‘อีลอน มัสก์’ ขายหุ้น Tesla มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท เพื่อนำเงินมาจ่าย ‘ภาษี’

สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ‘อีลอน มัสก์’ ได้ขายหุ้น Tesla จำนวน 934,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.5% ของหุ้นที่เขาถืออยู่ โดยหุ้นที่ขายนั้นคิดเป็นมูลค่าราว 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวจะถูกนำมาจ่ายเป็นค่าภาษีที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเลือกหุ้น

ก่อนหน้าที่จะมีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์เรื่องการขายหุ้น มัสก์ได้ออกมาทำโพลบน Twitter ว่า เขาควรขายหุ้น 10% ดีหรือไม่ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หุ้นของ Tesla ร่วงลงมากกว่า 15% ในที่ 8-9 พฤศจิกายน ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นราว 4.3% ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ด้วยมูลค่า 1,067.95 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น

ขณะเดียวกันราคาหุ้นที่ลดลงได้ทำให้ความมั่งคั่งของ ‘อีลอน มัสก์’ ลดลง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.6 ล้านล้านบาท ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งความมั่งคั่งที่หายไปถือเป็นการลดลงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Bloomberg Billionaires Index ในระยะเวลาสองวัน

จริงๆ แล้วแม้ไม่ต้องทำผลโพลตัวมัสก์ก็มีแผนที่จะขายหุ้นอยู่แล้ว เพราะในการปรากฏตัวในการประชุม Code Conference ในเดือนกันยายน มัสก์กล่าวว่า “ผมมีออปชันมากมายที่จะหมดอายุในต้นปีหน้า ดังนั้นออปชันจำนวนมากจะถูกขายไปในไตรมาสที่ 4 ผมต้องขายออกไป มิฉะนั้นมันจะหมดอายุ” ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีรวมทั้งหมดอยู่ที่ 54.1% ดังนั้นภาษีจากออปชันของเขาที่จะถูกเรียกเก็บทั้งหมด ณ ราคาปัจจุบัน จะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท

แม้ว่า Tesla จะสูญเสียมูลค่าตลาดไปเกือบ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 4.9 ล้านล้านบาทในสัปดาห์นี้ แต่นักลงทุนรายย่อยกลับเป็นผู้ซื้อสุทธิของหุ้น ประมาณ 58% ของคำสั่งซื้อขายของ Tesla บนเว็บไซต์นายหน้าของ Fidelity เมื่อวันพุธ (10 พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นเป็นการ ‘ซื้อ’ มากกว่าการขาย โดยนักลงทุนรายย่อยทำการซื้อสุทธิ 157 ล้านดอลลาร์ หรือ 5.2 พันล้านบาทใน 8-9 พฤศจิกายน จากข้อมูลของ Vanda Research

ปัจจุบันหุ้นของ Tesla เติบโตขึ้นมากกว่า 51% ในปี 2021 โดยส่วนใหญ่มาจากราคาที่เพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ที่ได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงในการขายรถยนต์ 100,000 คันให้กับบริษัทรถเช่า Hertz

ปัจจุบันมัสก์ยังคงถือหุ้นมากกว่า 170 ล้านหุ้นใน Tesla

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Hannibal Hanschke-Pool / Getty Images

อ้างอิง: