ในที่สุดมหากาพย์การซื้อขายสโมสรฟุตบอลเชลซีก็ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ เมื่อรัฐบาลอังกฤษและพรีเมียร์ลีกเห็นชอบให้ขายสโมสรแก่กลุ่มทุนที่นำมาโดย ทอดด์ โบห์ลี มหาเศรษฐีผู้คร่ำหวอดในวงการกีฬาอเมริกันในสนนราคา 4.25 พันล้านปอนด์
ข่าวนี้ถือเป็นข่าวดีของทั้งสโมสรที่ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่เกือบ 3 เดือนนับตั้งแต่ที่ โรมัน อบราโมวิช ซึ่งกลายเป็นอดีตเจ้าของสโมสร ประกาศที่จะขายสโมสรออกไปเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่ายในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่รัฐบาลอังกฤษจะมีคำสั่งอายัดทรัพย์และปล่อยสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ขายทอดตลาด เพื่อเป็นการเล่นงานมหาเศรษฐีชาวรัสเซียผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนแก่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่สั่งรุกรานอธิปไตยของประเทศยูเครน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระบวนการซื้อขายยืดเยื้อและใช้เวลานานกว่าที่คาด ทั้งกระบวนการยื่นข้อเสนอที่มีการเปิดให้ยื่นข้อเสนอใหม่เพื่อให้ได้ตัวเลขมูลค่าสูงที่สุด ไปจนถึงกระบวนการของการเจรจากับอบราโมวิชเพื่อหาทางออกร่วมกันว่า รายได้และผลประโยชน์ใดๆ ก็ตามจากการขายเชลซีจะไม่กลับไปสู่กระเป๋าของเขาอีกครั้ง แม้ว่าเจ้าของทีมที่ซื้อสโมสรมาเมื่อปี 2003 ในราคา 140 ล้านปอนด์จะยืนยันว่า พร้อมบริจาคเงินรายได้ทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในประเทศยูเครน
ดังนั้นแม้ว่าจะรู้ตัวผู้ชนะในการประมูลครั้งนี้ว่าเป็นกลุ่มทุนที่นำมาโดย ทอดด์ โบห์ลี เจ้าของร่วมทีมแอลเอ ดอดเจอร์ส ในเมเจอร์ลีกเบสบอล ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Clearlake Capital ที่ลงทุนด้วยเงินถึง 1.75 พันล้านปอนด์ แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา การเจรจายังมีข้อติดขัดอยู่มากและสร้างความกังวลว่าโต๊ะเจรจาอาจจะล่มได้
อย่างไรก็ดี รัฐบาลอังกฤษได้ออกประกาศในช่วงเช้าวันนี้ (25 พฤษภาคม) ว่าได้มีการอนุมัติให้ขายเชลซีอย่างเป็นทางการแล้ว “ในช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้ออกใบอนุญาตในการขายสโมสรฟุตบอลเชลซีแล้ว
“ภายหลังจากที่ได้มีการแทรกแซงทรัพย์สินของ โรมัน อบราโมวิช รัฐบาลอังกฤษได้พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าเชลซีสามารถที่จะลงแข่งขันฟุตบอลต่อไปได้ แต่เราก็มีความชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายในอนาคตระยะยาวว่าควรจะอยู่ในมือของเจ้าของสโมสรใหม่
“จากการทำงานที่ผ่านมา เรามีความพอใจที่ผลประโยชน์จากการขายสโมสรจะไม่ตกสู่ โรมัน อบราโมวิช หรือบุคคลใดก็ตาม ตอนนี้เราจะเริ่มต้นกระบวนการต่อไปในการที่จะทำให้สิ่งที่ได้จากการขายสโมสรถูกนำไปใช้เพื่อความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในยูเครนแก่ผู้ประสบภัยจากสงคราม
“การก้าวเดินในวันนี้จะเป็นหลักประกันในอนาคตของสมบัติทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่านี้ และปกป้องแฟนฟุตบอลรวมถึงสังคมฟุตบอลด้วย เรามีการพูดคุยกันกับพันธมิตรนานาชาติเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับการออกใบอนุญาต และเราขอขอบคุณพวกเขาสำหรับความร่วมมือ”
หลังจากนี้กลุ่มทุนเจ้าของใหม่จะได้เริ่มต้นกระบวนการเปลี่ยนถ่ายเจ้าของสโมสรอย่างเป็นทางการ และสโมสรเชลซีจะได้กลับมาโฟกัสกับการเตรียมความพร้อมสำหรับสู้ศึกในฤดูกาลหน้าอีกครั้ง หลังจากที่อนาคตคลุมเครือมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือนด้วยกัน
โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความคลุมเครือดังกล่าวทำให้เชลซีต้องเสียโอกาสในการเจรจากับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ปราการหลังตัวแกร่งที่จะย้ายไปเรอัล มาดริด แบบฟรีๆ หลังหมดสัญญาในฤดูกาลนี้ ซึ่งดาวเตะทีมชาติเยอรมนียอมรับว่าไม่สามารถรอความชัดเจนจากสโมสรได้ และนอกเหนือจากนี้ยังมีรายของ อันเดรียส คริสเตนเซน กองหลังอีกรายที่หมดสัญญาและจะย้ายไปบาร์เซโลนาเช่นกัน
สำหรับแผนการปรับทัพเสริมทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้ ตามรายงานข่าวจาก The Times เปิดเผยว่า กลุ่มโบห์ลีจะให้งบประมาณแก่ โธมัส ทูเคิล โค้ชคนเก่งราว 200 ล้านปอนด์ด้วยกันในการเสริมทีมและจัดการเรื่องของการต่อสัญญาใหม่ให้แก่นักเตะอย่าง เมสัน เมาท์ และ รีซ เจมส์
ส่วนจะมีสตาร์หน้าใหม่คนใดที่จะย้ายมาสแตมฟอร์ดบริดจ์อีกในช่วงปิดฤดูกาลนี้ ต้องติดตามกันให้ดี
อ้างอิง: