นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 เม.ย. เวลา 10.30 น. นี้ คณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เชิญให้ตนเองไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม กรณีที่สมาคมฯ ได้เคยร้องเรียนว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ว่าในขณะสมัครรับเลือกตั้งอาจถือครองหุ้นในกิจการสื่อสิ่งพิมพ์ของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด อันอาจเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตาม ม.98(3) แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 และ ม.42(3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ที่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ซึ่งสมาคมฯ ได้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต. และส่งเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมไปแล้ว 3 ครั้ง คือวันที่ 25 มี.ค. วันที่ 5 เม.ย. และวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เนื่องจาก กกต. ได้ออกมาแถลงตั้งข้อกล่าวหานายธนาธรว่ามีมูลไว้แล้วเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิชี้แจงภายใน 7 วัน
ดังนั้น เพื่อเป็นการฟังความอย่างรอบด้าน คณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงได้เชิญสมาคมฯ ในฐานะผู้ร้องไปให้ข้อมูลเพื่อยืนยันในคำร้องตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด 2561 ซึ่งในที่สุดแล้วหาก กกต. ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน และฟังข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนแล้ว และเชื่อได้ว่ามูลคำร้องมีน้ำหนักมากกว่า ก็จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธรต่อไป
ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้เคยมีคำสั่งในลักษณะที่ใกล้เคียงข้อพิพาทนี้ไว้แล้ว ตามคำสั่งศาลฎีกาที่ 111/2562, 1144/2562 และ 1228/2562 และอาจมีโทษทางอาญาฐานแจ้งหรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญาต่อไปด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์