Elon Musk บุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกเทคโนโลยีจากการกระทำที่กล้าหาญและบางครั้งก็คาดเดาไม่ได้ เมื่อเร็วๆ นี้เขาได้ตัดสินใจอย่างน่าประหลาดใจอีกครั้ง โดยได้ประกาศรีแบรนด์ Twitter ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอันโด่งดังเป็น ‘X’
การรีแบรนด์อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับ Twitter แต่ทางกลับกันอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย เนื่องจากดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกับเครื่องหมายการค้าที่มีอยู่ซึ่งเป็นของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Meta และ Microsoft
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 กรกฎาคม) Musk ได้แชร์แผนการที่จะละทิ้งชื่อแบรนด์ Twitter ที่คุ้นเคยและโลโก้รูปนกสีฟ้า แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะใช้ชื่อ ‘X’ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับการยืนยันโดย Linda Yaccarino ผู้เป็นซีอีโอของ Twitter หรือ ‘X’ คนปัจจุบัน
Yaccarino อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการรีแบรนด์แอป โดยระบุว่า ‘X’ หมายถึงอนาคตของการโต้ตอบที่ไม่จำกัด ซึ่งไม่เพียงรวมคุณสมบัติที่เราคุ้นเคย เช่น การส่งข้อความ การแบ่งปันเสียงและวิดีโอ แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบที่กว้างขวางมากขึ้น เช่น การธนาคารและการชำระเงิน
ที่สำคัญคือ การเน้นบทบาทของเทคโนโลยีในการอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงนี้ เธออธิบายว่า ‘X’ จะใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อทั่วโลกในรูปแบบที่เพิ่งเริ่มจินตนาการ
การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ก่อให้เกิดประเด็นทางกฎหมายที่สำคัญ ‘X’ ไม่ใช่ชื่อแบรนด์ที่ไม่รู้จักในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แท้จริงแล้ว บริษัทหลายแห่ง รวมถึง Meta ของ Mark Zuckerberg และ Microsoft ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายใต้ชื่อ ‘X’ แล้ว
ตัวอย่างเช่น เครื่องหมายการค้า ‘X’ ของ Meta หมายถึงบริการเครือข่ายสังคมในด้านความบันเทิง เกม และการพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘X’ ของ Microsoft มีความหมายเหมือนกันกับคอนโซลเกม Xbox ยอดนิยม ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสันนิษฐานว่าข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของ ‘X’ อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ความขัดแย้งทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้รับการเน้นย้ำโดย Josh Gerben ทนายความด้านเครื่องหมายการค้า ซึ่งเตือนว่ามีโอกาสสูงที่ Twitter จะถูกฟ้องร้องเนื่องจากการรีแบรนด์ คำกล่าวอ้างของ Gerben มาจากการค้นพบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ใช้งานอยู่เกือบ 900 รายการในสหรัฐฯ ซึ่งมีตัวอักษร ‘X’ อยู่แล้ว
ถึงอย่างนั้น Stacy Wu ทนายความด้านทรัพย์สินทางปัญญาในนิวยอร์ก เชื่อว่า Musk อาจได้เปรียบหากเกิดข้อพิพาทดังกล่าวขึ้น โดย Wu ให้เหตุผลแก่การคาดการณ์นี้โดยอธิบายว่า Musk อาจสามารถรักษา ‘สิทธิพิเศษแบบจำกัด’ ให้กับการแสดงเฉพาะของ ‘X’ ที่ใช้ในโลโก้ขาวดำใหม่ของบริษัท
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ไม่ได้ปราศจากความยุ่งยากโดยสิ้นเชิง แม้ว่าจะมีรายงานว่าโลโก้ได้รับการเสนอให้ ‘ฟรี’ โดยผู้ใช้ แต่ดูเหมือนว่าจะได้มาจากชุดฟอนต์ที่ชื่อว่า ‘Special Alphabets 4’ ซึ่งจำเป็นต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพียงครั้งเดียวที่ 29.99 ดอลลาร์ ยังไม่ชัดเจนว่า Musk หรือนักออกแบบที่เสนอโลโก้ได้รับใบอนุญาตนี้อย่างถูกต้องก่อนที่จะเผยแพร่โลโก้หรือไม่
นอกจากนี้ ทรัพยากรทางการเงินจำนวนมากของ Musk อาจมีบทบาทสำคัญในการแย่งชิงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น ดังที่ Wu สังเกตว่าคดีเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้ามักหยุดลงเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตัดสินว่าไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่เพิ่มขึ้นและเลือกที่จะยุติ ซึ่งสำหรับ Musk แล้วเขามีเงินที่จะถลุงไปกับข้อพิพาททางกฎหมายได้อย่างสบายๆ
วิวัฒนาการของ Twitter เป็น ‘X’ บ่งบอกถึงยุคใหม่ของแพลตฟอร์ม Musk มองว่า ‘X’ เป็น ‘Everything App’ ที่ให้บริการที่หลากหลายในที่เดียว แนวคิดนี้ทำให้นึกถึง WeChat ซึ่งเป็นแอปอเนกประสงค์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศจีนสำหรับการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที โซเชียลมีเดีย และธุรกรรมทางการเงิน
Yaccarino ยังได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของ ‘X’ ในการเป็นแพลตฟอร์มแบบ All in One โดยสัญญาว่าจะสามารถให้บริการได้แทบทุกชนิดแก่ผู้ใช้ ทั้ง Musk และ Yaccarino มีความกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกับทีมและพันธมิตรเพื่อทำให้วิสัยทัศน์ของ ‘X’ เป็นจริง
อ้างอิง:
