×

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดยอดขาย ‘รถไฟฟ้า’ ไทยปีนี้อาจโตสูง 288% ชี้อีก 10 ปี ยอดขายรถยนต์ในประเทศเกินครึ่งมาจาก EV

16.03.2021
  • LOADING...
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดยอดขาย-‘รถไฟฟ้า-ไทยปีนี้อาจโตสูง

กระแสนิยมและเทรนด์ความสนใจที่มีต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV ของผู้บริโภคชาวไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดูจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันที่คนส่วนใหญ่เริ่มตื่นตัวต่อประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม การเข้ามาทำตลาดของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน และการผงาดขึ้นมาสร้างความโดดเด่นในอุตสาหกรรมของ Tesla

 

ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการคาดการณ์ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยสำหรับปี 2564 นี้ โดยคาดว่าภาพรวมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งตลาด (นับรวม HEV, PHEV และ BEV) น่าจะโตที่ระดับ 69-79% หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีจำนวน 30,705 คัน ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 52,000-55,000 คันได้ไม่ยาก หลังจากที่ 2 เดือนแรกของปี 2564 นี้ มียอดการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทกับกรมขนส่งทางบกมากกว่า 9,164 คันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขยายตัวมากถึง 42.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

เมื่อจำแนกแยกประเภทรถยนต์ไฟฟ้าจากการคาดการณ์ดังกล่าวจะพบว่า รถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถ EV แบบ 100% หรือ BEV นั้นจะมีอัตราการเติบโตในเชิงยอดขายสูงกว่า 210-288% เลยทีเดียว โดยคาดว่าจะมียอดขายทั้งปีที่ราว 4,000-5,000 คัน จากปีก่อนหน้าที่มียอดขายรวม 1,288 คัน

 

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าตลาด BEV จะโตหวือหวาได้มากขนาดนี้ เป็นผลมาจากการเข้ามาทำตลาดของค่ายรถไฟฟ้าจีนอย่างจริงจัง การใช้มาตรการภาษีนำเข้า 0% จากข้อตกลงการค้าเสรีไทย-จีน รวมถึงราคาที่จับต้องได้ ส่วนปัจจัยหนุนการโตของตลาดในอนาคตจะอยู่ที่ความสามารถของภาครัฐและเอกชนสามารถในการเพิ่ม ‘ความเชื่อมั่น’ ให้กับผู้บริโภคในตลาด โดยเฉพาะประเด็นการวางโครงข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุม

 

ด้าน HEV (ไฮบริด) และ PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) คาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งปีที่ 48,000-50,000 คัน เติบโตจากปีก่อนหน้ากว่าราว 63-70% ซึ่งมียอดขายที่ราว 29,417 คัน ซึ่งถือเป็นโมเดลมาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในหลายๆ ค่ายไปแล้ว

 

โดยที่อีก 10 ปีต่อจากนี้ หรือภายในปี 2573 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า มีโอกาสที่สัดส่วนยอดขายรถยนต์กลุ่มพลังงานไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 55% ของปริมาณยอดขายรถยนต์รวมทุกชนิดในปีนั้นของประเทศ สอดคล้องกับคาดการณ์ปริมาณการผลิตรถยนต์ในประเทศกลุ่ม EV ของไทย ซึ่งก็มีโอกาสที่จะขยับส่วนแบ่งขึ้นไปสูงกว่า 50% 

 

ขณะที่สัดส่วนการส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย คาดว่าจะอยู่ในระดับประมาณ 47% ของปริมาณการส่งออกรถยนต์รวมของไทย เนื่องจากตลาดรถยนต์ที่ไทยส่งออกเป็นส่วนใหญ่ต้องอาศัยระยะเวลาที่มากกว่าในการตอบรับต่อรถยนต์ EV 

 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยทิ้งท้ายไว้ว่า มาตรการกระตุ้นตลาดที่น่าสนใจนอกเหนือจากการเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้า และมาตรการด้านภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคนั้น ยังได้แก่การสร้างความพร้อมของอุตสาหกรรมกำจัดซากรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพในประเทศ การออกแบบมาตรการจำกัดและการลดปริมาณรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีที่เหมาะสมในอนาคตเพื่อลดความต้องการถือครองรถยนต์เก่าของผู้บริโภคลง และเพิ่มโอกาสหมุนเวียนรถยนต์ในตลาดให้มากขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising