Meta บริษัทแม่ของ Facebook และยังเป็นเจ้าของ Instagram และ WhatsApp ถูกทางการสหภาพยุโรป (EU) ลงโทษปรับเป็นเงิน 1.2 พันล้านยูโร หรือกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท
นี่ถือเป็นค่าปรับที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากละเมิดกฎความเป็นส่วนตัวของสหภาพยุโรป ปัญหาคือ Meta กำลังส่งข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ Facebook ในยุโรปไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขัดต่อกฎหมายของสหภาพยุโรป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Facebook เปิดตัวชิป MTIA เพื่อให้ AI ช่วยปรับปรุงการแสดงโฆษณาและเนื้อหาอื่นๆ ในฟีดข่าว แต่ยอมรับยังไม่สามารถทำงานที่ซับซ้อนสูงได้
- อนาคตโซเชียลมีเดีย ‘Facebook-Twitter’ จะเริ่มแคบลง หลังบริษัทกลายเป็นองค์กรแสวงหารายได้ หน้าฟีดเต็มไปด้วยโฆษณาและถูกปิดกั้นมากขึ้น
- จ้างมากเกินไป จนถึงจุดที่พนักงานไม่มีงานทำ! ผ่าต้นตอ ‘วิกฤต Fake Work ที่ Facebook’ เปิดที่มางานตบยุงและพายุเลิกจ้างของบิ๊กเทค
การพิจารณาคดีมีขึ้นหลังจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งกำกับดูแลกิจกรรมของ Meta ในยุโรป ตรวจสอบแนวทางปฏิบัติด้านข้อมูลของ Facebook ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทระหว่างประเทศถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับวิธีการจัดการข้อมูลผู้ใช้ข้ามพรมแดนอย่างไร
กฎหมาย GDPR ระบุว่าบริษัทสามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศหรือองค์กรภายใต้เงื่อนไขบางประการเท่านั้น แต่สหภาพยุโรปพบว่า Meta ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้
ก่อนหน้านี้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Amazon ก็ถูกปรับด้วยข้อกล่าวหาเดียวกันนี้ด้วยมูลค่า 746 ล้านยูโร
หน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรปไม่ได้หยุดเพียงแค่ค่าปรับ พวกเขายังสั่งให้ Meta หยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ชาวยุโรปในสหรัฐอเมริกาภายใน 6 เดือนข้างหน้า นั่นเป็นเรื่องใหญ่เพราะมันหมายความว่า Meta จะต้องเปลี่ยนวิธีการจัดการข้อมูลสำหรับผู้ใช้หลายล้านคน
ทว่า Meta บริษัทกล่าวว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้และค่าปรับ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงบริการของ Facebook ในยุโรปในทันที
ในด้านของ Meta ให้เหตุผลว่ามีความขัดแย้งทางกฎหมายระหว่างกฎหมายของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป พวกเขาระบุว่ากฎของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลและสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของชาวยุโรปไม่สอดคล้องกัน
แต่ดูเหมือนว่า Meta มีความหวังว่าข้อขัดแย้งนี้จะได้รับการแก้ไขผ่านกรอบความเป็นส่วนตัวของข้อมูลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกใหม่ที่ผู้กำหนดนโยบายของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกากำลังดำเนินการอยู่
นอกเหนือจากค่าปรับและคำสั่งให้เปลี่ยนวิธีปฏิบัติในการจัดการข้อมูลแล้ว คำตัดสินนี้ยังกำหนดแบบอย่างสำหรับบริษัทอื่นๆ ที่ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยเน้นย้ำถึงความเสี่ยงทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนดังกล่าว
อ้างอิง: