อีลิทคาร์ดจับมือ ททท. และ ศบศ. ออก ‘อีลิท เฟล็กซิเบิล วัน’ ดึงต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียม

เกิดอะไรขึ้น:

สมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ บจ.ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด（อีลิท คาร์ด）เผยว่า อีลิทคาร์ด จับมือ ททท. และ ศบศ. เปิดตัว อีลิท เฟล็กซิเบิล วัน (Elite Flexible One) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ และรองรับการเดินทางของกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติ เช่น จีน ฮ่องกง เยอรมัน และญี่ปุ่น ซึ่งมีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงให้เข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย หลังเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

สำหรับบัตรสมาชิก อีลิท เฟล็กซิเบิล วัน จะมีค่าธรรมเนียมสมาชิก 5 แสนบาท มีอายุ 5 ปี และได้รับวีซ่าประเภท 5 ปี โดยมีเงื่อนไขคือ ผู้ที่จะเป็นสมาชิกบัตรต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ซึ่งมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และจะได้เป็นสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิทตามเงื่อนไข โดยผู้สมัครที่ยื่นขอเข้าร่วมต้องแสดงหลักฐานยืนยันกรรมสิทธิ์การถือครองอสังหาริมทรัพย์ในนามของผู้สมัครที่มีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และห้ามจำนอง จำหน่าย โอน ภายในระยะเวลา 5 ปี 

และมีหลักฐานการโอนเงินจากต่างประเทศเพื่อการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มีหนังสือเดินทางต่างประเทศ และมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี เริ่ม 1 มกราคม 2564 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565 ทั้งนี้คาดว่าจากโครงการดังกล่าว จะขายคอนโดมิเนียมได้ 100 ยูนิตขึ้นไป รวมรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

กระทบอย่างไร:

วันนี้ (4 ธันวาคม 2563) ดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับขึ้น 0.42%DoD สู่ระดับ 217.94 จุด เทียบกับ SET Index ที่ปรับขึ้น 11.51 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 0.80%DoD สู่ระดับ 1,449.83 จุด

มุมมองระยะสั้น:

เรามองมุมบวกเล็กน้อยต่อข่าวนี้ เนื่องจากนโยบายนี้ตั้งเป้าหมายไม่ได้สูงมากนัก คือ ประมาณ 100 ยูนิต ที่รายได้รวม 1 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีกว่าจะไม่มีนโยบายกระตุ้นเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการเลย ทั้งนี้กลุ่มที่คาดได้ประโยชน์ คือ บริษัทพัฒนาคอนโดมิเนียมที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าจะมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใดบ้างที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้

มุมมองระยะยาว:

ในระยะถัดไปเรามองว่า นักลงทุนยังคงต้องติดตามการฟื้นตัวของทิศทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของผู้ซื้อ รวมถึงทั้งยังต้องติดตามการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์แนวราบ หลังจากหลายผู้ประกอบการต่างตั้งเป้ายอดขายเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งอาจกดดันต่ออัตรากำไรของบริษัทในอนาคตได้

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล