×

เกาะสนามวงการลูกหนังยุโรป: เมสซีเถลิงแชมป์โลก, จับตาคลื่นลูกใหม่ที่ชื่อ เอ็มบัปเป-ฮาลันด์

26.12.2022
  • LOADING...
ลูกหนังยุโรป

นับเป็นปีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวให้กล่าวขานไปอีกนานแสนนาน สำหรับวงการลูกหนังยุโรปปี 2022 ตั้งแต่บทสัมภาษณ์สะเทือนวงการของ คริสเตียโน โรนัลโด ที่กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล, เหล่าคลื่นลูกใหม่ของวงการที่ทยอยแจ้งเกิดกันยกใหญ่, ความขมขื่นที่ทีมชาติอิตาลีไม่อาจยอมรับ หลังชวดเล่นบอลโลก 2 ครั้งติดต่อกัน, หลายสโมสรบิ๊กทีมทยอยเปลี่ยนเจ้าของ และบทสรุปฟุตบอลโลก 2022 ที่มีพระเอกของเรื่องชื่อว่า ‘ลิโอเนล เมสซี’

 

THE STANDARD ถือโอกาสขอพาแฟนบอลไปทบทวนกับ 10 เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวงการลูกหนังตลอดปี 2022 ที่เชื่อว่าจะเป็นขวบปีที่แฟนบอลจะไม่มีวันลืมเลือน…โดยเฉพาะภาพจูบถ้วยแชมป์โลกของชายชื่อ ‘เมสซี’

 

 

GOAT! ลิโอเนล เมสซี เถลิงแชมป์โลก อำลาฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของชีวิต

 

นับเป็น Moment of the Year คงจะไม่ผิดนัก กับซีนที่ ‘ลิโอเนล เมสซี’ ราชาลูกหนังคนปัจจุบัน หรือสมญานามที่แฟนบอลเรียกว่า GOAT (Greatest of All Time) ได้จูบถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก และฉลองแชมป์กับเพื่อนร่วมทีมชาติอาร์เจนตินาอย่างชื่นมื่น หลังการดวลจุดโทษดับแชมป์เก่าฝรั่งเศสในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

 

แชมป์โลกถ้วยนี้กลายเป็นสิ่งที่เติมเต็มความสมบูรณ์แก่กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา หลังต้องผิดหวังในการไล่ล่าแชมป์ในทัวร์นาเมนต์นี้มาแล้ว 4 ครั้ง และแน่นอนว่าเมสซีสามารถทำมันสำเร็จได้ในครั้งสุดท้าย พ่วงด้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ (Golden Ball) สมัยที่ 2 ไปครอบครองอย่างยิ่งใหญ่

 

ลูกหนังยุโรป

 

บทสรุปศึกฟุตบอลโลก 2022 

 

นับเป็นศึกฟุตบอลโลกที่มีสารพัดเรื่องราวให้น่าจดจำครั้งหนึ่ง แม้จะเผชิญปัญหาดราม่ากันตั้งแต่ยังไม่ได้เขี่ยบอลเริ่มเกมในสนามเลยด้วยซ้ำ สำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์

 

เริ่มตั้งแต่กาตาร์กลายเป็นเจ้าภาพที่ผลงานย่ำแย่ที่สุด หลังร่วงรอบแรกแบบไร้แต้ม, ตัวแทนจากเอเชียรวมพลังประกาศศักดาให้ทั่วโลกเห็นว่าปีนี้ ‘ทีมจากเอเชียไม่ใช่ไม้ประดับ’ หลังโค่นทีมยักษ์ใหญ่แบบช็อกโลกกันตั้งแต่นัดเปิดสนาม และมีถึง 3 ทีมจากเอเชียที่สามารถกรุยทางเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย

 

เยอรมนีที่พกดีกรีแชมป์โลก 4 สมัยติดตัวมาหนนี้ ร่วงฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่ม 2 ครั้งหลังสุดอย่างน่าเจ็บใจ, ภาพส่งท้ายที่ไม่น่าประทับใจของเหล่า Golden Generation ทีมชาติเบลเยียม, บราซิลที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ของรายการ ไปไม่ถึงฝั่งฝันด้วยน้ำมือของโครเอเชีย, โมร็อกโกกลายเป็นม้ามืดตัวจริงของทัวร์นาเมนต์ หลังกลายเป็นทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่ผ่านถึงรอบรองชนะเลิศ และได้รับอันดับ 4 มาครองในท้ายที่สุด

 

และฉากจบอันยิ่งใหญ่ของทัวร์นาเมนต์ กับสุดยอดนัดชิงชนะเลิศที่แฟนบอลทั่วโลกยกให้เป็นหนึ่งในนัดชิงที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอล ระหว่างฝรั่งเศสกับอาร์เจนตินา และภาพการฉลองแชมป์ของทัพ ‘ฟ้า-ขาว’ อาร์เจนตินา ที่คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ในรอบ 36 ปีมาครองส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่

 

ลูกหนังยุโรป

 

คลื่นลูกใหม่ ‘เอ็มบัปเป-ฮาลันด์’ และก๊วนวันเดอร์คิดรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง

 

เป็นอีกปีที่แก๊งเด็กรุ่นใหม่ทยอยแจ้งเกิดด้วยฝีเท้าและผลงานอันโดดเด่น ตั้งแต่ คีเลียน เอ็มบัปเป ที่แม้จะแจ้งเกิดมานานแล้ว แต่เจ้าตัวยังรักษาความยอดเยี่ยมไว้ได้อย่างดีทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ แม้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจะมีข่าวที่ทำให้กองหน้าวัย 24 ปี กลายเป็นเด็กที่ไม่น่ารักในสายตาผู้ใหญ่สักเท่าไร ไปจนถึง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ที่มาระเบิดฟอร์มสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยผลงานลงเล่น 25 นัด ซัดไป 30 ประตู ซึ่งเปรียบดั่งการตะโกนบอกแฟนบอลทั้งโลกว่าเขาจะก้าวมาเป็นกองหน้าระดับท็อปของวงการ

 

นอกเหนือจากนั้นยังมีชื่อของ จูด เบลลิงแฮม ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่โดดเด่นสุดๆ กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 2022, เอนโซ เฟร์นานเดซ กองกลางดาวรุ่งของเบนฟิกา ที่มีส่วนสำคัญในการพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์สมัยที่ 3 และเป็นเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก, วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกสายพลิ้วที่ก้าวมาเป็นกำลังหลักกับเรอัล มาดริด และทีมชาติบราซิล และคู่หูดาวรุ่งแดนกระทิงดุอย่าง เปดรี-กาบี ของบาร์เซโลนา ที่กำลังถูกผลักดันเป็นฟันเฟืองสำคัญของระดับสโมสรและทีมชาติ 

 

ลูกหนังยุโรป

 

คริสเตียโน โรนัลโด กับบทสัมภาษณ์สะเทือนวงการ

 

นับเป็นดราม่าแห่งปีเลยก็ว่าได้ กับกรณีที่ คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าซูเปอร์สตาร์วัย 37 ปี ได้ออกมาสัมภาษณ์ความรู้สึกในใจแบบหมดเปลือกกับ เพียร์ส มอร์แกน ในรายการ TalkTV ของ The Sun ก่อนเริ่มศึกฟุตบอลโลก 2022

 

ซึ่งบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ได้ไปพาดพิงถึงบุคคลคนอื่นๆ มากมาย ตั้งแต่การบอกว่าตนเองหมดความเคารพในตัว เอริก เทน ฮาก, ไม่เข้าใจว่าทำไมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงพา ราล์ฟ รังนิก ที่เป็นผู้อำนวยการกีฬา มาทำหน้าที่โค้ช, ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกอดีตเพื่อนรักอย่าง เวย์น รูนีย์ วิจารณ์หนักอยู่บ่อยครั้ง ไปจนถึงโครงสร้างสโมสร ที่กองหน้ามากประสบการณ์รายนี้มองว่ามันหยุดพัฒนานับตั้งแต่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากทีมในปี 2013 

 

ซึ่งในท้ายที่สุด ผลลัพธ์จากบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตัดสินใจแถลงยกเลิกสัญญากับโรนัลโด โดยเป็นการแยกทางด้วยความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย

 

นั่นจึงทำให้ ณ ปัจจุบัน โรนัลโดมีสถานะเป็นนักเตะฟรีเอเจนต์ ที่สามารถเซ็นเข้าร่วมสโมสรใดก็ได้ในช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวจะกลับมาเปิดในวันที่ 1 มกราคม 2023

 

ลูกหนังยุโรป

 

เรอัล มาดริด ผงาดเจ้ายุโรป 14 สมัย, คาริม เบนเซมา คว้าบัลลงดอร์

 

ยังคงรักษาตำแหน่งสโมสรที่ครองถ้วยแชมป์ยุโรป หรือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มากที่สุดในบรรดาทีมจากทวีปยุโรป หลังเพิ่งคว้าแชมป์ 14 สมัยมาครอบครองได้สำเร็จ หลังสามารถเอาชนะลิเวอร์พูลในนัดชิงชนะเลิศไปได้ 1-0 จากประตูโทนของ วินิซิอุส จูเนียร์ 

 

อีกทั้งเป็นการจบฤดูกาล 2021/22 อย่างงดงาม ด้วยการเป็นดับเบิลแชมป์จากการชนะแชมป์ลีก ลาลีกา สเปน และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

 

ขณะที่ คาริม เบนเซมา กองหน้าวัย 35 ปี ที่มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ ก็สามารถเข้าป้ายคว้าบัลลงดอร์มาครองอย่างภาคภูมิเช่นกัน

 

ลูกหนังยุโรป

 

อาร์เซนอล ขอทวงบัลลังก์แชมป์

 

หลังจากห่างหายจากการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกมายาวนานกว่า 18 ปี นับตั้งแต่ชุด ‘แชมป์ไร้พ่าย’ ฤดูกาล 2003/04 ในการดูแลของ อาร์เซน เวนเกอร์

 

ล่าสุดฤดูกาล 2022/23 อาร์เซนอลในมือของ มิเกล อาร์เตตา กำลังมีลุ้นพาทัพเดอะ กันเนอร์ กลับสู่บัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกที่ร้างรากันมานานแสนนาน ด้วยขุมกำลังได้รับการเพาะบ่ม และถูกเสริมมาตอบโจทย์ในหลายตำแหน่ง ตั้งแต่การมี อารอน แรมส์เดล ประจำการตำแหน่งผู้รักษาประตู, วิลเลียม ซาลิบา ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจในแผงปราการหลัง, กรานิต ชากา ที่กลับมาคืนฟอร์มเก่งจนเป็นคีย์แมนแดนกลางของทีมร่วมกับ โธมัส ปาร์เตย์ และในแผงเกมรุกที่ได้ดาวโรจน์อย่าง บูกาโย ซากา, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, มาร์ติน โอเดการ์ด และ กาเบรียล เชซุส ประสานงานกันอย่างเข้าขา 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันอาร์เซนอลยังรั้งอยู่ในอันดับ 1 ของตารางคะแนน ด้วยการมี 37 แต้ม จากการลงเล่นไปแล้ว 14 นัด ทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 แต้ม แต่การขาดหายไปของเชซุส ที่ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจากฟุตบอลโลก จะส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ของทีมมากน้อยขนาดไหน ยังเป็นสิ่งที่ยังต้องตามลุ้นกันต่อไป 

 

ลูกหนังยุโรป

 

ปรับรูปแบบ ‘ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก’ ไอเดียใหม่จากฟีฟ่า

 

เมื่อวัน 16 ธันวาคม จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้เปิดเผยถึงไอเดียการดัดแปลงรายการ ‘คลับเวิลด์คัพ’ หรือศึกชิงแชมป์สโมสรโลก จากเดิมที่จะนำสโมสรทีมแชมป์ทวีปจากทุกภูมิภาคมาแข่งขันกันช่วงต้นปี

 

โดยจะมีการดัดแปลงให้เป็นรูปแบบทัวร์นาเมนต์เหมือน ‘ฟุตบอลโลก’ ซึ่งจะมีสโมสรตัวแทนรวม 32 ทีม จาก 6 ทวีปทั่วโลกเข้าร่วมชิงชัย เบื้องต้นมีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปี 2025 และจะเวียนไปแบบนี้ทุก 4 ปี

 

ลูกหนังยุโรป

 

‘นาโปลี’ ท็อปฟอร์ม…ลุ้นแชมป์ลีกในรอบ 32 ปี

 

กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มและมีลุ้นแชมป์เต็มตัว สำหรับทัพ ‘อัซซูรา’ นาโปลี ในการดูแลของ ลูเซียโน สปัลเล็ตติ กุนซือชาวอิตาลีวัย 63 ปี หลังพาลูกทีมทะยานยืน 1 รั้งจ่าฝูง ด้วยระยะห่างจากแชมป์เก่า เอซี มิลาน ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 8 แต้ม

 

นาโปลีชุดนี้มีสไตล์การเล่นที่ค่อนข้างกลมกล่อม โดยเฉพาะในแผงแนวรุก แม้จะเพิ่งเปลี่ยนถ่าย 2 ดาวดังอย่าง ดรีส เมอร์เทนส์ และ ลอเรนโซ อินซิเญ ที่ตบเท้าออกจากทีมไปช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

 

แต่การประสานงานในเซ็ตผู้เล่นเกมรุกปัจจุบันอย่าง วิคเตอร์ โอซิมเฮน, เฮอร์วิง โลซาโน, เอลิฟ เอลมาส และ ควิชา ควารัตสเคเลีย เด็กมหัศจรรย์ของทีม ที่แจ้งเกิดเต็มตัวในฤดูกาลนี้ สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดีกับทีมได้โดยตลอด จนทำให้ทีมอยู่ในตำแหน่งที่มีลุ้นสคูเด็ตโตในรอบ 32 ปี

 

ลูกหนังยุโรป

 

อิตาลีชวดเล่นบอลโลก 2 ครั้งติดต่อกัน

 

การคว้าแชมป์ยูโรช่วงกลางปี 2021 ดูจะยังไม่เพียงพอต่อการพาพลพรรค ‘อัซซูรี’ ทีมชาติอิตาลี กลับเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 

 

หลังจากช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป ทีมชาติอิตาลีเป็นฝ่ายพ่ายให้กับทีมชาติมาซิโดเนียเหนือไปด้วยสกอร์ 0-1 แม้จะสร้างโอกาสยิงมากถึง 32 ครั้ง จนทำให้พวกเขาต้องชอกช้ำ อดลงเล่นฟุตบอลโลก 2 ครั้งติดต่อกันอย่างน่าเจ็บใจ

 

ลูกหนังยุโรป

 

ช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจ…สโมสรบิ๊กทีมเปลี่ยนเจ้าของ

 

จากปัญหาสงครามการเมืองที่รัสเซียรุกรานอธิปไตยของประเทศยูเครน จนลุกลามมาถึงวงการฟุตบอลยุโรป ซึ่งท้ายที่สุด โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมเชลซี และมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนแก่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จนถูกบีบให้ขายสโมสรในที่สุดนั้น

 

ปลายทางของเรื่องนี้จบลงด้วยการที่อบราโมวิชยอมยุติการเป็นเจ้าของทีม พร้อมบริจาคเงินรายได้ทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในประเทศยูเครน โดยรัฐบาลอังกฤษอนุมัติขายเชลซีให้กลุ่มของ ทอดด์ โบห์ลี มหาเศรษฐีผู้คร่ำหวอดในวงการกีฬาอเมริกัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Clearlake Capital ที่ลงทุนด้วยเงินถึง 1.75 พันล้านปอนด์ ในราคา 4.25 พันล้านปอนด์

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นเจ้าของสโมสรเปลี่ยนมือไม่ได้เกิดขึ้นกับเชลซีเพียงทีมเดียว เนื่องจากไม่กี่เดือนต่อมา ข่าวคราวการขายสโมสรจาก 2 ยักษ์ของพรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถูกโหมขึ้นอย่างหนัก 

 

เริ่มที่ลิเวอร์พูล ซึ่งมีเฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป เป็นเจ้าของสโมสร มีข่าวว่าพร้อมเปิดรับการเจรจากับกลุ่มทุนต่างๆ เพื่อหาความเป็นไปได้ในการขายทีม เบื้องต้นมีการประเมินจาก Forbes พบว่าสโมสรจะมีมูลค่าอยู่ที่ 3.6 พันล้านปอนด์ (มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะสูงถึง 4-5 พันล้านปอนด์ หากมีการขายจริง)

 

ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อยู่ในมือของ ‘ตระกูลเกลเซอร์’ มานาน 17 ปี กลายเป็นอีกหนึ่งทีมที่ตัดสินใจเปิดรับข้อเสนอในการซื้อทีม โดยให้เหตุผลผ่านแถลงการณ์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ทัพปีศาจแดงได้มีทางเลือกใหม่ และโอกาสในการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้มีการประเมินว่าแมนฯ ยูไนเต็ด จะมีมูลค่าอยู่ที่ 5 พันล้านปอนด์

 

นอกจากนั้นยังมีกรณีของบอร์นมัธ หนึ่งในทีมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่เพิ่งออกมาประกาศว่า แบล็ค ไนท์ ฟุตบอล คลับ กลุ่มทุนที่นำโดย บิลล์ โฟลีย์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน และมี ไมเคิล บี. จอร์แดน นักแสดงคนดัง เป็นผู้ถือหุ้นขนาดเล็ก ได้เข้ามาเป็นเจ้าของทีมรายใหม่ของพวกเขา แทนที่ มักซิม เดมิน อดีตเจ้าของทีมที่เข้ามาเทกโอเวอร์ทีมได้เพียง 3 ปีเท่านั้น

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising