รายงานเบื้องต้นจากอุบัติเหตุเครื่องบิน Boeing 737 MAX 8 ตกเมื่อเดือนที่แล้ว บ่งชี้ว่านักบินเที่ยวบิน 302 ของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ส ประสบปัญหาในการควบคุมเครื่องบินตลอด 6 นาทีตั้งแต่นำเครื่องเทกออฟขึ้นจากสนามบินในกรุงอาดดิสอาบาบาจนกระทั่งถึงวาระสุดท้าย
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นระบุว่า นักบินและนักบินผู้ช่วยของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สพยายามจัดการกับระบบควบคุมการบินอัตโนมัติที่ทำงานผิดปกติ โดยระบบดังกล่าวบังคับหัวเครื่องบินลดต่ำลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเข้าใจผิดว่าเครื่องบินกำลังสูญเสียแรงยก โดยตลอดเวลาเกือบ 6 นาทีบนนั้น นักบินทั้งสองพยายามปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกฝึกฝนมา แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้
จากข้อมูลในอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินพบว่า กัปตันเที่ยวบินนี้ได้ตะโกน “ดึงขึ้น” รวม 3 ครั้ง เพื่อบอกให้นักบินผู้ช่วยบังคับเครื่องบินให้เชิดหัวขึ้น แต่ก็ไร้ผล ขณะที่ระบบป้องกันการร่วงหล่นของเครื่องบินทำงานผิดปกติโดยกดหัวเครื่องบินลงต่ำรวม 4 ครั้ง
ท้ายที่สุดนักบินพยายามนำเครื่องบินวกกลับไปลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินกรุงอาดดิสอาบาบา แต่ระบบดังกล่าวทำให้เครื่องบินปักหัวลงจนไม่สามารถควบคุมได้อีกและตกลงพื้น ส่งผลให้คนบนเครื่อง 157 คน เสียชีวิตทั้งหมด
อุบัติเหตุดังกล่าวคล้ายคลึงกับกรณีของสายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน 610 ที่ตกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเป็นเครื่องบินรุ่นเดียวกันและมีปัญหาที่ซอฟต์แวร์ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติเช่นกัน ส่งผลให้สายการบินทั่วโลกต้องระงับให้บริการเครื่องบินโดยสาร Boeing 737 MAX 8 ยกฝูง
ด้าน เดนนิส มุยเลนเบิร์ก ซีอีโอของบริษัท Boeing ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้ง
“โศกนาฏกรรมเหล่านี้ยังคงกระทบกระเทือนจิตใจเรา และเรารู้สึกเห็นอกเห็นใจกับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบิน 610 ไลอ้อนแอร์ และเที่ยวบิน 302 เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ส” มุยเลนเบิร์กแถลง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: