หน้าฉากของวงการลูกหนังฝรั่งเศส พวกเขาเป็นหนึ่งในชาติที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ไม่เฉพาะทีมฟุตบอลชายที่เป็นแชมป์โลกและรองแชมป์โลกในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2 สมัยล่าสุด แต่ทีมฟุตบอลหญิงเองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 5 ตามการจัดอันดับของ FIFA Ranking
แต่หลังฉากแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมฟุตบอลหญิงฝรั่งเศสนั้นเลวร้ายอย่างน่าตกใจ เมื่อมีกรณีของ ‘การคุกคามทางเพศ’ โดยคนที่เป็นผู้กระทำคือบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดอย่างประธานขององค์กรลูกหนังด้วย
ย้อนกลับไปในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โนแอล เลอ กราเอ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (FFF) ตกเป็นข่าวอื้อฉาวว่ากำลังถูกไต่สวนกรณีแสดงออกถึงความประพฤติที่ไม่เหมาะสมอย่างเลวร้ายต่อทีมฟุตบอลหญิงของฝรั่งเศส
หรือความจริงควรจะตัดคำว่าร้ายที่ต่อหลังคำว่าเลวออกไปด้วยซ้ำ
ประมุขลูกหนังฝรั่งเศสในวัย 81 ปีที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2011 และถือว่ามีส่วนสำคัญในการปฏิวัติพาทีมชาติฝรั่งเศสกลับมายืนแถวหน้าของโลกฟุตบอลอีกครั้ง หลังจากตกไปถึงจุดต่ำสุดกับกรณี ‘แคมป์แตก’ ในฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นภัยอย่างร้ายแรงต่อทีมฟุตบอลหญิงของฝรั่งเศส และถูก อเมลี อูเดีย-คาสเตรา รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาสั่งสอบสวนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
การสอบสวนนั้นมีขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนปีกลาย โดยมีการเชิญพยานมาให้ปากคำจำนวนถึง 103 คน และพบเรื่องราวที่น่าตกใจ
หนึ่งในสิ่งที่เลอ กราเอ ทำที่มีการเปิดเผยในเอกสารระบุว่า ประธาน FFF เคยขอให้สตาฟฟ์ของทีมหญิง 2 คนควรจะมามีอะไรกับเขาในแบบ ‘Un Plan à Trois’ หรือ ‘ทรีซัม’
ครั้งหนึ่งที่เขาเคยขอให้เจ้าหน้าที่ในสหพันธ์นุ่งกระโปรงในระหว่างที่เดินทางไปทำงานร่วมกับเขา และยังฉวยโอกาสที่จะ ‘สัมผัสต้นขา’ ของหญิงสาวในระหว่างที่เดินทางบนเครื่องบิน แม้จะถูกขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวแล้วก็ตาม
ไม่เฉพาะแค่นักฟุตบอลหรือสตาฟฟ์ แม้แต่เอเจนต์ฟุตบอลที่เป็นผู้หญิงเองก็เป็นเหยื่อของเลอ กราเอ เช่นกัน โดย โซเนีย ซูอิด เอเจนต์ลูกหนังวัย 37 ปี ถูกประธาน FFF ล่อลวงด้วยการให้มานำเสนอแผนงานในการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงของฝรั่งเศสเมื่อปี 2013 หรือในช่วงที่ซูอิดอายุแค่ 24 ปี
แต่แทนที่จะนัดกันที่ทำการของสหพันธ์ กลับให้มาที่บ้านของเขา โดยหลอกล่อว่าจะมี บริจิตต์ อ็องริคส์ ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลหญิงฝรั่งเศส จะมาร่วมรับฟังด้วย
ปรากฏว่า เมื่อซูอิดไปถึงแล้วกลับพบแค่เลอ กราเอ เพียงคนเดียว พร้อมกับคำโอ้โลมว่า “ถ้าเราใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่านี้ ผมจะช่วยผลักดันแนวคิดของคุณเอง”
ในรายงานยังได้ระบุอีกว่าเลอ กราเอ มุ่งเป้าไปที่การ ‘ทำลายเกียรติของเหยื่อ’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เขาเริ่มขาดสติเพราะการดื่มแอลกอฮอล์ จนเจ้าหน้าที่สหพันธ์ถึงกับมีการกำหนดรหัสลับสำหรับในช่วงเวลาที่ประธาน FFF เริ่มเลอะเทอะ
และถึงขนาดที่ถูกสอบสวนเขายังคงทำตัวเป็นเฒ่าหัวงูเหมือนเดิม ด้วยการเที่ยวส่งข้อความหานักฟุตบอลหญิงที่ติดทีมชาติด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
ความร้ายกาจของเลอ กราเอ ที่พนักงานสืบสวนพบ คือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างมีการวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีโดยที่ประธาน FFF จะพยายามไม่ทิ้งร่องรอยอะไรก็ตามที่จะถูกใช้เป็นหลักฐานให้มามัดตัวในภายหลังได้
เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมของเลอ กราเอแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่เหตุใดเวลานี้ทีมฟุตบอลหญิงฝรั่งเศสที่เป็นทีมระดับหัวแถวของโลกทีมหนึ่งจึงประสบปัญหาภายในอย่างรุนแรง
เพราะคนเป็นหัวพยายามที่จะทั้ง ‘กด’ และ ‘ ขี่’ ทีมฟุตบอลหญิงแบบนี้ ข่าวเรื่องบรรยากาศภายในแคมป์ทีมชาติไปจนถึงวิธีการจัดการดูแลของโค้ชอย่าง โกรินน์ ดิอาร์ค ที่ปฏิบัติต่อลูกทีมอย่างเลวร้าย จนถึงขั้นนักเตะในทีมเริ่มบอยคอตต์ จึงอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ว็องดี เรอนาร์ กัปตันทีมจอมแกร่งที่เป็นนักฟุตบอลที่โดดเด่นที่สุดของทีมแม่ไก่สาว ประกาศไม่ขอกลับมาลงเล่นในนามทีมชาติอีกจนกว่าสถานการณ์ภายในทีมจะเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เธอไม่ลงเล่นให้ฝรั่งเศสในศึกฟุตบอลโลกหญิง 2023 ที่กำลังจะเริ่มที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนมิถุนายนนี้
“ฉันปกป้องเสื้อสีน้ำเงิน ขาว และแดง มา 142 ครั้งด้วยความรัก ความเคารพ ความมุ่งมั่น และความเป็นมืออาชีพ” เรอนาร์กล่าวในแถลงการณ์ “ฉันรักฝรั่งเศสมากกว่าสิ่งใด ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ ฉันห่างไกลจากการจะใช้คำนั้นมาก แต่ฉันก็ไม่อาจทนสนับสนุนระบอบปัจจุบัน ซึ่งห่างไกลจากสิ่งจำเป็นสำหรับการเล่นในระดับสูงสุด
“มันเป็นวันที่น่าเศร้า แต่ก็จำเป็นต่อเรื่องการป้องกันปัญหาจิตใจของฉัน”
เรอนาร์ไม่ใช่นักเตะทีมชาติคนเดียวที่ประกาศอำลาทีมชาติฝรั่งเศส เพราะยังมี มารี-อองตวน กาโตโต และ คาดิดิยาตู ดิยานี ที่ประกาศไม่ขอรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสในศึกฟุตบอลโลกหญิงด้วยเช่นกัน
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่วงการฝรั่งเศสรับรู้กันคือ รอยร้าวระหว่างเรอนาร์กับโค้ชอย่างดิอาร์คที่ระหองระแหงกันมานาน ครั้งหนึ่งถึงขั้นริบปลอกแขนกัปตันทีมในปี 2017 ก่อนที่เพิ่งจะคืนให้ในปี 2021 ขณะที่กาโตโตเคยถูกตัดชื่อออกจากชุดฟุตบอลโลกหญิง 2019 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพเอง ทั้งๆ ที่เป็นดาวซัลโวของลีกหญิงฝรั่งเศส
ซาราห์ บูฮาดดี อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติฝรั่งเศส เคยพูดในวันอำลาทีมชาติว่า “การจะคว้าแชมป์กับโค้ชคนนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เราเล่นกันในสภาพแวดล้อมที่ติดลบอย่างมาก ฉันมองไม่เห็นภาพที่ฉันจะคว้าแชมป์ใดๆ ได้กับผู้จัดการคนนี้ และมีผู้เล่นอีกจำนวนมากที่คิดเหมือนกันแต่ยังไม่ได้พูดออกมา”
เรย์นาลด์ เปโดร อดีตผู้จัดการทีมลียง ก็เคยกล่าววิพากษ์การทำงานของดิอาร์คที่ไม่รู้ดูแลนักฟุตบอลอีท่าไหน แต่ทุกครั้งที่นักเตะกลับมาจากการเล่นทีมชาติ ‘จะได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจเสมอ’ และเป็นภาระหนักของสโมสรในการดูแลและฟื้นฟูสภาพจิตใจของนักเตะเหล่านี้
อย่างไรก็ดี ล่าสุด FFF ยืนยันว่า เลอ กราเอ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งแล้ว โดยไม่ยอมรับผิดในทุกข้อกล่าวหาที่ถูกตั้ง และมีข่าวว่าดิอาร์ค ซึ่งถือเป็นคนของประธาน FFF ที่ได้โอกาสในการคุมทีมชาติฝรั่งเศสในปี 2017 หลังจากที่เคยสร้างชื่อด้วยการเป็นโค้ชหญิงคนแรกที่ได้คุมทีมฟุตบอลชายชุดใหญ่กับสโมสรแกลร์ม็องต์ ที่อยู่ระดับลีกเดอซ์ (ดิวิชัน 2) ในปี 2017 ก็เตรียมที่จะอำลาตำแหน่งด้วยเช่นกัน
แม้จะไม่มีใครตอบได้ว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้อะไรๆ ในวงการฟุตบอลหญิงฝรั่งเศสดีขึ้นหรือไม่
แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดีกว่าจะปล่อยให้มันเป็นไปแบบที่ผ่านมาโดยไม่คิดจะทำอะไรเลย
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/article/noel-le-graet-fifa-offer-role-to-disgraced-french-chief-pt0hf0ddm
- https://www.thetimes.co.uk/article/corinne-diacre-set-to-resign-as-france-womens-head-coach-dn7zdwdnn
- https://www.thetimes.co.uk/article/captain-among-french-trio-refusing-to-play-in-world-cup-mcqj62prh
- https://www.thetimes.co.uk/article/no-l-le-gra-t-asked-two-female-colleagues-for-threesome-gz3pjgn9r
- https://www.thetimes.co.uk/article/noel-le-graet-french-football-chief-accused-of-harassment-by-former-agent-sonia-souid-dshl7ctnb