นับตั้งแต่ที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 2,078 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นเป็นต้นมา ราคาทองคำโลกมีการเคลื่อนไหวในทิศทางค่อยๆ ปรับตัวลง โดยในปัจจุบันราคาทองคำปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน ซึ่งมีปัจจัยกดดันที่สำคัญมาจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางของประเทศชั้นนำ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) รวมไปถึงแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ที่อาจมีผลให้กำลังซื้อทองคำในจีนชะลอตัวลงตาม
ทว่า ราคาทองคำในจีนกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาที่ซื้อขายทองคำในตลาดเซี่ยงไฮ้นับว่าสูงกว่าในตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์ก ส่วนต่างของราคาดังกล่าวเรียกว่า ‘พรีเมียม’ ซึ่งพรีเมียมของราคาทองคำในจีนนั้นมีการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนกันยายน นับว่าเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดเซี่ยงไฮ้ในปี 2002 ซึ่งค่าพรีเมียมสามารถสะท้อนภาวะอุปสงค์และอุปทานทองคำของจีน
ค่าพรีเมียมราคาทองคำในจีน
หมายเหตุ:
- ก่อนเดือนเมษายน 2014 ส่วนต่างถูกคำนวณด้วย Au9999 และ LBMA Gold Price AM ขณะที่หลังช่วงเวลาดังกล่าว Shanghai Benchmark Gold Price PM ถูกนำมาใช้ในการคำนวณ
- ภาพจาก The Chinese gold premium: has the dust settled on the record surge? โดย GOLDHUB, 2023. (https://www.gold.org/goldhub/gold-focus/2023/09/chinese-gold-premium-has-dust-settled-record-surge)
เศรษฐกิจจีนส่อแววชะลอตัว – Fed ส่งสัญญาณค้างดอกเบี้ยสูงและยาวนาน ปัจจัยหนุนการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ในปัจจุบัน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในปี 2023 อาจเติบโตเพียงอัตรา 5.0% นับเป็นการปรับลดประมาณการลงมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณที่ไม่สู้ดี ผ่านตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาย่ำแย่นับตั้งแต่ช่วงเข้าไตรมาส 2 ของปีนี้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจีนอย่างยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นดีกว่าคาดการณ์ในเดือนที่ผ่านมา แต่กระนั้น เศรษฐกิจจีนยังคงมีความเปราะบางจากความเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤตที่รุนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ และความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ของทั้งรัฐบาลท้องถิ่นและภาคธุรกิจ โดยความเสี่ยงทั้ง 2 ประเด็นนี้อาจลุกลามไปยังภาคส่วนอื่นๆ เช่น ภาคสถาบันการเงิน ทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจึงอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง
ทั้งนี้ แนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจดังกล่าวถูกประเมินว่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าว Reuters ที่ระบุคาดการณ์ต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2024 และปี 2025 ไว้ที่เพียง 4.5% และ 4.3% ตามลำดับ
มุมมองเชิงลบดังกล่าวสวนทางกับฝั่งสหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจได้รับมุมมองเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ประกอบกับภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดและยาวนาน สอดคล้องกับการส่งสัญญาณผ่านตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของ Fed โดยทำการคงตัวเลขดังกล่าวไว้ที่ 5.6% ในปีนี้ ขณะที่ในปี 2024 มีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 4.6% สู่ระดับ 5.1% นับเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงและยาวนานมากกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้
ทิศทางเศรษฐกิจที่สวนกันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่งผลต่อระดับอัตราแลกเปลี่ยน โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีมุมมองเชิงบวกมากกว่า ประกอบกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่กล่าวไปในข้างต้นของ Fed ทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีการปรับตัวขึ้น กดดันค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าลง ขณะที่หากเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณเชิงลบ ก็จะยิ่งเป็นปัจจัยกดดันค่าเงินหยวนเพิ่มเติม ซึ่งจะมีส่วนหนุนต่อค่าเงินดอลลาร์
นอกจากนั้น เศรษฐกิจจีนนับว่าเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ ทิศทางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจึงมีแนวโน้มสร้างผลกระทบต่อไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ดังนั้น มุมมองเชิงลบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจีนมีส่วนทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มไม่สู้ดีตามไปด้วย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ส่งผลให้มุมมองเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นโดยเปรียบเทียบ ค่าเงินดอลลาร์จึงมีแนวโน้มได้รับแรงซื้อในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ในเดือนกันยายนค่าเงินหยวนมีการร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023
อย่างไรก็ดี ทางการจีนพยายามออกมาตรการเพื่อสกัดการร่วงลงของค่าเงินหยวน ไม่ว่าจะเป็นการให้ธนาคารของรัฐเทขายเงินดอลลาร์ และอีกมาตรการที่สำคัญคือ การจำกัดโควตานำเข้าทองคำของสถาบันการเงินในประเทศ เนื่องด้วยธนาคารกลางจีน (PBOC) มีบทบาทในการควบคุมปริมาณทองคำในตลาดซื้อขายภายในประเทศ โดยการจำกัดโควตาการนำเข้าทองคำดังกล่าว คาดว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อสกัดการไหลออกของเงินทุน เพราะปริมาณทองคำในจีนราว 60% เป็นทองคำที่นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้น มาตรการจำกัดโควตาทองคำจึงสามารถช่วยสกัดการร่วงลงของเงินหยวนได้
ขณะเดียวกัน ความต้องการซื้อทองคำนั้นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องด้วยความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจีน ทำให้มาตรการกำจัดโควตาทองคำนั้นสร้างความไม่สมดุลให้กับระดับอุปสงค์และอุปทานทองคำในจีน สะท้อนผ่านค่าพรีเมียมที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 121 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงกลางเดือน หลังมีการเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว ซึ่งค่าพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่า ทองคำในจีนนั้นถูกซื้อขายด้วยราคาที่สูงกว่าในตลาดต่างประเทศ
ราคาทองคำในจีนมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อในไตรมาส 4 คาดช่วยหนุนราคาทองคำในตลาดโลก
แม้ว่าราคาทองคำในตลาดเซี่ยงไฮ้จะสูงกว่าตลาดแห่งอื่น และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน แต่กระนั้นกลับพบว่า ความต้องการซื้อทองคำในจีนยังคงเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น จากการศึกษาประเด็นค่าพรีเมียมราคาทองคำในจีนของนักวิเคราะห์จากสภาทองคำโลก พบว่า โดยปกติแล้วในไตรมาส 4 มีแนวโน้มที่ปริมาณความต้องการซื้อทองคำและค่าพรีเมียมจะเพิ่มสูงขึ้น และเป็นช่วงเวลาที่ความต้องการซื้อจะเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกไตรมาส โดยคาดได้ว่านับตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงช่วงสิ้นปี จะมีการซื้อทองคำในรูปแบบเครื่องประดับจากรายย่อยที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนั้น แนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่สู้ดี รวมถึงปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ทยอยปะทุขึ้นอาจยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจ ซึ่งนับเป็นประเด็นที่ช่วยกระตุ้นการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น จึงมีแนวโน้มว่าในไตรมาส 4 ปีนี้ กำลังซื้อทองคำของจีนจะยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยหนุนราคาทองคำ อีกทั้งหาก Fed ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน ก็ส่งเสริมให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4 ที่กำลังจะมาถึงนี้
อ้างอิง:
- สำนักข่าวอินโฟเควสท์. (2566). ราคาทองคำจีนแพงกว่าในตลาดโลก หลังรัฐบาลคุมนำเข้าทำอุปทานตึงตัว: https://www.ryt9.com/s/iq31/3444960
- Cheng Leng and Harry Dempsey. (2023). China lifts temporary curbs on gold imports as renminbi recovers: https://www-ft-com.ezp.lib.cam.ac.uk/content/b8406698-b98f-444b-b1a7-03c29f6f5779
- Cynthia Li. (2023). China Growth Target Hangs in Balance While Economists Cut Forecasts: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-09-26/china-growth-target-hangs-in-balance-as-economists-cut-forecasts
- Eddie Spence and Yvonne Yue Li. (2023). Chinese Gold Buying Is Driving a Paradigm Shift in Bullion: https://finance.yahoo.com/news/chinese-gold-buying-driving-paradigm-081235805.html
- Ray Jia. (2023). China’s gold market in August: demand improved on multiple fronts: https://www.gold.org/goldhub/gold-focus/2023/09/chinas-gold-market-august-demand-improved-multiple-fronts
- ______. (2023). The Chinese gold premium: has the dust settled on the record surge?: https://www.gold.org/goldhub/gold-focus/2023/09/chinese-gold-premium-has-dust-settled-record-surge
- Sybilla Gross. (2023). China’s Gold Prices Surge, Hitting a Record Against the World: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-09-27/chinese-gold-bugs-lift-price-premium-over-world-market-to-record-level-xau
- Trading Economics. (2023). Chinese Yuan: https://tradingeconomics.com/china/currency
- Vivek Mishra. (2023). China 2023 GDP growth forecast cut to 5.0%, 4.5% in 2024 -economists – Reuters poll: https://finance.yahoo.com/news/china-2023-gdp-growth-forecast-030532722.html