เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ เฟซบุ๊กประกาศผ่านบล็อกว่าผู้ใช้จำนวน 6.8 ล้านคนได้ถูกเข้าถึงข้อมูลรูปถ่ายผ่านทางแอปพลิเคชัน 1,500 แอปฯ และบริษัทพัฒนาโปรแกรม 876 เจ้า
ทอมเมอร์ บาร์ ซึ่งเป็น Engineering Director ตัวแทนเฟซบุ๊กกล่าวว่า แอปฯ บุคคลที่สาม (Third-party Apps) เช่น แอปฯ ทายใจ แอปฯ เล่นเกม ได้ถูกเข้าถึงรูปถ่ายของผู้ใช้มากกว่าปกติในช่วงวันที่ 13-25 กันยายน 2018 รวม 13 วัน
“หากคุณอนุญาตให้แอปฯ เหล่านี้เข้าถึงข้อมูลรูปถ่าย เท่ากับว่าคุณยินดีที่จะให้แอปฯ เข้าถึงรูปที่คุณกำลังจะแชร์ในไทม์ไลน์ ในกรณีนี้เราพบว่าพวกเขายังสามารถเข้าถึงรูปถ่ายอื่นๆ ที่แชร์ใน Marketplace หรือ Stories ด้วย”
การเข้าถึงข้อมูลในครั้งนี้ยังลามไปถึงรูปที่คุณกำลังอัปโหลดขึ้นเฟซบุ๊ก แม้ว่ารูปเหล่านั้นยังไม่ได้โพสต์เป็นสาธารณะก็ตาม โดยตัวแทนเฟซบุ๊กได้เขียนอีกด้วยว่า “เราขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น” พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับ CNN ถึงเหตุผลที่ยังไม่ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าพวกเขากำลังสืบสวนถึงประเด็นดังกล่าว และจะพยายามติดต่อกับบริษัทพัฒนาแอปฯ และผู้ใช้ที่เสียหาย โดยอาจจะใช้เวลาสักระยะเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
กรณีการถูกเข้าถึงข้อมูลของเฟซบุ๊กนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยต้นปีที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีกับ Cambridge Analytica ที่ข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้กว่า 87 ล้านรายหลุดไปจน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ถูกสภาคองเกรสเรียกตัวขึ้นชี้แจงปัญหาต่างๆ และเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็เพิ่งออกมาประกาศว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 30 ล้านรายถูกล้วงข้อมูลจากการเข้าถึงฟีเจอร์ View As ที่ใช้ตรวจเช็กหน้าตาโปรไฟล์ของเราในมุมมองของผู้ใช้คนอื่น
เรียกได้ว่าปี 2018 คือปีที่เฟซบุ๊กเจอกับวิกฤตหนักที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2004
อ่านแถลงการณ์เต็มๆ ได้ที่ developers.facebook.com/blog/post/2018/12/14/notifying-our-developer-ecosystem-about-a-photo-api-bug/
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์