×

พรีวิว: Big Six ก่อนฟาดแข้งพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24

10.08.2023
  • LOADING...
พรีวิว big six พรีเมียร์

ในวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคมนี้ ฟุตบอลอังกฤษก็ได้วนกลับมาอีกครั้งในฤดูกาล 2023/24 หลังจากจบฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของทัพ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่เพียงแค่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเท่านั้น พวกเขายังคว้าแชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เป็น ‘เทรเบิลแชมป์’ อีกด้วย

 

คำถามที่แฟนบอลหลายคนน่าจะมีในตอนนี้ก็คือ พวกเขาจะสามารถคว้าแชมป์ได้อีกเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันได้หรือไม่ หรือว่าจะมีทีมอื่นที่จะสามารถก้าวขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งราชันแห่งเกาะอังกฤษ

 

โดยวันนี้ THE STANDARD จะพาไปดูฟอร์มและการเตรียมการของทีม ‘Big Six’ ของพรีเมียร์ลีกในช่วงพักฤดูกาล และมาวิเคราะห์ว่าทีมไหนบ้างที่มีขุมกำลังสู้กับแชมป์เก่า ได้

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

แชมป์เก่า

 

‘เรือใบสีฟ้า’ นั้นประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และหลังจากฤดูกาล ‘เทรเบิลแชมป์’ ของพวกเขา ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกที่ยากหาทีมใดเปรียบ

 

หัวหอกสำคัญของทีมแน่นอนคือหนุ่มชาวนอร์เวย์ร่างยักษ์อย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ถล่มไปถึง 36 ประตู ในการเล่น 35 นัด ซึ่งถือเป็นสถิติการยิงประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลเดียว แต่นอกจากนั้นยังไม่พอ พวกเขายังมีคนที่คอยประสานงานและคอยเชื่อมเกมให้กับฮาลันด์อีกด้วย เช่น เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช และ แบร์นาร์โด ซิลวา โดยพวกเขาก็สามารถสร้างสรรค์ประตูด้วยตัวเองได้เช่นกันถ้าทีมมัวแต่ระวังฮาลันด์มากเกินไป

 

แต่ความน่ากลัวของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่แท้จริงนั้นมาจากทีมโดยรวมของพวกเขาทั้งทีม ย้อนกลับไปในศึกแชมเปียนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศของพวกเขา ในม้านั่งสำรอง มีผู้เล่นทั้ง ไคล์ วอล์กเกอร์, ฟิล โฟเดน, คาลวิน ฟิลลิปส์, ฮูเลียน อัลวาเรซ และ อายเมริค ลาปอร์เต ผู้เล่นที่มีคุณภาพมากพอที่จะเป็นตัวจริงให้กับหลายทีมในโลก

 

และด้วยคุณภาพและปริมาณจำนวนมหาศาลในทีม ทำให้ซิตี้กลายเป็นทีมที่สม่ำเสมอที่สุดในลีก และความสม่ำเสมอคือสิ่งที่สำคัญมากเวลาคุณเล่นในลีกที่แข่งอย่างลำบากและยาวนาน

 

ถึงแม้ว่าทีมจะเสียผู้เล่นสำคัญอย่าง ริยาด มาห์เรซ และ อิลคาย กุนโดกัน ไปในตลาดซื้อ-ขายนักเตะที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็สามารถเสริมทีมได้ดีกับการนำ มาเตโอ โควาซิช กองกลางชาวโครแอต และ ยอสโก กวาร์ดิโอล กองหลังค่าตัวแพงที่สุดอันดับ 2 ของโลกมาเสริมทัพ ทำให้ทีมยิ่งแข็งแกร่งในเกมแดนกลางและแดนหลังขึ้นไปอีก

 

ไม่เคยมีทีมใดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 4 สมัย แต่ว่าปีนี้สถิตินั้นอาจจะเปลี่ยนไป เนื่องจากทัพนักเตะของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์ เปรียบได้กับการเอาผู้เล่นออลสตาร์จากทั่วทุกสารทิศมารวมกันเป็นทีมเดียวเลยก็ว่าได้

 

ถ้าทุกอย่างเป็นไปดั่งแผนที่วางไว้ ก็มีโอกาสสูงที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง

 

โดยด่านแรกของพวกเขาในฤดูกาลนี้คือ เบิร์นลีย์ ทีมที่กลับขึ้นมาในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหนึ่ง ที่นำโดยศิษย์เก่าอย่าง แว็งซ็องต์ กอมปานี แต่ถึงกระนั้น ถึงแม้ว่ากอมปานีจะพาเบิร์นลีย์ทำผลงานได้ดีในลีกแชมเปียนชิปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ทั้งคุณภาพและประสบการณ์ของทัพ ‘เรือใบสีฟ้า’ นั้นเด่นกว่าหลายขุม น่าจะไม่ใช่งานยากของพวกเขาเท่าไร

 

คาดการณ์อันดับฤดูกาล 2023/24: 1

 

อาร์เซนอล

 

 

รองแชมป์เก่า

 

หลังจากที่ชวดแชมป์ไปหลังผลงานสะดุดในช่วงโค้งสุดท้าย อาร์เซนอลพร้อมที่จะกลับมาเพื่อชิงบัลลังก์แชมป์อีกครั้ง โดยในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะนี้ พวกเขาได้ทำการซื้อ ดีแคลน ไรซ์ กองกลางตัวรับตัวเก่าของอังกฤษด้วยค่าตัวแพงที่สุดในสโมสรที่ 105 ปอนด์ นอกจากนี้ยังคว้าตัว เยอร์เรียน ทิมเบอร์ จากอาแจ็กซ์ และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จากเชลซี อีกด้วย

 

ซึ่งการเสริมทัพในครั้งน้ีเป็นการเสริมตำแหน่งและคุณภาพที่ดีมากของอาร์เซนอล เสริมกับทัพนักเตะฝั่งรุกที่มีดีอยู่แล้ว ทั้ง มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และ บูกาโย ซากา

 

กระนั้นอาร์เซนอลพยายามจะหาผู้รักษาประตูที่สามารถเล่นกับเท้าได้ดี เพราะหลายครั้งที่อาร์เซนอลเสียบอลจากการที่พยายามตั้งบอลจากด้านหลังจนทำให้เสียประตู การที่ทีมพยายามจะเร่งปิดดีล ดาบิด รายา จึงเป็นเรื่องดีในการเสริมทีมมากขึ้นอีก แต่คงต้องรอไปอีกซักพักกว่าที่จะปิดดีลเสร็จสิ้นและพร้อมเล่นให้กับทีมได้

 

แต่ว่าตอนนี้อาร์เซนอลจะไม่สามารถใช้งาน กาเบรียล เชซุส กองหน้าตัวเก่งของทีม เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2022 แต่ มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีม ได้ออกมากล่าว่า เชซุสจะกลับมาในอีกไม่กี่สัปดาห์

 

นอกจากนี้ผู้จัดการทีมเดอะกันเนอร์สได้ออกมาให้ความสำคัญเรื่องความสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งหลักที่แมนฯ ซิตี้มี ที่ทีมอื่นยากที่จะเปรียบ รวมถึงคุณภาพและปริมาณของผู้เล่นในทีมอีกด้วย

 

โดยรวมอาร์เซนอลจะเป็นรองซิตี้เล็กน้อย แต่ชัยชนะในคอมมูนิตี้ชิลด์ที่ผ่านมา เป็นตัววัดที่ดีว่าทีมมีผู้เล่นและศักยภาพพร้อมดวลกับบรรดาทีมใหญ่ในเกาะอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง

 

นัดแรกของอาร์เซนอลจะไปเจอกับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทีมที่อาร์เซนอลพ่ายในท้ายฤดูกาลที่แล้วจนส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ในฤดูกาลสดใหม่นี้ อาร์เซนอลน่าจะพร้อมกว่าและมีไฟในการกระหายชัยชนะมากกว่า เนื่องจากต้องการที่จะเอาคืนจากฤดูกาลที่แล้ว

 

คาดการณ์อันดับฤดูกาล 2023/24: 2

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

อันดับที่จบฤดูกาล 2022/23: 3

 

ฤดูกาลแรกของ ‘ปีศาจแดง’ ภายใต้การคุมทีมของ เอริก เทน ฮาก จบลงได้น่าพอใจ ด้วยการคว้าแชมป์คาราบาวคัพ ซึ่งเป็นแชมป์แรกของทีมในรอบ 6 ปี และจบที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก

 

กระนั้นทีมยังมีปัญหาที่ค้างคามานาน ตั้งแต่ปัญหาการตั้งเกมจากผู้รักษาประตู และการไม่มีกองหน้าจบสกอร์ธรรมชาติ ซึ่งในตลาดซื้อ-ขายนักเตะที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำได้ดีในการคว้าตัวผู้เล่นเป้าหมายของทีม ทั้ง อังเดร โอนานา และ ราสมุส ฮอยลุนด์

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจึงมีทีมที่พร้อมมากขึ้นในการเล่นในฤดูกาลนี้ นำโดยกัปตันทีม บรูโน แฟร์นันด์ส และปีกความเร็วสายเทคนิคอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, จาดอน ซานโช และ แอนโทนี ส่วนแดนกลางคนอื่นจะเป็น คาเซมิโร ผู้ทำหน้าที่เป็นปราการด่านแรก และ เมสัน เมาท์ หมายเลข 7 คนใหม่ของทีม จะสามารถช่วยเปลี่ยนผ่านเกมรับให้เป็นเกมรุก

 

แต่ก็ยังมีอุปสรรคอยู่ ตั้งแต่การที่ฮอยลุนด์ยังไม่ฟิตพร้อมลงสนาม ทำให้ไม่สามารถเล่นได้ทันที ซึ่งในลีกที่ยาวนาน การที่ไม่สามารถออกสตาร์ทได้ดีจะเป็นปัญหาในระยะยาว เช่นเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ยูไนเต็ดแพ้ 2 เกมแรก ทำให้ใช้เวลานานก่อนที่จะกลับมาติดท็อป 4 ได้

 

และอีกปัญหาที่เห็นได้ชัดเจนมากในช่วงอุ่นเครื่อง คือการที่แนวหลังของยูไนเต็ดยังเกิดความผิดพลาดบ่อยจนนำไปสู่การเสียประตู

 

เช่นการที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียประตูจากครึ่งสนามหลังจากการที่ ดิโอโก ดาโลต์ แบ็กขวาของทีม จ่ายบอลเสียให้คู่แข่งในเกมปะทะล็องส์ รวมถึงความผิดพลาดของกองหลัง 3 คน จนเสีย 3 ประตู ในเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ดแพ้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-3 อีกด้วย

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาจมีความจำเป็นต้องหาเซ็นเตอร์แบ็กอีกคนมายืนคู่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ แต่เนื่องจากการที่ทีมใช้เงินได้จำกัด จึงเลือกที่จะเสริมในจุดที่ทีมต้องการมากที่สุดก่อน

 

โดยเกมแรกของพวกเขาจะไปพบกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่เพิ่งปลดผู้จัดการทีมเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงมีความไม่พร้อมเป็นอย่างมาก ทำให้น่าจะเป็นเกมที่ไม่เกินความสามารถของผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด จะมีกังวลก็แต่ความผิดพลาดและความไม่สม่ำเสมอของทีมที่จะนำพาทีมไปสู่ผลเสียเอง

 

คาดการณ์อันดับฤดูกาล 2023/24: 3

 

ลิเวอร์พูล

 

 

อันดับที่จบฤดูกาล 2022/23: 5

 

ตัดมาที่คู่ปรับตลอดการอย่างลิเวอร์พูล ที่ฤดูกาลที่แล้วทุลักทุเลพอสมควร ก่อนที่จะสามารถเร่งฟอร์มได้ในช่วงท้ายฤดูกาล แต่ไม่พอที่จะเข้าไปในท็อป 4 ของตารางได้

 

โชคยังดีที่ เจอร์เกน คล็อปป์ สามารถหาจุดที่ลงตัวมากขึ้นให้กับแบ็กขวาของทีมอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ให้ขยับเข้าเล่นเป็นกองกลางมากขึ้นในเกมรุก เพิ่มมิติในเกมรุกของลิเวอร์พูลมากขึ้น

 

สิ่งหนึ่งที่ลิเวอร์พูลทำในตลาดซื้อ-ขายนักเตะคือพวกเขาซื้อผู้เล่นใหม่อายุน้อยมา 2 คนในแดนกลางอย่าง โดมินิก โซโบสไล และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เพื่อทดแทนผู้เล่นอาวุโสจำนวนมากที่ออกจากทีมไป ทั้ง ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โรแบร์โต เฟอร์มิโน, นาบี เกอิตา และ เจมส์ มิลเนอร์

 

ซึ่งก็เป็นการเสริมทัพที่น่าพอใจ แต่แค่ 2 คนในแดนกลาง ไม่น่าจะพอที่จะเพิ่มความลึกของชุดผู้เล่นลิเวอร์พูลมาก และจะทำให้ทีมต้องพึ่งผู้เล่นตัวจริงเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้เล่นในเกมรับ เช่น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นตัวหลักอายุน้อย ทั้ง ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ และ โคดี กักโป ก็ถึงจุดที่พวกเขาเริ่มที่จะปรับตัวกับทีมได้แล้ว จึงทำให้แนวรุกของทีมเมื่อประสานกับชุดเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และ ดีโอโก โชตา ดูน่าเกรงขามมากขึ้น

 

ในฤดูกาลนี้ทีมน่าจะเล่นสไตล์ ‘เกเกนเพรสซิง’ ตามเดิม ที่เน้นพละกำลังของผู้เล่น และจะเป็นการเล่นแบบกล้าได้กล้าเสียเป็นอย่างมาก ทีมจะเสียประตูเยอะ แต่ก็จะได้ประตูเยอะเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องความลึกของชุดผู้เล่นจะเป็นสิ่งเหนี่ยวรั้งให้แคมเปญในปีนี้ของลิเวอร์พูลเป็นเรื่องที่ยากพอตัว แต่ไม่น่าจะหลุดท็อป 4

 

เกมแรกของพวกเขาจะเป็นการบุกเจอกับเชลซี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมในท็อป 6 ด้วยกันเอง โดยเกมนี้เชลซีที่ใช้ผู้เล่นใหม่จำนวนมาก อาจจะพอสู้ลิเวอร์พูลได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลที่ทั้งมีทีมเวิร์กและประสบการณ์ที่เหนือกว่า น่าจะชนะไปในที่สุด

 

คาดการณ์อันดับฤดูกาล 2023/24: 4

 

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

 

 

อันดับที่จบฤดูกาล 2022/23: 8

 

สถานการณ์ตอนนี้ของสเปอร์สคือ…น่าสนใจมาก

 

หลังจากผลงานที่แย่จนอดไปเล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี สเปอร์สที่ลองผู้จัดการทีมมาหลายคน บวกกับสภาพภายในห้องแต่งตัวที่ไม่สู้ดี เลือกที่จะเอากุนซือจอมเฮี้ยบอย่าง อังเก ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมกลาสโกว์ เซลติก ชุดสกอตติชเทรเบิลแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มาคุมบังเหียน

 

ถึงแม้ว่าปอสเตโคกูลจะเป็นผู้จัดการทีมที่เชี่ยวชาญเรื่องการพาทีมหลุดจากสถานการณ์ที่ลำบาก แต่นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่จะมาคุมทีมในลีกใหญ่ของยุโรป ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งใหญ่ของเขา

 

มิหนำซ้ำยังมีข่าวลือมาตลอดว่า แฮร์รี เคน กองหน้าตัวหลักวัย 30 ปี จะย้ายออกจากรังท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม แต่จนถึงบัดนี้ เขายังเป็นผู้เล่นของทีมอยู่ ซึ่งความไม่แน่นอนนี้ทำให้คาดเดาฤดูกาลของพวกเขาได้ยาก

 

อย่างไรก็ตาม สเปอร์สเสริมทัพได้ถูกตำแหน่ง โดยการนำ เจมส์ แมดดิสัน, กูลเยลโม วิคาริโอ และการซื้อ เดยัน คูลูเซฟสกี เป็นการถาวร ซึ่งทั้งหมดได้เสริมการเชื่อมเกมรุกและผู้รักษาประตูที่เป็นข้อบกพร่องของทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

 

ซึ่งปัญหาหลักๆ ตอนนี้ที่สเปอร์สมีคือการที่ทีมพึ่งการทำประตูจากเคนมากเกินไป โดยเมื่อฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวถลุงไปถึง 30 ประตู จาก 38 นัด ซึ่งสเปอร์สเหมือนไม่มีแผนในการหากองหน้าคนใหม่มาแทนที่เคน ทำให้ถ้าจะให้ใครมาแทนเคนในกรณีที่เคนถูกทีมไหนซื้อตัวไป คนนั้นคือ ริชาร์ลิซอน ซึ่งมีผลงานที่แย่มากในฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการยิงไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น

 

ทำให้เป้าหมายหลักๆ ของสเปอร์สคือการวางแผนระยะยาว แก้ปัญหาวัฒนธรรมภายในทีม และหวังว่าผู้เล่นตำแหน่งหลักของพวกเขาจะสามารถแสดงฟอร์มที่ดีออกมาได้ ซึ่งไม่น่าจะทำจนหายขาดในฤดูกาลเดียว แต่อาจจะมีลุ้นไปแข่งฟุตบอลยุโรป ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเบียดทีมอื่นขึ้นท็อป 4 ได้

 

แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว เคนเลือกที่จะอยู่ต่อกับทีมไปอีก 1 ฤดูกาล สเปอร์สมีโอกาสสูงมากที่จะกลับมามีฤดูกาลที่น่าพอใจอีกครั้ง เนื่องจากทั้งแนวรับและแผงการบุกที่ดีขึ้น

 

ซึ่งเกมแรกสเปอร์สมีคิวไปเจอกับเบรนท์ฟอร์ด ทีมที่สามารถเอาชนะทีมใหญ่ได้หลายทีมในฤดูกาลที่แล้ว และเป็นทีมที่สเปอร์สไม่สามารถชนะได้ในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นี่อาจจะเป็นเกมที่ไม่ง่ายสำหรับทีม โดยรูปเกมจะเปลี่ยนตามข้อเท็จจริงที่ว่าเคนจะอยู่กับทีมต่อหรือไม่ ถ้าอยู่ก็มีโอกาสชนะสูง แต่ถ้าไม่อยู่ก็มีโอกาสที่จะเสมอไปแบบสนุก

 

คาดการณ์อันดับฤดูกาล 2023/24: 7

 

เชลซี

 

 

อันดับที่จบฤดูกาล 2022/23: 12

 

หลังจากฤดูกาลที่โกลาหลตาลปัตรเป็นอย่างมาก ทั้งเปลี่ยนเจ้าของทีม เปลี่ยนผู้จัดการทีม และซื้อผู้เล่นหลายคนด้วยราคามหาศาล ทีมกลับไม่สามารถทำผลงานที่ดีได้ พร้อมจบอันดับที่ 12 ของตาราง พลาดทั้งฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2016/17

 

และในตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมา เชลซีเลือกที่จะขายผู้เล่นชุดเดิมจำนวนมาก ทั้ง ไค ฮาเวิร์ตซ์, เมสัน เมาท์, เอดูอาร์ เมนดี้, เอ็นโกโล กองเต, มาเตโอ โควาซิช, คาลิดู คูลิบาลี, คริสเตียน พูลิซิช, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา และ ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง

 

และนักเตะที่ซื้อมาอย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ถึงแม้ว่าจะถูกจับตามองอย่างมาก แต่อาการบาดเจ็บที่เข่าในช่วงอุ่นเครื่องในเกมเจอกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทำให้ต้องพักยาวถึง 4 เดือน ทั้งที่ยังไม่ได้ลงเล่นแม้แต่เกมเดียวในพรีเมียร์ลีก 

 

อย่างไรก็ดี ทัพของ เมาริซิโอ โปเชตติโน น่าจะมีฤดูกาลที่ดีกว่าเก่าในพรีเมียร์ลีก

 

เพราะว่าผู้เล่นหลายคนในทีม ทั้ง มิไคโล มูดริก, นิโคลัส แจ็คสัน, เอนโซ เฟร์นานเดซ, มาร์ก กูกูเรยา, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ รีซ เจมส์ ยังเป็นผู้เล่นอายุน้อย ไม่ถึงวัย 25 ปี ทำให้เปิดพื้นที่ในการพัฒนาเป็นอย่างมาก และหลังจากที่เล่นในทีมเป็นระยะเวลาหนึ่ง น่าจะพอปรับตัวและเล่นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ เอนโซ เฟร์นานเดซ และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่น่าจะเป็นกองกลางคู่ที่จะเป็นตัวหลักของทีมในระยะยาว

 

แต่ถึงอย่างนั้นเชลซีก็ยังมีปัญหาเรื่องความลึกของทีม และการที่ทีมกำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมขึ้นใหม่ และอาจจะยังไม่สามารถทำผลงานได้ดีจนติดท็อป 4 หรือสู้ทีมอื่นในทีม ‘ท็อป 6’ ได้มากขนาดนั้น แต่ก็เป็นฤดูกาลที่น่าจับตามองมากเลยทีเดียว

 

คาดการณ์อันดับฤดูกาล 2023/24: 6

 

นอกจากนี้ยังมีทีมที่น่าติดตามอีกเป็นอย่างมาก ทั้งนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่เอา ซานโดร โตนาลี มาเสริมทัพแนวกลางให้ดียิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่ง แอสตัน วิลลา, ไบรท์ตัน และเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่มีพลทัพที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

 

เพราะฉะนั้นฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่จะเริ่มต้นเร็วๆ นี้ จะเป็นฤดูกาลสุดเดือดที่มีเกมที่น่าสนใจรอคอยอยู่มากทีเดียว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising