×

ttb analytics หวั่นเอลนีโญทำไทยเผชิญภัยแล้งยาวถึงปี 68 คาดปีนี้รายได้เกษตรกรที่เพาะปลูก 5 พืชเศรษฐกิจหลักลดลง 3.4 หมื่นล้าน

10.08.2023
  • LOADING...
เอลนีโญ ภัยแล้ง

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดรายได้เกษตรกรไทยที่เพาะปลูก 5 พืชหลักจะลดลงราว 4.0% ในปีหน้า จากแรงกดดันของปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะส่งผลให้ปริมาณฝนลดน้อยลงจนกระทบต่อผลผลิต แนะเกษตรกรเร่งปรับตัวรับมือกรณีภัยแล้งที่อาจยาวนานต่อเนื่องไปถึงปี 2568

 

บทวิเคราะห์ของ ttb analytics ระบุว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจภาคการเกษตรของไทยมีมูลค่า 1.53 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 9.1% ของขนาดเศรษฐกิจรวมทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญเชิงระบบของภาคเศรษฐกิจไทย พบว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมากในมิติของการเป็นแหล่งงานให้กับคนเกือบ 13 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 32.2% ของจำนวนแรงงานทั่วประเทศ รวมถึงมิติการกระจายรายได้ที่แรงงานภาคเกษตรเป็นกลไกสำคัญในการจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือน ที่ไม่ได้มีการกระจุกตัวเหมือนกลุ่มแรงงานภาคอุตสาหกรรม

 

ทั้งนี้ ในมิติเชิงลึก การเพาะปลูก 5 พืชหลัก ได้แก่ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยในปี 2565 ได้กว่า 8.75 แสนล้านบาท โดยปรับเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2564 ราว 12.7% จากสถานการณ์ฝนที่เอื้ออำนวยต่อผลผลิตและผลของราคาที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ในปี 2566 มีแนวโน้มที่รายได้เกษตรกรกลุ่ม 5 พืชเศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับลดลงเหลือ 8.40 แสนล้านบาท ลดลง 3.9% หรือราว 3.4 หมื่นล้านบาท จากปริมาณฝนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 27% 

 

แต่ด้วยปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ได้รับอิทธิพลจากฝนที่มากในปีก่อน ยังอยู่ในระดับที่สามารถปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรได้ ส่งผลให้พืชบางกลุ่มในภาพรวมยังไม่ได้รับผลกระทบ เช่น ข้าวเปลือก ที่ผลผลิตรวมใกล้เคียงกับปีก่อนจากนาปรังมีผลผลิตดีจากปริมาณต้นปี ยังอยู่ในระดับที่สามารถทำการเกษตรได้ และผลผลิตนาปีที่ยังได้รับผลกระทบไม่มากในปีนี้

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณฝนในปี 2566 ที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่จำเป็นต้องกักเก็บสำหรับการเกษตรในปี 2567 ประกอบกับการยกระดับการเตือนภัยเอลนีโญเพิ่มเป็น El Nino Advisory หรือระดับที่มีความน่าจะเป็นที่จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญสูงกว่า 90% ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NOAA) ส่งผลให้ภาคการเกษตรของไทยคาดว่าจะได้รับแรงกดดันอย่างรุนแรงในปี 2567 

 

ทั้งนี้ ttb analytics ได้ถอดบทเรียนในอดีตจากปัญหาภัยแล้ง 2 ครั้งใหญ่ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา และประเมินรายได้เกษตรกร 5 พืชเศรษฐกิจปี 2567 อาจหดตัว 4.0% แม้ว่าจะได้รับผลดีจากราคาสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มอีกในปีหน้าก็ตาม โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

  1. กลุ่มพืชเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ เป็นกลุ่มพืชที่ต้องการน้ำมาก เช่น ข้าว ที่คาดว่าผลผลิตในปี 2567 ภาพรวมอาจลดลง 16-18% โดยเฉพาะผลผลิตข้าวนาปรังที่คาดมีผลผลิตลดลงถึง 35-40% และอ้อย ที่ผลผลิตอาจลดลงประมาณ 13-17% จากปริมาณฝนที่น้อยและขาดช่วง อาจส่งผลต่อความชื้นในดิน

 

  1. กลุ่มพืชเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ เช่น ยางพาราและปาล์มน้ำมัน จากพื้นที่เพาะปลูกที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนสูง และพื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่อยู่ในเขตชลประทาน รวมถึงมันสำปะหลัง ที่เป็นกลุ่มพืชทนแล้งได้ดีและต้องการน้ำน้อย

 

ในภาพรวม ปี 2566 จะเป็นปีที่เกษตรกรไทยอาจเผชิญกับความยากลำบากจากภาวะฝนน้อย และผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางลบของภาคการเกษตรในปี 2566 และ 2567 อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เนื่องจากภาวะฝนน้อยและปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ไม่เพียงพออาจส่งผลกระทบต่อเนื่อง (Domino Effect) ทั้งเชิงปริมาณในปี 2568 ทำให้กลุ่มพืชที่ต้องการน้ำปานกลาง-น้อย ได้รับผลกระทบจากการที่น้ำไม่เพียงพอ อันจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการเพาะปลูกและผลกระทบในเชิงคุณภาพที่ผลผลิตต่อไร่อาจลดลง

 

ด้วยเหตุนี้ ttb analytics จึงเสนอแนะให้ภาครัฐและภาคเอกชนเร่งรับมือบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชด้วยประสิทธิภาพและถูกต้องตามหลักทฤษฎีการเกษตร เนื่องจากตามสถิติผลผลิตพืชหลัก อาทิ ข้าว ในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีผลผลิตข้าวลดลงเพียง 0.9-1.2% ในขณะที่ประเทศไทยกลับมีผลผลิตข้าวที่ลดลงสูงถึง 11.4% 

 

โดยตัวอย่างของการแก้ปัญหาคือ การวางแผนบริหารจัดการการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เน้นการปลูกพืชหมุนเวียนในพื้นที่เพาะปลูก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของดิน พิจารณาการปลูกพืชทางเลือกที่ใช้น้ำน้อย รวมถึงยกระดับการผสานเทคโนโลยีการเพาะปลูก เช่น การทำการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) ที่ใช้เทคโนโลยียกระดับการผลิตสินค้าเกษตรให้มีประสิทธิภาพขึ้นในหลากหลายมิติ จากการควบคุมการเพาะปลูกผ่านระบบที่มีความแม่นยำสูง (Precision Agriculture) สามารถช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตจากประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย ลดปริมาณการใช้ยาปราบศัตรูพืช รวมถึงลดการใช้น้ำและพลังงาน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising