ทำเนียบขาวร้อนระอุเมื่อ Elon Musk ซีอีโอ Tesla และ SpaceX เปิดศึกดุเดือดกับ Peter Navarro ผู้วางแผนนโยบายการค้าของ Donald Trump เผยให้เห็นรอยร้าวระหว่างประธานาธิบดีกับมหาเศรษฐีผู้ทุ่มเงินหนุนการหาเสียงกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ในการปะทะครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมลดราวาศอกให้กัน
Musk ผู้ต่อต้านภาษีศุลกากรมายาวนาน ไม่รีรอที่จะเรียก Navarro ว่า ‘ไร้สมอง’ และ ‘โง่สิ้นดี’ หลังถูกดูหมิ่นในการสัมภาษณ์ทีวีว่าเป็นเพียง ‘ผู้ประกอบรถยนต์’ ที่ ‘ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง’ ไม่มีฝ่ายใดยอมอ่อนข้อให้กัน ทำให้การปะทะคารมยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้ Musk ได้เผยความหวังผ่านการประชุมในอิตาลีว่าสหรัฐฯ กับยุโรปจะมุ่งสู่ ‘สถานการณ์ปลอดภาษี และสร้างเขตการค้าเสรี’ พร้อมแชร์วิดีโอของ Milton Friedman ผู้สนับสนุนเศรษฐกิจเสรีนิยมบนแพลตฟอร์ม X
สอดคล้องกับ Kimbal น้องชายของ Musk ที่นั่งเป็นกรรมการบริษัท Tesla และ SpaceX ซึ่งวิจารณ์ภาษีของ Trump ว่าเป็น ‘ภาษีที่จะกลายเป็นภาระถาวรสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกัน’ โดยจะทำให้ ‘คนซื้อสินค้าน้อยลง และส่งผลให้การจ้างงานลดลงด้วย’
การแสดงจุดยืนเช่นนี้ของพี่น้องตระกูล Musk สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลในวงกว้างของภาคธุรกิจต่อนโยบาย America First หรืออเมริกาต้องมาก่อน ที่อาจสร้างผลกระทบระยะยาวต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
อิทธิพลทางการเมืองของ Musk เริ่มสั่นคลอน หลังผู้สมัครที่เขาสนับสนุนในวิสคอนซินพ่ายแพ้ และทำเนียบขาวยืนยันว่าบทบาทในตำแหน่ง Department of Government Efficiency (Doge) ที่เดิมมีกำหนดถึงปี 2026 อาจสิ้นสุดเร็วกว่าที่คาด
ธุรกิจของ Musk เองกลับต้องเผชิญผลกระทบอย่างหนัก หุ้น Tesla ร่วงกว่า 35% ตั้งแต่ต้นปี ท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้าและกระแสต่อต้านจากผู้บริโภค ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อบริษัทสั่นคลอน
โดยเฉพาะหลังบริษัทเคยเตือนในจดหมายถึงผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ว่าอาจตกเป็นเป้าภาษีตอบโต้และต้นทุนผลิตในอเมริกาจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายเริ่มจับตามองว่า บทบาททางการเมืองของ Musk เริ่มส่งผลเสียต่อมูลค่าหุ้นมากกว่าผลดี
ในขณะที่จีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ Tesla และเพิ่งเปิดโรงงานแบตเตอรี่มูลค่า 2 ร้อยล้านดอลลาร์ อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ Starlink บริการดาวเทียมของ SpaceX ก็เริ่มสูญเสียสัญญากับรัฐบาลต่างๆ
ในประเด็นนี้ Musk ตอบโต้อย่างเดือดดาลโดยยกหลักฐานเชิงประจักษ์มาหักล้าง เน้นย้ำว่า Tesla คือ ‘ผู้ผลิตรถยนต์ที่ควบคุมกระบวนการผลิตเองตั้งแต่ต้นจนจบมากที่สุดในอเมริกา’ และใช้ชิ้นส่วนจากสหรัฐฯ ในสัดส่วนสูงที่สุด
พร้อมอ้างข้อมูลจาก Global Data ที่ชี้ว่า บริษัทผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่ขายในสหรัฐฯ ภายในประเทศ ต่างจากยักษ์ใหญ่อย่าง Stellantis และ General Motors ที่นำเข้ารถยนต์มากกว่า 40% ของรถที่ขายในสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องในการโจมตีของ Navarro
Karoline Leavitt โฆษกทำเนียบขาวพยายามลดความร้อนแรงด้วยการปราม พร้อมบอกสื่อด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า ‘ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ’ เธอยังชื่นชมรัฐบาลชุดนี้ว่าเป็นรัฐบาลที่เปิดเผยความคิดเห็นที่แตกต่างให้ประชาชนเห็นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และ ประธานาธิบดีพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย
ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทและประเทศต่างๆ กำลังวุ่นวายกับการเจรจาเพื่อลดผลกระทบจากนโยบายภาษีใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้
ภาพ: Scott Olson / Getty Images
อ้างอิง:
