บริษัท Dyson ที่มีเจ้าของคือ ‘เซอร์ เจมส์ ไดสัน’ หนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของสหราชอาณาจักร กลายเป็นบริษัทล่าสุดที่ออกมาประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยการปลดพนักงาน อันเป็นผลพวงจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค
Dyson ซึ่งโด่งดังจากการคิดค้นเครื่องดูดฝุ่นไร้ถุง ได้ประกาศการปลดพนักงานทั้งหมด 900 คน ส่วนใหญ่ 600 คนจะเป็นพนักงานที่อยู่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีพนักงานอยู่ราว 4,000 คน ทำให้พนักงานที่ถูกปลดนั้นคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 15% ขณะที่อีก 300 คนที่ถูกปลดจะเป็นพนักงานที่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งคิดเป็น 3% ของพนักงานที่มีอยู่ 10,000 คน
Dyson อ้างว่า การระบาดของวิกฤตโควิด-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคให้หันไปซื้อสินค้าในออนไลน์มากขึ้น ทำให้บริษัทต้องเพิ่มความเร็วในแผนการปรับโครงสร้าง จึงจำเป็นต้องปลดพนักงานซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแผนกค้าปลีกและบริการลูกค้าออกไป เดิมนั้น Dyson มักจะให้พนักงานของตัวเองไปประจำอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพื่ออธิบายคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าฟัง
“วิกฤตโควิด-19 ได้เข้ามาเร่งเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ดังนั้นเราจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามีส่วนร่วมกับลูกค้าของเราและวิธีขายผลิตภัณฑ์ของเรา” โฆษกของ Dyson กล่าว พร้อมกับเสริมว่า Dyson กำลังพัฒนาองค์กร ซึ่งได้สะท้อนออกมาจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า จริงๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและบริษัทได้กระทบกระทั่งกันมาเป็นระยะนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พนักงานของ Dyson ได้ออกมาประท้วงบริษัทหลังจากมีแผนที่จะให้พนักงานกลับมาทำงาน ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลที่บอกอย่างชัดเจนว่าให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
ขณะเดียวกันการปลดพนักงานในครั้งนี้สร้างความโกรธให้กับพนักงาน และถูกมองว่าเป็นของอ้างของบริษัท ทั้งๆ ที่ในปีที่แล้วความมั่งคั่งของ เซอร์ เจมส์ ไดสัน ก็เพียงพอที่จะอุ้มพนักงานได้ และยังมีเงินในกระเป๋าเหลืออีกกว่า 3 พันล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือราว 1.21 แสนล้านบาท
โดยมูลค่าสุทธิของ Dyson เพิ่มขึ้นจาก 3.6 พันล้านปอนด์ เป็น 16.2 พันล้านปอนด์ในปีที่แล้ว แม้จะมีความล้มเหลวของโครงการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมูลค่า 500 ล้านปอนด์ก็ตาม โดยสาเหตุที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลจากยอดขายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
