– เช้านี้ทางการจีนเปิดเผยตัวเลขที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วย Industrial Production เดือนกรกฎาคม ขยายตัว 4.8% (YoY) ต่ำกว่าคาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ 5.1% (YoY) ด้าน Fixed Asset Investment เดือนกรกฎาคม หดตัว 1.6% (YoY) ตามคาดการณ์ ส่วน Retail Sales เดือนกรกฎาคม หดตัว 1.1% (YoY) ต่ำกว่าคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.1% (YoY)
– ติดตามตัวเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยคืนนี้สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลข Retail Sales เดือนกรกฎาคม โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.9% (MoM) ลดลงจากที่ขยายตัว 7.5% (MoM) เมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนั้นยังมีกำหนดเปิดเผยตัวเลข Industrial Production เดือนกรกฎาคม ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวที่ 3.0% (MoM) ด้านยุโรปเตรียมเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 (GDP เบื้องต้น) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะหดตัว 15.0% (YoY) และหดตัว 12.1% (QoQ) ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับการเปิดเผยครั้งแรก
– กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกแตะระดับ 963,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.1 ล้านราย และต่ำกว่า 1 ล้านเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะเดียวกันตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 15.48 ล้านราย และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 15.89 ล้านราย
– มาตรการเยียวยายังไม่คืบ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า ประเด็นขัดแย้งที่ยังถกเถียงกันคือ การที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องให้มีการร่างกฎหมายเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการให้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางให้กับสำนักงานไปรษณีย์จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และให้เงินทุนสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนอีกด้วย ซึ่งเป็นวงเงินกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทำเนียบขาวต้องการให้มีวงเงินเพียง 1 ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้น
– ในวันเสาร์นี้ (15 สิงหาคม) สหรัฐฯ และจีนจะกลับมาเปิดโต๊ะเจรจาอีกครั้ง โดยทางสหรัฐฯ มี โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ส่วนจีนส่ง หลิวเฮ่อ รองนายกฯ เข้าเจรจาผ่าน Video Meeting ซึ่งก่อนหน้านี้การเจรจาเฟส 1 ทางการจีนเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ อีก 2 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับเมื่อปี 2017 อย่างไรก็ตาม การเจรจาและข้อตกลงดังกล่าวชะงักไปด้วยการระบาดของเชื้อไวรัส และความตึงเครียดจากการแบนแอปพลิเคชัน TikTok ในสหรัฐฯ
ภาวะตลาดวานนี้
สหรัฐฯ
– Dow Jones อยู่ที่ 27896.72 จุด ลดลง 80.12 จุด (-0.29%)
– S&P 500 อยู่ที่ 3373.43 จุด ลดลง 6.92 จุด (-0.20%)
– Nasdaq อยู่ที่ 11042.50 จุด เพิ่มขึ้น 30.27 จุด (+0.27%)
ยุโรป
– DAX อยู่ที่ 12993.71 จุด ลดลง 64.82 จุด (-0.50%)
– FTSE 100 อยู่ที่ 6185.62 จุด ลดลง 94.50 จุด (-1.50%)
– Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3342.85 จุด ลดลง 20.33 จุด (-0.60%)
– FTSE MIB อยู่ที่ 20257.31 จุด ลดลง 180.05 จุด (-0.88%)
เอเชีย
– Nikkei 225 อยู่ที่ 22843.96 จุด เพิ่มขึ้น 405.65 จุด (+1.78%)
– S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6091.00 จุด ลดลง 41 จุด (-0.66%)
– Shanghai อยู่ที่ 3320.73 จุด ลดลง -7.98 จุด (-0.24%)
– SZSE Component อยู่ที่ 13378.18 จุด ลดลง -86.32 จุด (-0.25%)
– China A50 อยู่ที่ 15184.92 จุด ลดลง -16.35 จุด (-0.44%)
– Hang Seng อยู่ที่ 25230.67 จุด ลดลง 353.34 จุด (-1.02%)
– Taiwan Weighted อยู่ที่ 12763.13 จุด เพิ่มขึ้น 47.84 จุด(+0.38%)
– KOSPI อยู่ที่ 2437.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.25 จุด (+0.22%)
– IDX Composite อยู่ที่ 5239.25 จุด เพิ่มขึ้น 5.56 จุด (+0.11%)
– BSE Sensex อยู่ที่ 38310.49 จุด ลดลง -59.14 จุด (-0.15%)
– PSEi Composite อยู่ที่ 6097.78 จุด เพิ่มขึ้น 103.19 จุด (+1.72%)
Commodity
– ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 42.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.20 จุด (-0.47%)
– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 45.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.36 จุด (-0.78%)
– ราคาทองคำ อยู่ที่ 1953.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 35.19 จุด (+1.83%)
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters