ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ! EU ขู่ขึ้นภาษี EV จีน 38% MG มากสุด ตามด้วย BYD และ Geely

หลังจากที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ โดยการออกมาตรการสกัดสินค้าราคาถูกจากจีนยกแผง ที่แน่ๆ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 102.5%

ล่าสุดสหภาพยุโรปก็เตรียมการปรับขึ้นภาษี EV จีน บางสำนักข่าวรายงานว่าอาจเก็บสูงสุดถึง 48% ด้วยเหตุผลหลักๆ ก็ไม่ต่างจากสหรัฐฯ ที่หวังสกัดการแข่งขันด้านราคา ซึ่งการเพิ่มภาษีของสหภาพยุโรปครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มต้นทุนมูลค่าหลายพันล้านยูโรให้แก่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เพราะยอดขายในประเทศยังซบเซา เมื่อเจอภาษีในตลาดใหญ่ๆ เข้าไปอีก คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นหลายๆ แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนกระจายฐานผลิต หาน่านน้ำใหม่ๆ อยู่ในขณะนี้

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ออกมาประกาศในวันนี้ (13 มิถุนายน) ว่า ประเทศในกลุ่ม EU จะเรียกเก็บภาษีพิเศษรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีการนำเข้าจากประเทศจีน โดยระบุว่า รถยนต์ดังกล่าวได้รับประโยชน์อย่างมากจากการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีน และถือเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจต่อผู้ผลิตรถยนต์ EV ในยุโรป

โดยอัตราภาษีที่เรียกถือเป็นภาษีพิเศษต่อยานยนต์ไฟฟ้าระบบแบตเตอรี่ (BEV) ที่มีการนำเข้าจากจีนจากการเรียกเก็บภาษีอัตราเดิม 10% ในปัจจุบัน จะกำหนดอัตราภาษีเพิ่มสูงสุด 38.1% สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ซึ่งไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน และภาษีที่ต่ำกว่า 21% สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศแถบเอเชียที่ปฏิบัติตามแต่ไม่ได้มีการ ‘สุ่มตัวอย่าง’

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สินค้าจีน (ราคาถูก) ทะลักสหรัฐฯ! ‘โจ ไบเดน’ จ่อขึ้นภาษีนำเข้า EV จีนถึง 4 เท่า เพิ่มเป็น 100%

เบื้องต้นตามประกาศของคณะกรรมาธิการยุโรปนั้น จะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ต่างๆ ดังนี้

– BYD อัตรา 17.4%

– Geely อัตรา 20%

– SAIC ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ MG อัตรา 38.1%

ส่วน Tesla ของ อีลอน มัสก์ ซึ่งมีโรงงานผลิต EV ในเซี่ยงไฮ้ อาจได้รับการคำนวณอัตราภาษีในอัตราที่ต่างออกไปในขั้นตอนสุดท้าย หากว่าทางคณะกรรมาธิการฯ ได้รับ ‘คำขอที่พิสูจน์ได้’ ทั้งนี้ จำนวนภาษีที่แตกต่างกันนั้น ซึ่งคิดจากระดับเงินอุดหนุนที่บริษัทเหล่านี้ได้รับจากรัฐบาลจีน

ทั้งนี้ อัตราภาษีใหม่ดังข้างต้นจะเริ่มบังคับใช้แบบเฉพาะกาลตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม และบังคับใช้อย่างถาวรในเดือนพฤศจิกายน

รายงานระบุว่า การตัดสินใจในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ทางคณะกรรมาธิการยุโรปได้ข้อสรุปว่า ซัพพลายเชนของยานยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่และไฟฟ้า หรือ BEV (Battery Electric Vehicles) ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีน ‘ได้ประโยชน์จากการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรม’ ทำให้สหภาพยุโรปจำเป็นต้องกำหนด ‘ภาษีตอบโต้ชั่วคราว’ ต่อ BEV ที่นำเข้าจากจีน

โดยคณะกรรมาธิการยุโรปย้ำว่า การทะลักเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีนที่ได้รับการอุดหนุนจากมาตรการของรัฐบาลจีนถือเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปที่สามารถคาดการณ์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ทางยุโรปจำเป็นต้องดำเนินการจัดเก็บภาษีอัตราพิเศษ

จีนจี้สหภาพยุโรปแข่งขันเสรี ชี้มาตรการนี้ถือเป็นการกีดกันทางการค้า

ด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า การตัดสินใจของสหภาพยุโรปขาดพื้นฐานข้อเท็จจริง และเพิกเฉยต่อกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศที่กำหนดโดยองค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมย้ำว่า ความได้เปรียบของจีนในด้านยานยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นผลจากการแข่งขันที่เสรีและเปิดกว้าง พร้อมชี้ว่า การตัดสินใจของ EU คือการกีดกันทางการค้า ยกระดับความขัดแย้งทางการค้า และ ‘ทำลายการแข่งขันที่ยุติธรรม’

ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนยังระบุอีกด้วยว่า ความเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรปไม่เพียงแต่ทำลายสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีนเท่านั้น แต่ยังจะขัดขวางและบิดเบือนห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงสหภาพยุโรปเองด้วย

หลินเจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เตือนว่า “จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกวิธี เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ตามกฎหมายของประเทศ”

ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของเยอรมนีมองว่า การเก็บภาษีศุลกากรของคณะกรรมาธิการยุโรปจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเยอรมนี

“เพราะจีนเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ของเยอรมนี โดยเฉพาะ Volkswagen ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรป มีการร่วมทุนกับ SAIC”

ส่วน Volvo แบรนด์รถยนต์สัญชาติสวีเดน มองว่า บริษัทกำลัง ‘วิเคราะห์’ มาตรการดังกล่าว ส่วน NIO ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ก็กล่าวว่า แนวทางนี้เป็นอุปสรรคมากกว่า ดังนั้นควรส่งเสริม ปกป้องสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ลดการปล่อยมลพิษ และควรร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน

อ้างอิง: