ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ล่าสุด (12 มีนาคม) โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มสามารถปรับตัวขึ้นได้ทั้งหมด สวนทางกับภาพรวมของตลาดหุ้นไทยที่พลิกกลับมาอยู่ในแดนลบ
เบญจพล สุทธิ์วนิช รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เอเชียเวลท์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าผันผวนมากเพราะบอนด์ยีลด์ในสหรัฐฯ สูงขึ้น และเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่ม Defensive ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
แต่หลังจากที่เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังไม่ได้ฟื้นตัวเร็วอย่างที่คาดกันไว้ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ ปรับลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1.5% อีกครั้ง ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ประกอบกับความผันผวนของหุ้นกลุ่มอื่นๆ ด้วยมูลค่าหุ้นที่เริ่มตึงตัวหลังจากที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาต่อเนื่อง
“ตลาดหุ้นโดยภาพรวมค่อนข้างผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของ Valuation ทำให้หุ้นที่ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้เริ่มตึงตัว อย่างล่าสุดจะเห็นว่าราคาน้ำมันขยับขึ้นเมื่อวานนี้ แต่กลุ่มพลังงานก็ไม่ได้วิ่งขึ้นตามมากนัก”
ทั้งนี้อัปไซด์ของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าในปัจจุบันค่อนข้างเปิดกว้าง หลังจากที่พักฐานมาก่อนหน้านี้ ขณะที่แนวโน้มของกำไรในปีนี้น่าจะฟื้นตัวได้ดีจากทั้งดีมานด์การใช้ไฟฟ้าตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และแรงหนุนจากแผนการขยายธุรกิจของแต่ละบริษัท
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ายังมีความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อและบอนด์ยีลด์ที่มีแนวโน้มขยับขึ้น ทำให้ราคาหุ้นของกลุ่มโรงไฟฟ้าในปีนี้อาจจะผันผวน แต่สำหรับการซื้อเพื่อลงทุนยาวถือว่ายังน่าสนใจ สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มที่คาดว่ากำไรจะเติบโตดีในปีนี้ ได้แก่ BPP, EGCO, GPSC และ GULF
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า