ลดลง -37.91 (-1.22%)
- SZSE Component ปิดที่ 10706.87 ลดลง -122.18 (-1.13%)
- China A50 ปิดที่ 14315.57 ลดลง -136.86 (-0.95%)
- Hang Seng ปิดที่ 28087.92 ลดลง -234.14 (-0.83%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 11817.1 ลดลง -63.22 (-0.53%)
- SET ปิดที่ 1559.27 ลดลง -25.96 (-1.64%)
- KOSPI ปิดที่ 2151.31 ลดลง -24.23 (-1.11%)
- IDX Composite ปิดที่ 6225.69 ลดลง -53.66 (-0.85%)
- BSE Sensex ปิดที่ 40817.74 ลดลง -51.73 (-0.13%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7736.24 ลดลง -104.46 (-1.33%)
Commodity
- ราคาน้ำมัน Crude Oil WTI ปิดที่ 59.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -3.15 (-5.02%)
- ราคาน้ำมัน Brent Oil ปิดที่ 65.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -2.96 (-4.34%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1559.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -14.65 (-0.93%)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters