ทรัมป์เดินหน้าเปิดเมืองแม้โควิด-19 ยังระบาด, จีนเดินหน้าทดสอบดิจิทัลหยวนใน 4 เมืองใหญ่: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (7 พ.ค. 2563)

China Daily รายงานว่าจีนเริ่มทดลองใช้เงินดิจิทัลหยวนที่พัฒนาขึ้นเองกับระบบการเงินจริง นับเป็นประเทศแรกที่เริ่มทดลองใช้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกอื่นแก่นักลงทุนและนักธุรกิจนอกจากการใช้เงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของโลก ซึ่งได้มีการเริ่มทดลองใช้แล้วใน 4 เมืองของจีน ได้แก่ เซินเจิ้น ซูโจว เฉิงตู รวมทั้งสงอัน เขตเมืองใหม่

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ยืนยันว่าจะทยอยเปิดเมืองอีกครั้ง แม้อาจมีความสูญเสียเกิดขึ้น แต่ด้วยมาตรการ Social Distancing การใส่หน้ากาก และสิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่วงการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะกลับสู่ภาวะปกติเร็วๆ นี้ พร้อมทั้งระบุว่าการพัฒนาวัคซีนกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี

สิงคโปร์อ่วม โควิด-19 ระบาดระลอกสอง โดยวานนี้กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เผยว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสิงคโปร์พุ่งสูงเกิน 20,000 ราย ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน โดยส่วนใหญ่มาจากแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหอพักเป็นหลัก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 90% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 18 รายเท่านั้น

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้ธนาคารกลางอังกฤษมีกำหนดตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะประกาศคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.10% ต่อเนื่อง แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มากดดันการส่งออกและการบริโภคก็ตาม หลังจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีการปรับลดไป 0.15% ส่วนสหรัฐฯ มีกำหนดรายงานตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ 3 ล้านตำแหน่ง ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 3.84 ล้านตำแหน่ง แต่ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงสถิติสูงสุด สืบเนื่องจากวิกฤตโควิด-19

วาลดิส ดอมบรอฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า GDP ของ EU อาจติดลบ 7.4% ในปี 2020 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษ 1930 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่า GDP สหภาพยุโรปจะขยายตัว 1.4% ในปีนี้

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้

ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ปรับตัวลงจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ออกมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี แสดงถึงภาคธุรกิจที่มีการปิดกิจการไปพอสมควรจากผลกระทบของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ได้ปรับตัวขึ้นสวนทางกับตลาดจากแรงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น หุ้น Netflix พุ่ง 2.26% และหุ้น Apple ปรับตัวขึ้น 1.03% ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากแรงกดดันของตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปที่อาจหดตัวกว่า 7% ในปี 2020 รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมาจากความกังวลดังกล่าว

สัญญาน้ำมันปรับตัวลงหลังสต๊อกน้ำมันสหรัฐฯ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 15 สัปดาห์ติดต่อกัน แม้ว่าตัวเลขจะน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก็ตาม แต่นักลงทุนยังคงกังวลปริมาณน้ำมันที่เริ่มล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ และแรงเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากความคาดหวังที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นฟูในเร็วๆ นี้ หลังหลายๆ ประเทศเริ่มเปิดเศรษฐกิจแล้ว

สหรัฐฯ