ในระหว่างการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงแห่งเอเชีย หรือ Shangri-La Dialogue ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์นั้น ผู้แทนจากหมู่เกาะฟิจิกล่าวว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของภูมิภาคแปซิฟิกที่ร้ายแรงยิ่งกว่าปัญหาสงครามเสียอีก
ไอเนีย เซรูอิราตู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของฟิจิ ได้เน้นย้ำถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ไม่ควรมองข้ามในระหว่างการประชุมใหญ่ ซึ่งนานาประเทศต่างมุ่งเน้นไปที่ปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน
“ปืนกล เครื่องบินขับไล่ เรือรบ หรือกองพันทหาร ไม่ใช่ปัญหาด้านความมั่นคงหลักๆ ของเรา เพราะภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดเพียงอย่างเดียวต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
“ปัญหานี้คุกคามความหวังและความฝันของเราที่จะเจริญรุ่งเรืองต่อไป” เซรูอิราตูกล่าว
ทั้งนี้ ฟิจิเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องประสบกับภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่รุนแรง โดยฟิจิเผชิญกับไซโคลนที่พัดถล่มหลายต่อหลายครั้ง ประกอบกับปัญหาอุทกภัยที่มีต้นเหตุมาจากพายุหมุนเขตร้อน ส่งผลให้ประชาชนนับพันคนต้องพลัดถิ่นฐานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง
ในโอกาสนี้ ผู้แทนจากฟิจิยังได้เรียกร้องให้บรรดาประเทศอุตสาหกรรมดำเนินการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศให้มากกว่าเดิมด้วย
อนึ่ง นอกเหนือจากประเด็นเรื่องสภาพอากาศแล้ว ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญในประเด็นอิทธิพลจีนที่แผ่ขยายอำนาจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จีนได้ลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จีนได้ออกมาปฏิเสธภายหลังว่า ทางการไม่ได้คิดจะสร้างฐานทัพในพื้นที่ดังกล่าว แต่จีนมีเป้าหมายที่จะยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอนเท่านั้น
แฟ้มภาพ: Feroz Khalil for Mai Life Magazine via Getty Images
อ้างอิง: