วันนี้ (9 มิถุนายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดกิจกรรมวันสถาปนาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งครบรอบ 24 ปี จัดแถลงผลงานภายใต้แนวคิด ‘24 ปี กกต. มาตรฐานการจัดการเลือกตั้ง’ โดยมีการแนะนำและเชิญชวนให้ประชาชนใช้งานแอปพลิเคชัน Smart Vote, ตาสับปะรด และ Civic Education ของทาง กกต. เพื่ออำนวยความสะดวกในการสอบถามข้อสงสัย และยื่นเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง
รวมถึงมีการปาฐกถาพิเศษ เสวนาวิชาการนำโดย ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในหัวข้อ ‘การเสริมสร้างเสถียรภาพและธรรมาภิบาลทางการเมือง’ และ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสวนาในหัวข้อ แนวโน้มการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบ
ด้าน แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การทำงานของ กกต. และคณะกรรมการหลังจากนี้ในขณะที่สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง คนที่เป็นคณะกรรมการต้องสามารถปฏิบัติงานอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา อย่าให้ประชาชนเกิดข้อสงสัย ต้องสร้างการยอมรับจากประชาชนให้ได้
ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคือยึดหลักความถูกต้องจากกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำงานให้รวดเร็วและเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น ในการเลือกตั้งต้องให้ประชาชนได้เห็นว่าแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร กฎหมายกำหนดไว้อย่างไร จากนี้ต้องสื่อสารให้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเร็วอย่างเดียวไม่ได้ต้องยึดตามขั้นตอนให้ครบถ้วนด้วย
สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่ผ่านมาสามารถแสดงผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการได้รวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะ กทม. มีบุคลากรเป็นของตัวเองในการทำงานเฉพาะ แต่สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่เป็นเรื่องของทั่วประเทศต้องใช้ประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก หากจะต้องเสนอผลคะแนนอย่างรวดเร็วแบบที่ กทม. จะต้องมีการซักซ้อมอย่างดีเพื่อป้องกันความผิดพลาด
แสวงกล่าวต่อไปว่า การเลือกตั้งของ กทม. ที่สังคมคาดหวังให้มีการรับรองผลอย่างรวดเร็ว แต่ทาง กกต. ยังคงต้องใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ เพราะเป็นไปตามหลักปฏิบัติที่ต้องตรวจสอบหลายเรื่องเพื่อให้รับรองได้ว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม
แสวงยังได้ยกตัวอย่างการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีการทดลองนำคะแนนบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจัดเก็บและคำนวณว่า หากอนาคตใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยประมวลผลการเลือกตั้งจะใช้เวลามากน้อยเท่าใด ซึ่งระบบนี้ที่จะนำมาใช้จัดการการเลือกตั้ง เพราะจะช่วยลดข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงใช้เวลานาน หรือมีข้อผิดพลาดอย่างไรในการจัดการผลคะแนน
ในส่วนของการปรับแก้กรณีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ผู้สมัครในพรรคเดียวกันคนละหมายเลข แสวงกล่าวว่าเรื่องนี้ทาง กกต. ได้เสนอไปทางสภาเรียบร้อยแล้ว อนาคตอาจจะปรับให้บัตรทั้ง 2 ใบ ผู้สมัครที่อยู่พรรคเดียวกันมีหมายเลยเดียวกันเพื่อป้องกันการสับสนของประชาชน แต่ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของสภา
