×

EURO 2020: เกมสำคัญของอิตาลี เพื่อการันตีเข้าสู่รอบน็อกเอาต์เป็นทีมแรก

โดย THE STANDARD TEAM
16.06.2021
  • LOADING...
EURO 2020 Italy

HIGHLIGHTS

  • อิตาลีต้องการชัยชนะในเกมพบกับสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อที่จะกลายเป็นทีมแรกที่การันตีการเข้ารอบน็อกเอาต์
  • ฟินแลนด์สร้างเซอร์ไพรส์มาในเกมพบเดนมาร์กด้วยการเอาชนะไปได้ 1-0 แต่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาศัยความได้เปรียบทางสภาพจิตในการเอาชนะเกม
  • ตุรกีถูกมองว่าเป็นทีมม้ามืดก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม กลายเป็นทีมที่เสี่ยงต่อการตกรอบที่สุดหลังแพ้ต่ออิตาลี

ฟุตบอลยูโร 2020 เดินทางเข้าสู่เกมที่ 2 ของแต่ละทีมในค่ำคืนนี้ โดยชาติแรกที่ต้องประเดิมการลงสนามในแมตช์ที่ 2 เวลา 20.00 น. จะเป็นเกมในกลุ่ม B ที่ทีมสุดเซอร์ไพรส์อย่างฟินแลนด์ ที่จะรับการมาเยือนของรัสเซีย…ในรัสเซีย! ขณะที่เกมอีก 2 คู่จะเป็นการแข่งขันในกลุ่ม A โดยคู่แรกเวลา 23.00 น. จะเป็นการพบกันของทีมที่ต่างต้องการคะแนน คือตุรกีพบกับเวลส์ ส่วนคู่สุดท้ายของค่ำคืน จะเป็นเกมคู่ใหญ่ที่อิตาลีจะพบกับสวิตเซอร์แลนด์ 

 

EURO 2020

อิตาลี ถูกยกให้ขึ้นเป็นเต็งสองหลังจากถล่มตุรกีในเกมแรก

 

ชัยชนะเพื่อการันตีสู่รอบน็อกเอาต์ของอิตาลี 

ชัยชนะเหนือตุรกีอย่างท่วมท้น 3-0 ในเกมเปิดสนามของอิตาลี ทำให้ใครหลายคนประหลาดใจกับเกมรุกอันจัดจ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม ‘อัซซูรี’ คนปัจจุบัน แต่พวกเขาไม่ได้มีดีแค่เกมรุกเท่านั้น เพราะในเกมรับเอง พวกเขาก็ยังครองสถิติอันยอดเยี่ยมอย่างการไม่เสียประตูให้ใครเลยยาวนาน 9 นัดติดต่อกันไปแล้ว โดยถ้านับเวลาเป็นนาที พวกเขาไม่เสียประตูยาวนานถึง 875 นาที โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเสียประตูคือในเดือนตุลาคม 2020 เลยทีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่เสียประตู หรือแพ้ไม่เป็น ในการเจอกับสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเกมที่ 2 ในรอบแบ่งกลุ่ม แม้ทีมของ ‘มันโช’ จะเหนือกว่ามาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเก็บชัยได้โดยอัตโนมัติ แต่พวกเขาก็ต้องการชัยชนะในเกมนี้ เพื่อที่จะสามารถ ผ่อนกำลังในเกมสุดท้ายที่จะพบกับเวลส์ได้ และแน่นอนว่าการเข้ารอบไปเลยตั้งแต่เกมที่ 2 จบลง ยังเป็นเรื่องที่ดีกว่าต้องไปลุ้นถึงเกมสุดท้ายอย่างเห็นได้ชัด เพราะสร้างความสบายและสามารถลดความกดดันให้กับทีมได้มากกว่าอย่างชัดเจน

 

อิตาลีจะได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองในกรุงโรมต่อไปอีก 2 นัดรวมเกมนี้ และสถิติในสนามนี้ก็ไปเข้าทาง ชิโร อิมโมบิเล กองหน้าจากลาซิโอ ที่ใช้สนามแห่งนี้เป็นรังเหย้า เพราะนับตั้งแต่ปี 2016 ที่ ‘คิง ชิโร’ ย้ายมาร่วมทีม ‘อินทรีฟ้าขาว’ ยิงประตูในสนามนี้ไปทั้งหมด 92 ประตูจาก 118 เกมที่ลงเล่นที่นี่ และขอเพียงแค่อีกประตูเดียวในเกมนี้หรือเกมหน้าก็ได้ เขาก็จะกลายเป็นนักเตะคนแรกของอิตาลี ต่อจาก คริสเตียน วิเอรี ที่ยิงได้มากกว่า 1 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่นับตั้งแต่ปี 2002 ด้วย

 

ถ้าหากอิตาลีเก็บชัยชนะได้ในเกมพบทีมจาก ‘แดนนาฬิกา’ พวกเขาจะมีเพิ่มเป็น 6 คะแนน และการันตีการเข้ารอบต่อไปทันที พร้อมกับส่งผลให้สวิตเซอร์แลนด์ มีเพียงแค่ 1 คะแนนจาก 2 นัด และถ้าสถานการณ์ในคู่ตุรกีพบกับเวลส์ เป็นใจให้ออกผลเสมอ พวกเขาจะคว้าแชมป์กลุ่มทันทีโดยที่ไม่ต้องไปสนใจการแข่งขันในเกมสุดท้ายเลยด้วย

 

ขณะที่ฝั่งสวิตเซอร์แลนด์ พวกเขาเองก็มีสถิติที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเมื่อเจอกับอิตาลีโดย 5 นัดหลังสุดพวกเขาไม่สามารถเอาชนะอิตาลีได้เลย มีผลเสมอ 3 เกมและแพ้ 2 เกม แถมพวกเขายังเสมอในการแข่งขันฟุตบอลยูโรติดต่อกันมาแล้ว 4 เกมติด ซึ่งถ้าเกมนี้พวกเขายังเสมออีก ก็จะทำให้พวกเขาเป็นชาติแรก ที่เสมอติดต่อกันในฟุตบอลรายการนี้ยาวนานถึง 5 นัดทันที

 

EURO 2020

ลูคัส ฮราเดคกี ทำไป 6 เซฟในเกมพบเดนมาร์ก

 

ฟินแลนด์ จะต้องพิสูจน์ว่าชัยชนะนัดแรกไม่ใช่แค่ ‘เฮง’ 

ฟินแลนด์หักปากกาเซียนคว้าชัยเหนือเดนมาร์ก มาได้ในเกมแรกที่พวกเขาลงสนาม ท่ามกลางเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับ คริสเตียน อีริกเซน ทำให้พวกเขาถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาศัยความได้เปรียบทางสภาพจิตใจเหนือทีมคู่แข่งในการเก็บชัยชนะมาได้ และเป็นชัยชนะที่มีโชคเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่าฝีเท้า ดังนั้นในเกมนี้ทีมของ มาร์กคู คาแนร์วา ต้องย่อมต้องการพิสูจน์ตัวเองจากคำพูดเหล่านั้น

 

อันที่จริงแล้วทัพ ‘นกฮูกอินทรี’ ต้องการอีกเพียง 1 คะแนนเท่านั้นเพื่อการันตีว่าพวกเขาจะเข้ารอบแน่นอน เพราะการได้ 4 คะแนนนั้นเกินพอที่จะเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ภายใต้กฎในปีนี้ที่ให้อันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ได้ด้วย ต่างจากฝั่งรัสเซียที่แพ้มาแถมมีประตูติดลบพ่วงมาอีก 3 ลูก การได้ 3 คะแนนเต็มย่อมดีกว่าจะมาเสมอกับทีมที่อันดับเหนือกว่าพวกเขา

 

ฟินแลนด์ทำการตรวจร่างกายนักเตะทุกคนหลังจากเกมที่พบกับเดนมาร์ก เพื่อป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับนักเตะของพวกเขาแบบที่เคยเกิดกับอีริกเซน ดังนั้นสภาพทีมจึงพร้อมเต็มที่ โดยสองฮีโร่ในเกมที่แล้วอย่าง โจเอล โปห์ยานปาโล ผู้ทำประตูชัยก็พร้อมประจำการในแดนหน้า เช่นเดียวกับ ลูคัส ฮราเดคกี ที่เชฟเป็นพัลวันในเกมก่อนจะยังจะลงเป็นตัวจริงเหมือนเดิม

 

ขณะที่ฝั่งรัสเซียกลับต้องเจอปัญหาใหญ่ เมื่อ ยูริ ซีร์คอฟ ฟูลแบ็กจอมเก๋าวัย 37 ปี ที่ได้ลงเป็นตัวจริงในเกมกับเบลเยียม จะไม่ได้เล่นตลอดทัวร์นาเมนต์ที่เหลือเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ทำให้เขาถูกเปลี่ยนตัวออกไปในเกมที่ผ่านมา ขณะที่ ดาแลร์ คุซยาเอฟ นักเตะอีกคนที่ถูกเปลี่ยนตัวออกเพราะอาการบาดเจ็บในเกมพบเบลเยียม ก็อาจจะไม่ได้ลงเป็นตัวจริง แม้จะกลับมาซ้อมได้แล้วก็ตาม

 

EURO 2020

แนวรับตุรกีที่เสียแค่ 3 ประตูในรอบคัดเลือกถูกอิตาลียิงถึง 3 ประตู

 

เกมที่แพ้ไม่ได้ของทั้ง ‘มังกรแดง’ และ ‘ไก่งวง’ 

ตุรกีถูกมองว่าเป็นทีมม้ามืดก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม กลายเป็นทีมที่เสี่ยงต่อการตกรอบที่สุดในชั่วข้ามคืน หลังจากพ่ายอิตาลีขาดลอยถึง 0-3 นอกจากไม่มีประตูแล้ว พวกเขายังมีประตูได้เสีย -3 แถมมาด้วย อย่างไรก็ตาม ในเกมนี้แฟนบอลตุรกีน่าจะเยอะเป็นพิเศษ เหนื่องจากเล่นกันที่บากูในประเทศ อาเซอร์ไบจาน ซึ่งห่างจากตุรกีแค่เพียงมีอาร์เมเนียมากั้นกลางเท่านั้น

 

ทีม ‘ไก่งวง’ ยังมีโอกาสเข้ารอบได้อยู่และมีลุ้นถึงแชมป์กลุ่ม หากพวกเขาชนะได้ทั้ง เวลส์ในเกมนี้และสวิตเซอร์แลนด์ในเกมสุดท้าย ซึ่งถ้าทำได้ พวกเขาก็จะจำอันดับที่ 2 ของกลุ่มเป็นอย่างต่ำ และนั่นจะทำให้พวกเขาไม่ต้องไปลุ้นเข้ารอบด้วยโควตาอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ส่วนเวลส์นั้นแม้จะมี 1 แต้มในมือแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าจะสามารถเข้ารอบต่อไปหากไม่ชนะในเกมนี้ และยิ่งนัดสุดท้ายทีมของ โรเบิร์ต เพจ ต้องรับมือกับตัวเต็งอย่างอิตาลีด้วยแล้ว เกมนี้ยิ่งเป็นเกมที่แพ้ไม่ได้เข้าไปใหญ่

 

สิ่งที่น่าห่วงสำหรับเวลส์ คือการที่พวกเขายิงได้ไม่เกิน 1 ประตูมา 12 จาก 13 เกมหลังสุด ซึ่งบ่งบอกถึงปัญหาการเล่นเกมรุกของทีม แต่ตุรกีเองก็ใช่ทีมที่จะทำประตูเป็นกอบเป็นกำ พวกเขาผ่านเข้ารอบมาด้วยการซื้อเกมรับซึ่งสังเกตได้จากวิธีการเล่นในเกมพบกับอิตาลี ดังนั้นเกมนี้ความสนุกอาจจะอยู่ที่ทั้งคู่แพ้ไม่ได้ ในจุดเดียวกันนั้นเองก็มีความน่ากังวลว่า ทั้งคู่อาจจะกลัวแพ้เกินไป จนทำให้เกมออกมาน่าเบื่อได้เหมือนกัน

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising