อีกหนึ่งข่าวดีที่ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกผ่อนคลายขึ้นอีกระดับ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เอกอัครราชฑูตจาก 27 ประเทศในสหภาพยุโรป มีมติอนุมัติข้อเสนอ เปิดพรมแดนให้นักเดินทางต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ใน EU ตั้งแต่ฤดูร้อนนี้เป็นต้นไป โดยหวังช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวขึ้นหลังบอบช้ำจากการปิดพรมแดนเป็นเวลา 1 ปีเต็ม นอกจากนี้พวกเขายังผ่อนคลายเกณฑ์ต่างๆ พร้อมกำหนดประเทศกรีนลิสต์ร่วมกันว่าประเทศใดปลอดภัยและเหมาะแก่การเดินทาง ซึ่งคาดกว่ารายชื่อจะออกในสัปดาห์หน้า
ถึงกระนั้นหลายประเทศในสหภาพยุโรปก็เริ่มนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างถิ่นแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกรีซ ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวอเมริกันผู้ที่ฉีดวัคซีนและผู้ที่มีตรวจเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง, อิตาลีอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางด้วยเที่ยวบิน ‘ปลอดโควิด-19’ เข้ามาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักบริเวณ รวมถึงโครเอเชียที่ยกเว้นเงื่อนไขการกักตัวให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนหรือแสดงผลทดสอบเป็นลบเข้าประเทศ
อย่างไรก็ดีถึงแม้เงื่อนไขของสหภาพยุโรปจะเสนอให้แก่ผู้รับวัคซีนแล้วเท่านั้นที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ แต่เมื่อเจาะลึกลงรายละเอียด มีเพียงวัคซีน 4 ชนิดเท่านั้นที่ยอมรับ ได้แก่ Pfizer-BioNTech, Moderna, AstraZeneca และ Johnson & Johnson ฉะนั้นใครที่ฉีดวัคซีคชนิดอื่นมีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะถูกปฏิเสธการเข้าประเทศในสหภาพยุโรป แม้ว่าคุณจะมีวีซ่าเชงเก้งในมือก็ตาม
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: