คลังเล็งถกแบงก์ชาติ-มหาดไทย ขยายอายุมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะหมดลงช่วงปลายปีนี้ วอนสถาบันการเงินเอกชนทำความเข้าใจภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ไม่ผลักภาระให้ผู้กู้มากเกินไป
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยระหว่างปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา ‘Property Inside 2022 ทางรอดอสังหาฯ หลังโควิด-ไฟสงคราม’ ว่ากระทรวงการคลังมีแผนจะเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงมหาดไทย ถึงความเป็นไปได้ในการขยายเวลามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของภาครัฐที่กำลังจะหมดลงในช่วงปลายปีนี้ เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองของกระทรวงการคลัง รวมถึงการผ่อนเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) ของ ธปท.
อาคมระบุว่า ภาคอสังหาถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ยาวและลึกมาก ขณะเดียวกันดัชนีหลายตัวของภาคอสังหา เช่น ยอดโอนและจดจำนองที่ดิน หรือยอดการขออนุญาตก่อสร้าง ก็เป็นตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยหากดัชนีเหล่านี้เติบโต ก็เป็นสัญญาณว่าในระยะอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะมีการลงทุนและก่อสร้างเกิดขึ้น
“แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมาจากภาคส่งออก 60% ภาคท่องเที่ยว 12% และภาคอสังหาราว 8-9% จะเห็นว่าทั้ง 3 ตัวรวมกันมีสัดส่วนมากถึง 80% ของ GDP ไปแล้ว ส่วนที่เหลือก็เป็นการบริโภคในประเทศ ดังนั้นภาคอสังหาจึงมีความสำคัญสำหรับภาครัฐ” รมว.คลัง กล่าว
อาคมยังได้กล่าวถึงแนวโน้มดอกเบี้ยไทยที่กำลังจะมีการปรับขึ้นว่า ดอกเบี้ยถือเป็นปัจจัยและต้นทุนสำคัญที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจะใช้พิจารณาตัดสินใจ ในช่วงที่ดอกเบี้ยกำลังจะเป็นขาขึ้นเช่นนี้ จึงอยากฝากสถาบันการเงินเอกชนเข้าใจในเรื่องนี้ และช่วยพิจารณาว่าจะทำอย่างไรไม่ให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นการลงโทษผู้กู้ที่มากจนเกินไป โดยในส่วนของภาครัฐเองจะพยายามดูแลทั้งในเรื่องมาตรการภาษีและดอกเบี้ยเท่าที่ทำได้
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
