ตลอดปีที่ผ่านมานับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ กระแส Fake News ก็ได้แพร่สะพัดขึ้น จนกลายเป็นคำศัพท์ยอดฮิตประจำตัวนายทรัมป์ จน Collins Dictionary ยกให้ ‘Fake News’ ที่สื่อถึง ข้อมูลเท็จที่มักจะดึงดูดกระแสความสนใจของผู้คนได้ง่าย มักมีลักษณะคล้ายการรายงานข่าว เพื่อก่อให้เกิดกระแสเชิงลบและความเข้าใจผิดในสังคม กลายเป็นคำศัพท์แห่งปี 2017
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผย Fake News Awards 11 รางวัลที่ตนจัดอันดับขึ้นบนหน้าสื่อออนไลน์ โดยสำนักข่าว CNN คว้ารางวัลนี้ถึง 4 จาก 11 รางวัล จากการรายงานข่าวผิดพลาดเรื่องที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ และลูกชายสามารถเจาะข้อมูลของวิกิลีกส์ได้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เรื่องที่นายแอนโทนี สการามุชชี ผู้อำนวยการสื่อสารของทำเนียบขาวมีประชุมลับกับฝ่ายรัสเซีย รวมถึงบิดเบือนการรายงานข่าวบทสนทนาระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอและการตัดต่อคลิปวิดีโอที่ทำให้ดูเหมือนว่า นายทรัมป์ ให้อาหารปลาเยอะเกินไป ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
โดยทรัมป์ได้เน้นย้ำในช่วงท้ายว่า การสมรู้ร่วมคิดอาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะกระทำต่อพลเมืองอเมริกัน และยืนยันว่า ไม่มีการสมรู้ร่วมคิดกับฝ่ายรัสเซียแต่อย่างใด
นอกจากนี้นายทรัมป์ยังได้ทวีตข้อความ ระบุว่า “ถึงแม้ว่าจะมีการรายงานข้อความที่บิดเบือนความจริงเกิดขึ้น แต่ก็ยังมีนักข่าวจำนวนมากที่ผมเคารพนับถือ รวมถึงข่าวดีมากมายที่จะทำให้พลเมืองอเมริกันภาคภูมิใจ”
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มอัตราจ้างงานเกือบ 2 ล้านตำแหน่ง ที่สร้างรายได้กว่า 8 แสนล้านบาทนับตั้งแต่ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ, ชาวแอฟริกันและชาวฮิสแปนิกส่วนใหญ่เผชิญกับอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์, รัฐบาลทรัมป์ ตัดสินใจลดภาษีลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่รัฐบาลของนายโรนัลด์ เรแกน หรือแม้แต่การกระตุ้นให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ของนาโต ร่วมกันแบกรับภาระค่าใช้จ่ายร่วมกันกับสหรัฐฯ มากยิ่งขึ้น เป็นต้น โดยจะไม่ปล่อยให้ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ถูกเอาเปรียบ ตามแคมเปญ The American First และ Make America Great Again ตามที่ได้หาเสียงไว้
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่
- hestandard.co/category/news/world
- หนังสือแฉโดนัลด์ ทรัมป์ Fire and Fury กำลังจะถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์
อ้างอิง: