ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับคอนเสิร์ต EXO PLANET #5 – EXplOration – in BANGKOK ของหนุ่มๆ วง EXO ในประเทศไทย ที่งานนี้ยังคงจัดเต็มทุกความสนุกและใกล้ชิดกับ EXO-L (ชื่อแฟนคลับของวง EXO) อย่างทั่วถึงตลอดทั้ง 3 วันเต็ม (20-22 กันยายน) ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
โดยในครั้งนี้ 6 หนุ่ม EXO อย่าง ชานยอล, ไค, เฉิน, แบคฮยอน, เซฮุน และซูโฮ ยังคงจัดเต็มการร้องและการเต้น ซึ่งมาพร้อมกับโปรดักชันแสงสีเสียงแบบไม่มีกั๊ก รวมถึงเวทีคอนเสิร์ตที่ทำให้หนุ่มๆ ได้ใกล้ชิดกับ EXO-L ทั้งฮอลล์ได้อย่างทั่วถึงแบบสุดๆ
EXO PLANET #5 – EXplOration – in BANGKOK เป็นคอนเสิร์ตที่เอเนอร์จี้ของแฟนๆ ร้อนแรงตั้งแต่เริ่ม หลังจากที่ไฟทั้งฮอลล์ดับลงและถูกแทนที่ด้วยความสว่างไสวจากแท่งไฟ เสียงเรียก EXO ดังกระหึ่มเป็นจังหวะไปทั่วทั้งฮอลล์ ก่อนที่ VCR แรกจะถูกเปิดขึ้น และตามมาด้วยการปรากฏตัวแบบเท่ๆ ซึ่งต่อเนื่องมาจาก VCR ของชานยอล, ไค, เฉิน, แบคฮยอน, เซฮุน และซูโฮ ในเพลง Tempo จากอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 Don’t Mess Up My Tempo ซึ่งแน่นอนว่าเหล่า EXO-L ยังคงเปล่งเสียงให้การตอบรับพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ทั้ง 6 หนุ่มจะเพิ่มความร้อนแรงให้มากขึ้นด้วยเพลง Transformer และ Gravity ที่พวกเขาเดินจากสเตจหลักมาทักทายแฟนๆ ตั้งแต่เริ่มคอนเสิร์ต
โดยตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง EXO-L จะได้สนุกไปกับเพลงฮิตและเพลงใหม่ของ EXO อย่าง 24/7, Love Shot, Ooh La La La, Monster, Oasis, Falling For You, Wait, Power, Bad Dream, Growl, Overdose, Call Me Baby, Unfair, On The Snow, Smile On My Face พร้อมสเตจพิเศษของสมาชิกแต่ละคน โดยเริ่มจากแบคฮยอนที่มาในเพลง UN Village ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์อันเหลือล้น, การแสดงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของซูโฮกับเพลง Been Through ที่เพิ่มความร้อนแรงในช่วงท้ายให้แฟนๆ ใจเต้นแรง, เฉินกับเสียงร้องที่เต็มไปด้วยพลังในเพลง Lights Out ที่เมื่อรวมกับไฟคีเนติกกลางเวทีก็ยิ่งส่งให้สเตจของเขามีความลึกซึ้งมากขึ้น, ไคกับการเต้นสุดร้อนแรงในเพลง Confession ที่ทำให้ไม่สามารถละลายตาได้ และชานยอลกับเซฮุน ดูโอคู่แรกของวงที่เปิดตัวในนาม EXO-SC มาพร้อมกับเพลงสนุกๆ ที่ทำให้แฟนๆ ต้องลุกจากเก้าอี้อย่าง What A Life และ Close To You
และแน่นอนว่านอกจากหนุ่มๆ EXO ที่จัดหนักจัดเต็มกันแบบไม่มีกั๊กแล้ว EXO-L ชาวไทยเองก็ได้เตรียมแฟนโปรเจกต์ให้กับหนุ่มๆ แบบจัดเต็มในทุกรอบการแสดงเช่นกัน โดยในคอนเสิร์ตวันสุดท้าย (22 กันยายน) เราได้เห็นแฟนๆ พร้อมใจกันใส่เดรสโค้ดสีแดงไปทั่วทั้งฮอลล์, แฮนด์โปรเจกต์ผ่านป้ายแบนเนอร์ในเพลง Wait ที่มีข้อความว่า ‘기다림의 목적지가 ‘EXO’ 라면 우린 기다릴 준비가 되어있어!’ (ถ้าสุดทางการรอคอยมีผลลัพธ์เป็น EXO เราก็พร้อมที่จะรอ) ซึ่งมู้ดแอนด์โทนของเพลงและแสงของแท่งไฟที่เปลี่ยนเป็นสีส้มสอดคล้องไปกับบรรยากาศได้อย่างลงตัว, การร้องอังกอร์ในเพลง Don’t Go ที่ EXO-L ทั้งฮอลล์ร่วมร้องไปด้วยกัน, แฮนด์โปรเจกต์ที่ 2 ในช่วงสุดท้ายกับข้อความว่า ‘EXO 가 언제든 지돌아봐도 우리는 항상이 자리에 있을거야’ (เมื่อไรที่ EXO มองกลับมา พวกเราจะรออยู่ที่เดิมเสมอ) ซึ่งมาพร้อมกับการแปรอักษรภาพและข้อความผ่านกล่องไฟเป็นภาษาเกาหลี ‘약속해’ แทนความรักและคำสัญญาของ EXO-L ที่มาพร้อมภาพนิ้วก้อยและด้ายแดงที่ผูกกัน สร้างความประทับใจให้กับหนุ่มๆ EXO เป็นอย่างมาก
โดยชานยอลได้กล่าวกับแฟนๆ ในช่วงท้ายคอนเสิร์ตว่า “วันนี้สนุกมากๆ เลยครับ ผมรู้สึกเสียดายมากเลย อยากอยู่ต่ออีกหลายๆ วัน แต่ผมสัญญาว่าจะหาโอกาสกลับมาครับ ถึงแม้ว่าพวกเราจะอยู่ไกลกัน แต่จนกว่าจะถึงวันที่ได้เจอกัน ผมอยากให้ทุกคนฟังเพลงของพวกเราเยอะๆ และติดตามพวกเราผ่านทางโซเชียลด้วยนะครับ!”
เช่นเดียวกับไคที่กล่าวว่า “3 วันที่ผ่านมาผมรู้สึกมีความสุขมากๆ เลยครับ ในคอนเสิร์ตครั้งต่อไปผมก็อยากแสดง 3 วัน 3 รอบแบบนี้อีกครับ แฟนๆ ชาวไทยสุดยอดมากๆ ผมจะจดจำตลอดไปครับ”
ก่อนที่ซูโฮจะกล่าวปิดท้ายว่า “พวกเราทุกคนสนุกสนานกันมาก เพราะได้รับฟีดแบ็กดีๆ จาก EXO-L ไทยทุกคน พวกเราสัญญาว่าเมื่อไรที่ EXO-L มองกลับมา พวกเราจะอยู่ที่เดิมเสมอนะครับ”
ก่อนที่คอนเสิร์ตจะจบลงด้วยการที่หนุ่มๆ EXO เดินร้องเพลงไปรอบฮอลล์ โดยเซฮุนคือสมาชิกคนสุดท้ายที่เดินทักทายและแปะมือกับแฟนๆ ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดได้จนถึงวินาทีสุดท้ายของคอนเสิร์ตครั้งนี้
ภาพ: SM True
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
