สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า S&P Global Ratings ได้ออกมาเผยว่าอัตราเงินเฟ้อของแต่ล่ะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางในทุกประเทศได้วางไว้ในปีหน้า ซึ่งอาจสร้างความยากลำบากให้กับธนาคารกลางในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
Shaun Roache หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ S&P Global Ratings เผยว่าธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจต้องใช้ ‘แผนสำรอง’ เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากหลายประเทศกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งแผนสำรองอาจเป็นการผสมผสานระหว่างคำแนะนำในส่วนอัตราการติดลบ และการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
โดยธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง อินโดนีเซีย, ไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ได้ใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินในปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจที่แย่ลง และบางประเทศเตรียมที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอีกครั้งในปี 2020 ซึ่งผู้กำหนดนโยบายทางการเงินของแต่ล่ะประเทศจำเป็นต้องสมดุลกับให้ความเสี่ยงด้านสกุลเงิน และ ความั่นในคงทางการเงิน
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ในสัปดาห์นี้ โดยมีเป้าหมายคือการให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาอยู่ในเป้าหมายที่ 1-4% ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของอินโดนีเซียได้ปรับลดเป้าหมายเงินเฟ้อจาก 2.5%+4.5% ลงมาเหลือ 2-4% ในปีหน้า
รายงาน: ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ
เรียบเรียง: ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com/