×

‘FETCO’ เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนร่วง 21% สู่ระดับ ‘ทรงตัว’ กังวลเงินทุนไหลออก-นโยบายดอกเบี้ย Fed

10.04.2023
  • LOADING...
FETCO ดัชนีความเชื่อมั่น

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับลงสู่เกณฑ์ ‘ทรงตัว’ นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากการเลือกตั้งและ Fed ชะลอขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยกดดันคือเงินไหลออกและนโยบายสกัดเงินเฟ้อของ Fed

 

กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ผลสำรวจในเดือนมีนาคม 2566 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 95.65 ปรับตัวลดลง 21% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ ‘ทรงตัว’ โดยในเดือนที่ผ่านมา SET Index มีความผันผวนจากวิกฤตธนาคารจากการปิดตัวธนาคารสหรัฐอเมริกาและยุโรป นักลงทุนมองว่าการเลือกตั้งในประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อการไหลออกของเงินทุน รองลงมาคือแนวทางนโยบายการเงินของ Fed เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และสถานการณ์ส่งออกที่ชะลอตัว

 

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน สำรวจในเดือนมีนาคม 2566 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้ 

 

  • ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มิถุนายน 2566) อยู่ในเกณฑ์ ‘ทรงตัว’ (ช่วงค่าดัชนี 80-119) ลดลง 21% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 95.65
  • ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลและกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ ‘ทรงตัว’
  • กลุ่มนักลงทุนสถาบันอยู่ในเกณฑ์ ‘ร้อนแรง’ ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ ‘ซบเซา’ 
  • หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) 
  • หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK) 
  • ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเลือกตั้งในประเทศ
  • ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ความกังวลต่อการไหลออกของเงินทุน

 

“ผลสำรวจ ณ เดือนมีนาคม 2566 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า มีเพียงความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับเพิ่มขึ้น 21.9% อยู่ที่ระดับ 131.25 ในขณะที่กลุ่มอื่นปรับลดลง โดยนักลงทุนบุคคลปรับลด 7.9% อยู่ที่ระดับ 112.07 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 20.0% อยู่ที่ระดับ 100.00 และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับลด 38.6% อยู่ที่ระดับ 75.00”

 

ทั้งนี้ SET Index ในช่วงครึ่งแรกของเดือนมีนาคม 2566 มีความผันผวน โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนหลังเกิดวิกฤตธนาคารจากข่าวการปิดตัวของธนาคารสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Silicon Valley Bank (SVB) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการระดมทุนของสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ และธนาคาร Credit Suisse (CS) ซึ่งประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก จนทางการสวิตเซอร์แลนด์ต้องเจรจาให้ขายกิจการ CS ให้แก่ธนาคาร UBS ส่งผลให้กลุ่มธนาคารทั่วโลกปรับตัวลดลง รวมถึงความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ Fed เพื่อสกัดเงินเฟ้อ 

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของเดือน SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังแนวโน้มวิกฤตธนาคารเริ่มคลี่คลาย การที่ Fed ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายโดยปรับขึ้นเพียง 0.25% และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไทย 0.25% อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองไทยมีความชัดเจนหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปอย่างเป็นทางการ 

 

ขณะที่ SET Index ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 ปิดที่ 1,609.17 จุด ปรับตัวลดลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในเดือนมีนาคม 2566 กว่า 31,494 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 56,059 ล้านบาท 

 

ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามได้แก่ ผลกระทบของวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปหากลุกลาม แนวโน้มทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ เพื่อจัดการปัญหาเงินเฟ้อ โดยเฉพาะความขัดแย้งในรัสเซียกับยูเครนที่ยังไม่คลี่คลาย ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศก่อนการเลือกตั้ง และสถานการณ์การส่งออกที่หดตัวลงจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising