กลุ่มผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไปราว 1 ใน 3 ในอิสราเอล เข้ารับวัคซีน mRNA เข็ม 3 แล้ว ทางการเร่งรับมือโควิดระลอกใหม่

วานนี้ (8 สิงหาคม) นาฟตาลี เบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เผยความคืบหน้าการเร่งฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 (Booster Shot) ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ โดยมีกลุ่มผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป ราว 1 ใน 3 ของประเทศ (ราว 4.2 แสนราย) เข้ารับวัคซีน mRNA เข็ม 3 แล้ว นับตั้งแต่มีการประกาศแนวทางนี้เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

“นี่คือการบรรลุผลสำเร็จครั้งสำคัญ แต่จำนวนผู้เข้ารับวัคซีนในกลุ่มนี้จำเป็นต้องเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ เราจะต้องไล่ตามโรคระบาดให้ทันและเอาชนะการแข่งขันระหว่างการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนและการแพร่กระจายของเชื้อนี้ให้ได้”

โดยอิสราเอลถือเป็นประเทศแรกๆ ที่ตัดสินใจฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงของตน แม้ว่าวัคซีนหลักที่ใช้จะเป็นวัคซีน mRNA อย่าง Pfizer-BioNTech และ Moderna ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับวัคซีนตัวอื่นๆ ในขณะนี้ ทั้งยังเป็นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรเข้ารับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วมากที่สุดอยู่ในกลุ่มประเทศต้นๆ ของโลก ซึ่งการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอิสราเอลเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งผู้ติดเชื้อใหม่บางรายยังเป็นผู้ที่เคยเข้ารับวัคซีน mRNA ครบ 2 โดสมาแล้ว

อิสราเอลมีพลเมืองราว 62.3% หรือเกือบ 2 ใน 3 ของพลเมืองทั้งหมดเข้ารับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่พลเมืองราว 67.1% จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านราย เข้ารับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส โดยทางการยังได้ประกาศให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวแม้ว่าจะฉีดวัคซีนมาแล้วก็ตาม แนะให้หลายองค์กรยังคง Work from Home หลีกเลี่ยงการสัมผัส จับมือ โอบกอด และจูบโดยไม่จำเป็น เบื้องต้นยังไม่มีการพิจารณามาตรการล็อกดาวน์ แม้ว่าในความเป็นจริงอาจเป็นมาตรการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตก็ตาม

บทความที่เกี่ยวข้อง: