เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ไอ้หนูไดนาโมผู้หยุดยิงประตูไม่ได้

ลงสนาม 2 นัดในฐานะตัวสำรอง มีเวลาแค่ 59 นาทีในสนาม แต่ทำได้มากถึง 5 ประตูจากโอกาสยิงแค่ 6 ครั้ง!

เรียกว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ซูเปอร์สตาร์กองหน้าดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ของทีม ‘เสือเหลือง’ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แล้ว

โดยหลังจากที่ทำให้วงการฟุตบอลเยอรมันต้องตกตะลึงในเกมเปิดตัวในบุนเดสลีกา ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 56 แต่ทำแฮตทริกช่วยให้ดอร์ทมุนด์ พลิกสถานการณ์จากตามหลังเอาก์สบวร์ก 1-3 กลับมาเป็นฝ่ายบุกไปกำชัยชนะได้อย่างสะใจ 5-3 ล่าสุดไอ้หนุ่มจากแดนปลาแซลมอนก็ยังคงรักษาความร้อนแรงเอาไว้ได้อีกในเกมกับเอฟซี โคโลญจน์ ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองอีกครั้งในนาทีที่ 65 และทำได้อีก 2 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าชัยชนะถล่มทลาย 5-1

ผลงานดังกล่าวทำให้ฮาลันด์ กลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น เพราะในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลบุนเดสลีกาไม่เคยมีใครที่ทำได้ 5 ประตูจากการเล่น 2 นัดแรกมาก่อน

เพียงแต่เมื่อคิดถึงผลงาน 28 ประตูจากการเล่น 22 นัดในครึ่งฤดูกาลแรกกับเรด บูล ซัลซ์บวร์ก โดยที่ 8 ประตูในนั้นมาจากการเล่นในรายการระดับสูงสุดอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก บางทีมันก็อาจเป็นความมหัศจรรย์ที่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับดาวยิงคนนี้

ฮาลันด์ บุตรชายของ อัลฟ์ อิงเก ฮาลันด์ อดีตมิดฟิลด์สายบู๊ทีมชาตินอร์เวย์ของทีมลีดส์ ยูไนเต็ด สโมสรดังในอดีตของอังกฤษ ไม่เคยเป็นที่สังเกตหรือถูกจับตามองในวงการฟุตบอลมาก่อน ความจริงแล้วเขาเพิ่งจะแจ้งเกิดได้อย่างเป็นทางการในฤดูกาลนี้เท่านั้น

แต่ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่เกินตัว ความเร็ว เทคนิค พรสวรรค์ในการเล่น โดยเฉพาะเซนส์ในการล่าประตูที่เป็นกองหน้าในสไตล์ ‘หมายเลข 9’ แบบดั้งเดิมที่หาได้ยากในฟุตบอลยุคปัจจุบัน ทำให้ฮาลันด์ กลายเป็นของแปลกที่โดดเด่นอย่างรวดเร็ว

หลายคนเปรียบเทียบว่าเขาคือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช คนใหม่ แต่สำหรับแฟนดอร์ทมุนด์แล้ว ฮาลันด์ คือ ‘นิว เลวานดี’ หรือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี สุดยอดดาวยิงที่ทิ้งทีมไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค เมื่อ 6 ปีที่แล้ว

“ผมไม่คิดว่าเราจะมีกองหน้าแบบนี้เลยนับตั้งแต่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี” มาร์โก รอยส์ กัปตันทีมเสือเหลืองกล่าวถึงกองหน้าคนใหม่ในครั้งแรกที่ได้เห็นไอ้หนูนอร์วีเจียนลงฝึกซ้อมด้วยกันเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ แม้ดอร์ทมุนด์จะมีดาวยิงที่ฝีเท้าดีเข้ามาอีกหลายคนนับตั้งแต่เสียเลวานดอฟสกีไป ไม่ว่าจะเป็น ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง, ชิโร อิมโมบิเล และปาโก อัลกาเซร์ ซึ่งรายหลังก็ถือว่ามีสถิติที่ใช้ได้จากการทำไป 26 ประตูจาก 46 นัด

แต่ในสายตาของรอยส์ เขาเชื่อว่าฮาลันด์ น่าจะเป็นคนที่สามารถสวมรองเท้าที่เลวานดอฟสกีทิ้งไว้ได้อย่างพอดี หรืออาจจะดีกว่า

“เขาทำให้เรามีทางเลือกที่ทำให้ทีมสามารถเล่นได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น เล่นในระบบและสไตล์ที่หลากหลายได้”

ขณะที่ฮาลันด์ ซึ่งปฏิเสธโอกาสในการจะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คิดว่าการย้ายมาเล่นให้กับดอร์ทมุนด์ ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูก

“พวกเขามาคุยกับผมตรงๆ และบอกผมว่าพวกเขาอยากได้ผมมายืนกองหน้าให้ พวกเขาชอบสไตล์การเล่นของผม และอยากได้ผมมาอยู่ที่นี่ ผมชอบวิธีการพูดคุยของพวกเขา และมันก็ทำให้ผมอยากเซ็นสัญญาด้วย ผมแค่รู้สึกว่าผมกับดอร์ทมุนด์ น่าจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน”

ผลงานของฮาลันด์ ทำให้ค่าตัว 17 ล้านปอนด์ที่ดอร์ทมุนด์จ่ายค่าปลดสัญญาให้กับเรด บูล ซัลซ์บวร์ก นั้นถูกเหมือนได้เปล่า แต่ทีมเสือเหลืองเองยังไม่เร่งที่จะใช้งานเขาเกินไปในเวลานี้ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นก็ตาม

“เขาไม่ได้ลงซ้อมตั้งแต่เดือนธันวาคม เพราะอาการบาดเจ็บ ดังนั้นเราต้องดูแลเขาอย่างดี เขายังไม่พร้อมจะเล่นเป็นตัวจริงเวลานี้ แต่เรามีแผนสำหรับเขาเตรียมไว้แล้ว” ลูเซียน ฟาฟร์ โค้ชดอร์ทมุนด์ กล่าว

อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ด้วยความสูงใหญ่ แข็งแกร่ง ความเร็ว จมูกของนักล่าตาข่าย และเท้าซ้ายที่จบสกอร์ได้อย่างนุ่มนวล

จำนวนประตูของเออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ จะไหลมาเทมาอย่างแน่นอน แต่เขาจะยิงได้มากขนาดไหน และไปได้ไกลขนาดไหนในโลกของเกมฟุตบอล เราคงต้องให้ไอ้หนุ่มไดนาโมสุดเกรียนผู้นี้ให้คำตอบกันในอนาคต

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

FYI

ผลงาน 33 ประตูของฮาลันด์กับซัลซ์บวร์ก และดอร์ทมุนด์ คิดแล้วเขาทำได้ 1 ประตูในทุก 46 นาที
และสำหรับดอร์ทมุนด์ เขาทำได้ 1 ประตูในทุก 12 นาที (นับถึงเกมกับโคโลญจน์)
มีการคำนวณว่าหากฮาลันด์ ยังรักษาค่าเฉลี่ยการทำประตูในฤดูกาลนี้ได้ และได้ลงเล่นครบทุกนาที ครบทุกเกม เขาจะยิงได้ถึง 117 ประตู