พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล กล่าวว่า ไม่มีสกุลเงินใดที่จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐได้ และเน้นย้ำว่า หากไม่มีสกุลเงินดอลลลาร์สหรัฐตลาดการเงินจะหยุดชะงัก เพราะขาดสินทรัพย์ที่หลบภัย เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้เกิดวิกฤตธนาคารที่รุนแรงยิ่งขึ้นอีกด้วย
ไม่มีสกุลเงินใดมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐได้
พอล ครุกแมน ผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2008 ได้แบ่งปันความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ และการสูญเสียสถานะของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินของโลก
เขามองว่า ความเสี่ยงจากการผิดชำระหนี้ไม่ได้ทำให้ดอลลาร์สูญเสียสถานะสกุลเงินสำรองของโลก เพราะยังไม่มีสกุลเงินใดที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ และตลาดการเงินอาจหยุดชะงักหากไม่มีดอลลาร์สหรัฐ เพราะขาดสินทรัพย์สภาพคล่องที่ปลอดภัย
ความคิดเห็นของเขาสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์กับ The New York Times เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า แม้จะมีกระแส De-Dollarization ที่มองว่าดอลลาร์จะสูญเสียอำนาจ แต่มุมมองที่ว่า การล่มสลายของเงินดอลลาร์กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องเกินจริง และสกุลเงินหยวนที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญก็ยังห่างไกลกับดอลลาร์ เนื่องจากถูกควบคุมมากเกินไปจากรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ครุกแมนยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่า เขากังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การผิดชำระหนี้ และผลกระทบของนโยบายที่ถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ เขายังกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้เกิดวิกฤตธนาคารที่รุนแรงยิ่งขึ้น
มุมมองของ พอล ครุกแมน ที่มีต่อบิทคอยน์
นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังไม่ได้เป็นผู้ชื่นชอบคริปโตแต่อย่างใด โดย พอล ครุกแมน เคยกล่าวว่า บิทคอยน์ไม่ได้มีบทบาททางเศรษฐกิจ และมูลค่าของมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ที่อยู่นอกตลาดคริปโต
เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2021 เขายังกล่าวว่า บิทคอยน์เป็นฟองสบู่และแชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) ที่จะดำเนินต่อไป เนื่องจากเป็นโปรเจกต์การหลอกลวงนักลงทุนที่มีการเล่าเรื่องที่ชัดเจนและแยบยล
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง: