×

Hyperloop ยังไม่ถึงกาลอวสานและไม่ได้ขนแค่ผัก! เปิดทางเลือกสดใสที่ไปได้ไกลกว่าอุโมงค์ต้นแบบของ อีลอน มัสก์

30.11.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • ความทะเยอทะยานในการขนส่งผู้โดยสารผ่านระบบ Hyperloop ความเร็วสูงพิเศษของชาวโลกดูเหมือนจะถูกบดขยี้เมื่อมีข่าวว่า อุโมงค์ Hyperloop รุ่นต้นแบบของ อีลอน มัสก์ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ SpaceX ได้ถูกรื้อถอนออก แล้วแทนที่ด้วยลานจอดรถสำหรับพนักงาน 
  • แต่ในภาพรวม วงการ Hyperloop ยังมีทางเลือกอื่นที่ทอแสงสวยงามอยู่ในเวลานี้ เพราะขณะที่ Virgin Hyperloop ยกเลิกแผนสำหรับการขนส่งผู้โดยสาร และฝากทางเลือกหลักไว้ที่การขนส่งสินค้า การสำรวจพบว่า มีองค์กรอย่างน้อย 14 รายยังคงปักหลักพัฒนาเทคโนโลยีเคลื่อนที่ความเร็วสูงอยู่ต่อไปในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น จีน อินเดีย ฝรั่งเศส และอิตาลี ที่เดินหน้าสนับสนุนโครงการ Hyperloop ในพื้นที่
  • ถึงแม้กำหนดการทดสอบเชิงพาณิชย์สำหรับผู้โดยสารจะยังอยู่ห่างออกไปหลายปี แต่การสำรวจล่าสุดระบุว่า ขนาดตลาดเทคโนโลยี Hyperloop ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตเป็น 6.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2021-2026 ขยายตัวราว 40.59% ต่อปี และตลาดใหญ่ยังคงอยู่ที่อเมริกาเหนือ

หากลองนึกย้อนไปถึงช่วงที่ อีลอน มัสก์ ยังไม่พูดถึง Twitter มากนัก เวลานั้นพ่อมดอย่างมัสก์จุดประกายความหวังโลก ทั้งโครงการตั้งรกรากบนดาวอังคาร โครงการนำจรวดกลับมาใช้ใหม่ และโครงการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

 

ที่สำคัญคือสุดยอดโปรเจกต์อย่าง Hyperloop ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งผ่านท่อยาว โดยมัสก์เคยอ้างว่า Hyperloop จะช่วยให้การเดินทางจากลอสแอนเจลิสถึงซานฟรานซิสโกทำได้ในเวลาเพียง 30 นาที เร็วกว่าเดิมที่ต้องใช้เวลาขับรถกว่า 6 ชั่วโมง

 

จนในปี 2016 บริษัท Boring ของมัสก์ ได้สร้างสนามทดสอบยาว 1 ไมล์ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท SpaceX ในเมืองฮอว์ธอร์น รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ปัจจุบันแท่นทดสอบสำหรับสิ่งที่มัสก์มองว่าเป็นการคมนาคมแบบใหม่ที่ปฏิวัติวงการนั้นกำลังจะโบกมือลา เพราะสำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มีการทุบรื้อเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับที่จอดรถของพนักงาน SpaceX

 

 

The Boring Company ไม่ได้เปิดเผยว่าเหตุใดจึงปิดแทร็กทดสอบ ซึ่งไม่กี่วันต่อมาบริษัทกลับทวีตว่า การทดสอบ Hyperloop อย่างเต็มรูปแบบได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อไม่ได้ระบุว่าการทดสอบนี้เกิดขึ้นที่ใด จึงมีการคาดเดาว่าแทร็กอาจตั้งอยู่ในเท็กซัส เนื่องจาก Boring Company เคยซื้อที่ดินใกล้กับโรงงาน Tesla Gigafactory ในออสติน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่บริษัทต้องการย้ายการดำเนินการทดสอบลงไปทางใต้ของสหรัฐอเมริกา

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ความเป็นไปได้นี้สะท้อนว่า Hyperloop ยังไม่ถึงกาลอวสาน และหากมองไปนอกเหนือจากจักรวาลของมัสก์แล้ว กลุ่มคนและบริษัทต่างๆ ทั่วโลกยังคงเคลื่อนไหวเรื่อง Hyperloop อยู่ โดยพยายามผลักดันความฝันให้เกิดขึ้นได้ในไม่กี่ปีจากนี้

 

หลายประเทศยังรอ

 

รัฐบาลของหลายประเทศมองภารกิจเรื่องการเคลื่อนย้ายผู้คนและสินค้าในอนาคตไปในทางเดียวกัน นั่นคือการยกระดับให้การขนส่งทำได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นวัตกรรมมากมายถูกพัฒนาต่อเนื่องตั้งแต่ถนนทางหลวงอิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงรถไฟพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และรถหรือเรือไฟฟ้าบินได้ ซึ่งการให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาการเดินทางในอนาคตนี้เองที่นำไปสู่การลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU หลายฉบับ ทำให้ไม่เพียงนักลงทุนมีความหวัง แต่ประชาชนก็หวังให้เกิดการขยายผลมากขึ้น

 

หนึ่งในแนวคิดที่อาจดูเหมือนหลุดออกมาจากนิยายวิทยาศาสตร์คือ Hyperloop ซึ่งเป็นระบบของยานพาหนะที่ขับเคลื่อนได้เร็ว เพราะรูปลักษณ์เทียบได้กับขบวนรถที่ลอยอยู่ในท่อยาว โดยเมื่อความกดอากาศลดลงเหลือ 1 ใน 10 ของระดับน้ำทะเล ระบบลดแรงต้านของอากาศจะทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วถึง 700-800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (KMPH)

 

แนวคิดตั้งต้นคือท่อเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อระหว่างเมืองกับเมืองได้ตั้งแต่ 2-3 กิโลเมตร ไปจนถึง 200-300 กิโลเมตร และสามารถเคลื่อนย้ายได้ทั้งกรณีบรรทุกสินค้าและผู้โดยสาร ทั้งหมดถูกประกาศครั้งแรกโดยองค์กรของ อีลอน มัสก์ ในปี 2014 แม้ว่าจะเป็นแนวคิดเก่าอายุกว่า 20 ปี ซึ่งวิศวกรได้พยายามมองหาวิธีที่จะส่งยานพาหนะเดินทางผ่านอุโมงค์สุญญากาศมานานแล้วก็ตาม

 

ในช่วงที่มัสก์พูดถึงเทคโนโลยีนี้ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นักวิจารณ์พยายามพุ่งประเด็นไปที่ปัญหาและข้อจำกัดของ Hyperloop ที่ใช้การลอยตัวรถด้วยชุดแม่เหล็กที่ถูกดูดติดอยู่กับรถไฟและท่อสุญญากาศว่า Hyperloop จะมีราคาแพงอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งการสร้าง Hyperloop ตามเส้นทางระหว่างลอสแอนเจลิสและซานฟรานซิสโกนั้นเป็นเพียงส่วนเดียวที่รัฐแคลิฟอร์เนียได้ลงทุนหลายปีและอัดฉีดเงินหลายล้านดอลลาร์ เพื่อพยายามสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสำหรับการเดินทาง

 

แม้ว่า Hyperloop จะพิสูจน์ได้ว่าปลอดภัยและเชื่อถือได้ แต่มีโอกาสที่ผู้โดยสารอาจไม่ชอบความรู้สึกของการพุ่งท่อลงมาด้วยความเร็วกว่าเสียง ดังนั้น Hyperloop จึงเริ่มเสื่อมความนิยมเมื่อหลายปีผ่านไป ความฝันดั้งเดิมในแคลิฟอร์เนียของมัสก์ดูเหมือนจะไปไม่ถึงไหน ทำให้หลายคนรู้สึกว่า Hyperloop อาจเป็นจินตนาการที่มัสก์ไม่ได้ตั้งใจจริงจัง ขณะเดียวกันก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า Boring Company ของมัสก์ ได้เปลี่ยนทิศทางความพยายามของบริษัทไปสู่การขุดอุโมงค์เส้นทางขนาดเล็กใต้เมือง แทนที่จะสร้างท่อเพื่อเชื่อมต่อกัน

 

 

อย่างไรก็ตาม อุโมงค์ Loop เหล่านี้มีไว้สำหรับรถยนต์ทั่วไป ไม่ใช่รถไฟลอยในท่อสุญญากาศ และแม้อุโมงค์ Loop จะดึงดูดอุตสาหกรรมมากมาย แต่ Loop ก็ยังประสบปัญหาการจราจรติดขัดใต้ดินในลาสเวกัส ทำให้อนาคตของ Hyperloop ในรัศมีมัสก์ยังไม่ชัดเจน ทั้งที่มัสก์ได้เสนอแนวคิดแบบ Open Source ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ที่ชื่นชอบ Hyperloop บริษัทอื่นทั่วโลกสนใจและลุกขึ้นมาเตรียมวิ่งไปพร้อมกัน

 

จับตา HyperloopTT

 

Hyperloop One ของ อีลอน มัสก์ นั้นถูกนำไปโยงกับบริษัท Hyperloop Transportation Technologies (HyperloopTT) บ่อยครั้ง สำหรับ HyperloopTT นั้นเป็นบริษัทที่วางโฟกัสที่การบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่แทนการขนส่งผู้โดยสาร พื้นที่หลักของ HyperloopTT คือท่าเรือที่พลุกพล่านในเขตฮัมมิง ประเทศเยอรมนี ซึ่ง HyperloopTT ต้องการมาแทนที่การใช้รถยนต์รับของที่ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งเหล่านั้น เพื่อเพิ่มความเร็วและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

 

ตัว HyperloopTT เป็นบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2013 ไล่ตามหลังการประกาศของมัสก์ไม่นาน จน 10 ปีผ่านไป กลุ่มบริษัท HyperloopTT จึงเริ่มมีการแข่งขันทดสอบในฝรั่งเศส การสร้างต้นแบบเชิงพาณิชย์ที่ดูไบและโครงการในอิตาลีที่จะเริ่มก่อสร้างปี 2023

 

ขณะนี้ HyperloopTT อยู่ระหว่างการร่างมาตรฐานแนวทางด้านกฎหมายกับคณะกรรมาธิการยุโรป และกำลังจัดระเบียบความคุ้มครองและการทำงานแวดล้อมของระบบ เพื่อให้เกิดโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม ดังนั้น HyperloopTT จึงถูกจับตาว่าเป็นผู้พัฒนา Hyperloop ที่ก้าวหน้าเป็นพิเศษ ซึ่งคาดว่าหลายประเทศจะต้องพัฒนารูปแบบข้อตกลงที่ครอบคลุมเช่นกัน โดยเฉพาะอินเดียและจีนที่เร่งปลุกปั้น Hyperloop เต็มที่

 

ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จีนได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบเทคโนโลยี Hyperloop ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างรถไฟที่เดินทางได้ 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทประสบความสำเร็จ

 

ความสำเร็จนี้สอดคล้องกับที่ HyperloopTT ย้ำว่า ยุคแห่งการขนส่งด้วยเทคโนโลยี Hyperloop นั้นอยู่ห่างออกไปแค่ ‘ไม่กี่ปี’ เนื่องจากการพัฒนา Hyperloop กระจายไปทั่วโลก เช่น การสร้างต้นแบบขนาดเต็มศักยภาพในเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส และโครงการของประเทศอิตาลีที่สร้างระบบ Hyperloop ระยะทาง 10 กิโลเมตร 

 

ทั้งหมดนี้ได้รับแรงหนุนจากความต้องการรูปแบบการขนส่งที่รวดเร็วขึ้น ลดเวลาที่ใช้ในการเดินทาง สามารถครอบคลุมระยะทางได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง สามารถบรรทุกสินค้าและผู้โดยสารได้มากขึ้นในวันเดียวกัน นอกจากนี้ยังช่วยยกระดับธุรกิจนอกเหนือจากการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้มีส่วนทำให้ตลาดเติบโต

 

 

แนวโน้มและความท้าทาย

 

การวิเคราะห์ล่าสุดของบริษัทวิจัย Technavio ชี้ว่า ความต้องการรูปแบบการขนส่งที่ยั่งยืนถือเป็นแนวโน้มหลักในตลาด ดังนั้น Hyperloop จึงมีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะการขนส่งผ่านท่อแรงดันต่ำโดยใช้แคปซูลห้องโดยสารลอยได้ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแรงขับแม่เหล็กไฟฟ้า นั้นมีศักยภาพในการลดการใช้พลังงานและการปล่อย CO2 ในขณะที่เพิ่มความเร็วในการเดินทางได้อย่างชัดเจน

 

แม้ความต้องการรูปแบบการขนส่งที่ยั่งยืนจะมีอิทธิพลเชิงบวกทำให้ Hyperloop มีแนวโน้มเติบโตมาก แต่ความท้าทายเรื่องต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าสูงของ Hyperloop กำลังขัดขวางการเติบโตของตลาด รายงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์ของ Hyperloop โดย NASA มีการแบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายไว้ที่ราว 25-27 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อไมล์สำหรับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว 

 

นอกจากนี้การจัดหาที่ดินยังเป็นความท้าทายที่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยีนี้ต้องการการบำรุงรักษาเป็นประจำ และอาจกลายเป็นปัญหาได้ เนื่องจากเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลกประสบปัญหาในการบำรุงรักษาสะพาน รางรถไฟ และถนนในตัวอย่างแรก ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ศักยภาพการเติบโตในตลาด Hyperloop ลดลง

 

ที่สุดแล้ว Hyperloop จะไม่เป็นหมันและไม่ได้ขนแค่ผัก เมื่อมีกฎข้อบังคับสำหรับระบบที่ชัดเจน ทั้งระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับโปรแกรมและราง ระบบความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร รวมถึงการรักษาและจัดสรรสิทธิ์ของผู้สร้างเส้นทาง ทั้งหมดนี้ทำให้คำถามของ Hyperloop ไม่ได้อยู่ที่จะเกิดเมื่อไร แต่อยู่ที่ความสามารถในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ต้องใช้ในการดูแลทำความสะอาดให้ปลอดภัยกว่าระบบขนส่งในปัจจุบัน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X