ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ มองว่า มีความเสี่ยงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จำเป็นจะต้องขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 6% หรือมากกว่านั้น เพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลงมา หากดูจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง
“ผมคิดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในท้ายที่สุดจะไปจบลงในระดับที่สูงกว่าที่เคยมองไว้ มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าผมคาดหวังอย่างไร แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้นไปถึง 6% หรือมากกว่านั้น คงจะไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ” ซัมเมอร์สกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความมั่งคั่งจากหุ้นของชาวอเมริกันหายไปกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวหลังวิกฤตโควิด
- Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด 0.75% พร้อมส่งสัญญาณขึ้นต่อลากยาวถึงปีหน้า
- นักวิเคราะห์ชี้พิษนโยบาย Fed เป็นเหตุทำตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน
ล่าสุด Fed ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ทำให้อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันขยับขึ้นมาสู่ระดับ 3.75-4% ขณะที่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ระบุว่า อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยจนทะลุระดับ 4.6%
ขณะที่ Nomura Holdings ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไว้สูงสุดที่ระดับ 5.5-5.75% ในเดือนพฤษภาคม 2023
ซัมเมอร์สกล่าวต่อว่า “ข่าวดีคือเศรษฐกิจยังคงดูดี แต่ข่าวร้ายคือเงินเฟ้อยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง”
ด้าน มาร์ก ซานดี ประธานทีมเศรษฐกิจของ Moody’s Analytics ประเมินว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เกือบ 60% เกิดจากฝั่งอุปทาน และมีสัดส่วนเพียง 28% ที่เกิดจากฝั่งอุปสงค์
“ไม่ว่าจะเป็น Supply Shock หรือ Demand Shock ต่างทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นทั้งนั้น แต่ในฝั่งของ Supply Shock จะทำให้คุณภาพแย่ลง”
ในมุมของตลาดหุ้น การที่ประธาน Fed ยังคงส่งสัญญาณว่าจะยังไม่หยุดต่อสู้กับเงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ อย่าง S&P 500 ดิ่งลง 3.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และด้วยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งซ้ำเติมตลาดหุ้นจากการที่มูลค่าของหุ้นแพงขึ้น 10-30% อิงจากข้อมูลในอดีต
ไมค์ เบลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ FBB Capital Partners กล่าวว่า “เราอยู่ในรอบที่ 3 ของการที่นักลงทุนพยายามเสี่ยงกับนโยบายของ Fed และก็แพ้ทั้ง 3 ครั้ง นักลงทุนกำลังเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่าง เมื่อ Fed ส่งสัญญาณชัดว่าจะดึงให้เศรษฐกิจชะลอลง ในขณะที่แนวโน้มกำไรของบริษัทต่างๆ ก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการชะลอลง”
ด้าน ชาร์ลี ริปลีย์ นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสของ Allianz Investment Management กล่าวว่า “ค่อนข้างยากมากที่จะหาหุ้นที่เป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งในตอนนี้ ชัดเจนว่า Fed ได้พยายามจะชะลอเศรษฐกิจลงมา แต่เรายังไม่ได้เห็นว่าเศรษฐกิจชะลอมากนักจากนโยบายเหล่านี้ ดังนั้นผมคิดว่าเรายังไม่ได้เห็นจุดที่แย่ที่สุด”
อ้างอิง:
