ลีวาย โคลวิลล์ กองหลังอังกฤษอนาคตไกลที่ใครก็อยากได้?

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียงเพลง It’s Coming Home ดังกระหึ่มสนามกีฬาอัดรายาเบ็ตอารีนา ประเทศจอร์เจีย เมื่อ เจมส์ แทรฟฟอร์ด ผู้รักษาประตูดาวรุ่งพุ่งเซฟลูกยิงจุดโทษของ อาเบล รูอิซ ได้ในนาทีที่ 99 ของการแข่งขัน

ประตูนี้ทำให้ทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี โค่นสเปนได้ 1-0 คว้าแชมป์ทวีปยุโรปรุ่นนี้มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี และเป็นความสำเร็จที่งดงามอย่างยิ่ง เพราะตลอดทั้งรายการพวกเขาชนะรวดทุกนัด โดยไม่เสียประตูให้คู่แข่งเลยแม้แต่ประตูเดียว

ดังนั้นนอกเหนือจากเหล่าดาวเด่นในแนวรุกอย่าง แอนโธนี กอร์ดอน ซึ่งเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์, มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์ นักเตะพรสวรรค์สูงที่น่าจับตามองอีกคน, เอมิล สมิธ-โรว เพลย์เมกเกอร์ประจำทีม, โคล พาลเมอร์ ผู้สังหารฟรีคิกที่นำไปสู่ประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศ (แม้มันจะแฉลบก็เถอะ!), แองเจิล โกเมส มิดฟิลด์ฉบับกระเป๋าที่คุมแดนกลางของทีมได้อยู่หมัดร่วมกับ เคอร์ติส โจนส์ ห้องเครื่องที่โชว์ฟอร์มสุดยอดจนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมทั้งในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ

เกมรับของทีมก็สมควรได้รับคำชื่นชมเช่นกัน ซึ่งนอกจาก เจมส์ แทรฟฟอร์ด ผู้รักษาประตูผลผลิตจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งย้ายไปเบิร์นลีย์แบบถาวรแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคนที่ได้รับคำชมเชยอย่างมากจากฟอร์มที่โดดเด่นมาตลอด

ลีวาย โคลวิลล์ ปราการหลังซ้ายธรรมชาติ ที่ว่ากันว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักของทีมสิงโตคำรามรุ่นต่อไป

และเป็นนักเตะที่หมายปองของหลายสโมสรด้วย

หากใครได้นั่งชมไฮไลต์ของโคลวิลล์ กองหลังวัย 20 ปี ในนัดชิงชนะเลิศที่พบกับทีมชาติสเปน หรือจะเป็นไฮไลต์ในสีเสื้อของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ในฤดูกาลที่ผ่านมา จะได้เห็นกองหลังที่ไม่ได้มีรูปร่างที่สูงใหญ่เกินไปนักสามารถบัญชาเกมรับได้อย่างน่าประทับใจ

จุดเด่นของโคลวิลล์นอกจากจะเป็นเรื่องของความนิ่งที่ราวกับเกิดในเมืองหิมะ ที่แทบไม่มีการตื่นตระหนกกับสถานการณ์ใดเลยก็ตาม ทีเด็ดของเขาคือการผ่านบอลขึ้นหน้า

ความแม่นยำในการเปิดบอลของกองหลังถนัดซ้ายรายนี้อยู่ในระดับสูงมาก แทบจะเหมือนกับการ ‘ลากเส้น’ ได้เลยว่าต้องการจะเปิดขึ้นหน้าไปตรงไหน ทิศทางไหน น้ำหนักเท่าไร ซึ่งคุณสมบัติตรงนี้เองที่ทำให้โคลวิลล์กลายเป็น ‘ของดี’ สำหรับเกมฟุตบอลสมัยใหม่ ซึ่งเริ่มขึ้นเกมจากแดนหลัง

คุณสมบัตินี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก โดยเฉพาะกับการไปอยู่ทีมที่เล่นฟุตบอลภาคพื้นและให้ความสำคัญกับการตั้งเกมจากแดนหลังอย่างไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ในฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้โอกาสไปเก็บประสบการณ์กับฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์

เช่นเดียวกับการได้โอกาสในการเล่นฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ระดับเยาวชนทีมชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกับรายการที่เพิ่งจบไปที่จอร์เจีย เขาเองก็ได้ ‘เคล็ดวิชา’ เพิ่มเติมอีกจากอดีตหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับเชลซีอย่าง แอชลีย์ โคล

โคลวิลล์เล่าว่า เขาได้รับคำแนะนำในเรื่องของการเปิดบอลจากโคล หนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของอังกฤษ “แอช (โคล) ให้คำแนะนำที่สำคัญมากกับผม มันเป็นตอนที่ผมพยายามจะจ่ายบอลทะลุแนว และผมต้องเปิดบอลด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น แต่ปกติแล้วเท้าขวา (เท้าหลัก) ของผมจะอยู่หน้าลูกบอล เขาทำให้ผมเห็น ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ไม่เคยสังเกตมาก่อน พอผมถามไปเขาก็เลยเอาคลิปการเล่นให้ผมดู

“ในการซ้อมวันถัดไปผมเลยเริ่มวางเท้าขวาเอาไว้หลังบอล ผมไม่รู้จะขอบคุณเขาอย่างไร เพราะมันเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่มีใครเคยบอกผมเลย แต่เขาเคยเป็นแบบเดียวกันมาก่อนและผ่านมันมาได้ มันเป็นประสบการณ์ที่เขาเจอกับตัวเอง”

แต่การฉายแววของโคลวิลล์นั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังทำให้เชลซีต้องคิดหนักเลยทีเดียว

นั่นเพราะจากที่เริ่มพอมีคนพูดถึงบ้าง ตอนนี้ใครๆ ก็รู้จักโคลวิลล์กันหมดแล้ว และฟอร์มการเล่นในระดับนี้ทำให้หลายๆ สโมสรให้ความสนใจจะดึงตัวไปร่วมทีม

หนึ่งในนั้นคือ ‘ลิเวอร์พูล’ ที่ต้องการได้โคลวิลล์มาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแดนหลัง เพราะกองหลังวัย 20 ปีคนนี้ตอบโจทย์ทุกข้อในระบบการเล่นใหม่ของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่คาดว่าจะต่อยอดนำมาใช้ในฤดูกาลใหม่ 2023/24 หลังจากที่ทดสอบแล้วได้ผลดีมากในช่วง 12 นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว (แม้ว่ามันจะดีไม่พอที่จะทำให้ได้ไปแชมเปียนส์ลีกก็ตาม)

กองหลังถนัดซ้าย มีความเร็วพอใช้ได้ แข็งแกร่ง อ่านทางบอลดี นิ่ง และเปิดบอลได้อย่างแม่นยำ

นักวิเคราะห์สายลิเวอร์พูลเชื่อว่า ลิเวอร์พูลมองโคลวิลล์ไว้ไกลในระดับการเป็นตัวตายตัวแทนของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ซึ่งเพิ่งอายุครบ 32 ปีเลยทีเดียว

ทั้งนี้ หากเป็นก่อนหน้านี้โอกาสที่สองสโมสรจะเจรจากันนั้นอาจเกิดขึ้น เพราะโคลวิลล์ไม่ได้เป็นตัวหลักของสโมสรมาก่อน และลิเวอร์พูลก็พร้อมที่จะทุ่มเงินก้อนที่เชื่อว่าจะทำให้เชลซีพอใจและยอมปล่อยตัวให้

แต่ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าโอกาสเจรจากันเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะตอนนี้เชลซีค้นพบแล้วว่าพวกเขามีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือ อีกทั้งสโมสรเพิ่งจะโละ เซซาร์ อัซปิลิเกวตา และ คาลิดู คูลิบาลี สองนักเตะประสบการณ์สูง ออกจากทีม ทำให้มีที่ว่างภายในทีม

คู่แข่งของโคลวิลล์อย่าง เบอนัวต์ บาเดียชิล ที่ถูกดึงตัวมาในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้เก่งกาจกว่าแต่อย่างใด แม้กระทั่ง เฮนรี วินเทอร์ นักข่าวฟุตบอลระดับหัวแถวของอังกฤษ ยังฟันธงชัดเจนว่าสายเลือดของเชลซีรายนี้เก่งกาจกว่า

แถมยังเป็นนักเตะอังกฤษในโควตา Homegrown อีกด้วย เรียกว่าเหมือนได้โบนัสคูณสอง

ทั้งนี้ เส้นทางของโคลวิลล์เองก็แอบดูคล้ายกับ วิลเลียม ซาลิบา ของอาร์เซนอล ซึ่งถูกปล่อยให้สโมสรในฝรั่งเศสยืมใช้งานเพื่อเก็บประสบการณ์ก่อน จนสุดท้ายกลับมาเป็นกำลังหลักในการพาทีมลุ้นแชมป์ได้อย่างเหนือความคาดหมายในฤดูกาลที่แล้ว

เชลซีเองก็อาจมองโคลวิลล์ในแบบเดียวกัน โดยเฉพาะพวกเขากำลังพยายามจะตั้งหลักใหม่ภายใต้การนำของผู้จัดการทีมที่ถูกต้อง (สักที) สำหรับสโมสรระดับเชลซีอย่าง เมาริซิโอ โปเชตติโน ซึ่งมีประสบการณ์สูงทั้งกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และปารีส แซงต์ แชร์กแมง

คาดกันว่าการพูดคุยกันในเรื่องอนาคตของโคลวิลล์กับเชลซีจะเกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้พักผ่อนในระยะเวลาสั้นๆ หลังจบภารกิจเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยจะมีการประเมินอนาคตร่วมกันว่าเขาอยู่ตรงไหนในแผนของโปเชตติโน

ถ้ามองเห็นภาพตรงกัน มีโอกาสจะได้ลงสนามเป็นตัวหลักของทีมและมีโอกาสประสบความสำเร็จ โคลวิลล์ก็น่าจะยินดีอยู่กับเชลซีต่อไป

แต่ถ้าเห็นภาพไม่ตรงกัน ก็อาจจะเลือกขอลองไปหาทีมที่มองเห็นภาพตรงกันและมีเส้นทางที่น่าจะดีกว่ากับอนาคต ซึ่งตรงนั้นก็จะเป็นโอกาสของสโมสรอื่นที่จะได้ลองดูว่าจะสามารถเกลี้ยกล่อมเชลซีได้ไหม

ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยได้รับข้อเสนอมาแล้ว 2 ครั้งจากไบรท์ตัน ในสนนราคา 40 ล้านปอนด์ แต่ก็ปฏิเสธไป เพราะเชื่อว่าโคลวิลล์น่าจะมีค่าตัวที่สูงกว่านี้ ซึ่งก็เป็นการคาดเดาที่ถูกต้อง เพราะผลงานของเขาในรายการชิงแชมป์ยุโรป ยู-21 ทำให้ค่าตัวน่าจะพุ่งขึ้นไปอีกมาก

ตัวเลขที่ Transfermarkt ระบุไว้ที่ราว 25 ล้านปอนด์นั้นถือว่าน้อยเกินไปมาก บางทีน่าจะคูณ 2 หรือ 2.5 เท่าได้เลยทีเดียว หรืออาจมีการเรียกร้องมากกว่านั้นด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอนสำหรับใครก็ตามที่อยากได้เขาไปร่วมทีม ต่อให้เชลซีจะเหมือนมีความต้องการขายสมบัติกิน เพื่อแต่งตัวเลขบัญชีสโมสรไม่ให้มีปัญหากับกฎ Financial Fair Play ในอนาคตก็ตาม

เรื่องตรงนี้ยังไม่แน่ชัด อาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์กว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

แต่สิ่งที่พอได้เห็นตอนนี้คือ โคลวิลล์มีโอกาสจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสตาร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษในอนาคตอันใกล้

ส่วนจะไปถึงการเป็นเบอร์หนึ่งได้หรือไม่นั้น น่าจับตามองอย่างยิ่ง

อ้างอิง: