×

คุยกับ ดวง โปษยานนท์ ถึงความผูกพันที่มีต่อมิลาน และทำไม Istituto Marangoni ถึงตอบโจทย์การเรียนแฟชั่นในปี 2025

05.06.2025
  • LOADING...

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในวงการที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นจากแบรนด์ลักชัวรีสุดฮอตชั้นนำที่สร้างเทรนด์ไปทั่วโลกอย่าง Prada หรือ Miu Miu ไปจนถึงการเข้าถึงข้อมูลโซเชียลมีเดีย และการแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์จากทั่วโลกที่ทำให้เราเข้าใจฟันเฟืองการทำงานของอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น 

 

และแน่นอนว่าเมื่อวงการมีการขยายตัว ก็ต้องย่อมตามมาซึ่งความสนใจจากนักเรียนนักศึกษาที่อยากจะเข้ามาอยู่ในอุตสาหกรรมนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะสถาบันเรียนรู้แฟชั่นที่ทำหน้าที่ผลิตบุคลากรที่มาหล่อเลี้ยงกลไกอุตสาหกรรมแฟชั่นและลักชัวรีที่มีเม็ดเงินไหลเวียนหลักแสนล้านดอลลาร์ การเลือกเรียนต่อจึงกลายเป็นการลงทุนในระยะยาว ไม่แพ้การเลือกซื้อกระเป๋าใบแรก

 

เราคงได้ยินชื่อของสถาบัน Istituto Marangoni หนึ่งในสถาบันแฟชั่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ซึ่งนักเรียนไทยนิยมไปเรียนที่ 4 วิทยาเขต คือที่เมืองมิลาน ฟลอเรนซ์ ปารีสและลอนดอน และมีศิษย์เก่าทั้งชาวไทย และต่างประเทศที่ได้รับการยอมรับและสร้างอิมแพคไว้มากมาย เราได้คุยกับ ดวง โปษยานนท์ ผู้อำนวยการของ DP Education ศูนย์แนะแนวการเรียนต่อสถาบัน Istituto Marangoni ประเทศไทยและดำรงตำแหน่ง IM Alumni Ambassador  ของสถาบันแห่งนี้ เราพาเธอย้อนไปถึงการใช้ชีวิตที่มิลานสมัยเป็นนักศึกษาช่วงต้นปี 2000 การเข้ามาทำงานในวงการแฟชั่น และแน่นอนว่าต้องพาอัปเดตการเรียนการสอนของสถาบันในยุคที่โลกแฟชั่นหมุนเร็วจนฟาสต์แฟชั่นแทบตามไม่ทัน

 

 

It All Started In Milan

 

มิลานเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอิตาลี รองจากกรุงโรม แต่มีสถานะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแฟชั่น ลักชัวรี วัฒนธรรมและดีไซน์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งแบรนด์ใหญ่ของฝั่งอิตาลีล้วนมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ทั้งสิ้น และสำหรับดวง เมืองนี้เป็นจุดมุ่งหมายแรกที่เธออยากไปซึมซับวัฒนธรรมมากที่สุดทันทีที่เรียนจบจากที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกอิตาลี

 

“พี่ชอบวิถีการใช้ชีวิตที่นี่ เราชอบความเป็นอิตาลีตั้งแต่ที่เมืองไทย เราชอบเดินดูสถาปัตยกรรม ออกไปดูหนังอิตาลีโบราณที่นี่มีหมด อีกอย่างตอนที่เราเรียนเราชอบไปเดินดูการแต่งหน้าร้าน (Window Display) ของแบรนด์ต่างๆ ที่นี่เขาเก่งเรื่องนี้มาก พี่จำได้ว่าสมัยพี่เรียน ข้างๆ เป็น Tom Ford และ Jil Sander เราได้เห็นสิ่งนี้ตลอด พี่เลยผูกพันกับที่นี่ มันให้ไลฟ์สไตล์เรา”

 

ดวง โปษยานนท์ในลุค Loro Piana

 

สำหรับสถาบัน Istituto Marangoni ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1935 โดยช่างตัดเสื้อนาม Giulio Marangoni เพื่อเป็นโรงเรียนสอนทำแพตเทิร์นและการตัดเย็บ จนพัฒนามาเป็นโรงเรียนสอนออกแบบแฟชั่น การสื่อสารธุรกิจ และดีไซน์ที่ครบวงจรมากที่สุดแห่งหนึ่ง

 

ปัจจุบันโลเคชันหลักจะอยู่ที่ใจกลางเมืองมิลานที่เดินเพียง 10 นาทีก็ถึง Duomo ซึ่งที่นี่เป็นอาคารเรียนหลักสำคัญของนักศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโท รวมไปถึงอีกสองแคมปัสย่อยทั้ง Istituto Marangoni San Babila และ Istituto Marangoni Milano Design School สำหรับนักเรียนออกแบบก็อยู่ไม่ไกลจากกัน และในโอกาสครบรอบ 90 ปีของสถาบัน ก็เพิ่งเปิดแคมปัสใหม่ที่สวยมากที่ปารีส เขต16 และกำลังจะเปิดแคมปัสใหม่ที่ มิลานที่รวมทุกคลาสเข้าด้วยกันที่ Palazzo Turati พระราชวังเก่าของเคานต์ Francesco Turati ผู้บุกเบิกทำโรงงานผลิตผ้าฝ้ายของอิตาลี ซึ่งตัวตึกมีทั้งหมด 5 ชั้น และมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 9,000 ตารางเมตร และแคมปัสแห่งใหม่นี้ จะเปิดใช้ในปี 2025 เดือนกันยายนที่จะถึงนี้

 

เเคมปัสใหม่ที่ปารีส

เเคมปัสใหม่ที่ปารีส                                                                   Palazzo Turati แคมปัสใหม่ที่มิลาน 

 

From Miu Miu to Versace

 

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ชื่อของ Istituto Marangoni กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งคือข่าวใหญ่ของแบรนด์ Versace ที่ทาง Donatella Versace ประกาศวางมือในฐานะนักออกแบบ และยกหน้าที่นี้ให้กับดีไซเนอร์มาแรงอย่าง Dario Vitale (ดาริโอ วิตาเล) หัวหน้านักออกแบบของ Miu Miu และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเทรนด์มากมาย ทั้งมินิสเกิร์ตและเสื้อครอปจากคอลเล็กชัน Spring/Summer 2022 และเทรนด์ Balletcore ที่ทำให้แบรนด์น้องสาวของเครือ Prada Group เติบโตขึ้น 97% หากเทียบกับปี 2023 และเติบโตกระโดด 105% หากเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2024

 

“Dario Vitale จริงๆ เรียนรุ่นเดียวกับพี่ แต่เป็นฝั่งออกแบบปริญญาตรี เขาถือว่าเป็นคนที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมาอยู่ตลอด เพราะหลังจากที่เขาจบก็ได้ไปทำที่ D-Squared และ Bottega Veneta แล้วค่อยมาที่ Miu Miu เคียงคู่กับ Miuccia Prada มานานกว่าสิบปี จนตอนนี้เป็นหนึ่งในนักออกแบบที่ฝั่งอิตาลีจับตามองที่สุด คู่กับ Francesca Nicoletti ที่ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ Miu Miu และขึ้นเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ RTW แทนดาริโอ

 

นอกเหนือจาก Dario และ Francesca แล้ว ศิษย์เก่าที่น่าจับตามองปัจจุบันที่กำลังสร้างผลงานใหม่ๆ ให้แก่วงการ มีทั้ง Marco Capaldo ครีเอทีฟไดเรกเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ 16Arlington ผู้ชนะรางวัลดีไซเนอร์หน้าใหม่จากเวที Fashion Awards 2024 ของฝั่งอังกฤษ หรือ Rocco Iannone ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของฝั่งเสื้อผ้าประจำแบรนด์รถยนต์สัญชาติอิตาลีอย่าง Ferrari ที่ก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่ ต่อจากรุ่นเก่าๆ ที่ก่อร่างแบรนด์ในยุคบุกเบิก ทั้ง Franco Moschino จาก Moschino และ Domenico Dolce จาก Dolce & Gabbana

 

Dario Vitale แห่งแบรนด์ Versace และ Francesca Nicoletti แห่งแบรนด์ Miu Miu ศิษย์เก่าดีเด่นของสถาบันมารังโกนี มิลาน

 

360 Fashion Education

 

ถึงอย่างนั้น หนึ่งในภาพที่หลายคนเข้าใจผิดว่าวงการแฟชั่นมีเพียงแค่ไม่กี่อาชีพ ที่เห็นชัดๆ ก็คงจะเป็นดีไซเนอร์ นางแบบ ช่างภาพ หรือตอนนี้คงเป็นแฟชั่นอินฟลูเอ็นเซอร์ ถึงหน้าที่เหล่านั้นจะมีความสำคัญของมันเอง แต่เป็นเพียงหนึ่งในฟันเฟืองนับร้อยที่ขับเคลื่อนเครื่องจักรที่เรียกว่าแฟชั่น

 

“พี่ไม่อยากเป็นดีไซเนอร์เลย” ดวงกล่าวกับเรา เมื่อถามถึงสาเหตุแรกที่เลือกเรียนสาขา Master in Fashion Promotion, Communication & Media หรือการประชาสัมพันธ์แฟชั่น

 

“พี่อยากเรียนเรื่องพัฒนาวางแผนทำอย่างไรให้แบรนด์ดัง เรียนการเขียน การรายงาน หรือทำพีอาร์ให้แบรนด์ เราจบมาทำนิตยสาร และทำพีอาร์ วางแผนธุรกิจสร้างแบรนด์ใหญ่ๆ เพราะเขาสอนให้เรามองแฟชั่นมากกว่าแค่ใครใส่อะไรสวยหรือไม่สวย แต่มองเป็นระบบธุรกิจที่เราสามารถเอาไปต่อยอดได้”

 

“การเรียนการสอนที่นี่มันหลากหลายก็จริง เพราะแฟชั่นมันหลากหลาย แต่ว่าทุกอย่างเราจะได้ลงลึก อย่างเช่นถ้าใครชอบออกแบบ ก็จะได้เรียนรู้ถึงเรื่องเนื้อผ้า เพราะว่าอิตาลีเขาเป็นแหล่งรวมผ้า ถ้าใครชอบการจัดการลักชัวรี (Fashion & Luxury Brand Management) ก็จะได้เรียนเรื่องนำเข้า ภาษี การจัดการแบรนด์ที่ครบวงจร”

 

ยังไม่นับรวมสาขาใหม่ๆ ที่ Istituto Marangoni อัปเดตเพื่อให้ทันกระแสและตลาดบุคลากรแฟชั่นที่กำลังเป็นที่ต้องการ ทั้ง Fashion Styling, Creative Direction & Digital Content อีกหนึ่งสาขาที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ และอีกมากมาย เรียกได้ว่าตั้งแต่ต้นน้ำอย่างการออกแบบ ไปจนถึงการนำเสนอสินค้าให้คนชื่นชมถึงมือ  

 

Olivier Rousteing จาก Balmain อาจารย์พิเศษสอน Fashion Design และ แชร์ประสบการณ์การทำงานที่แคมปัสปารีส

 

Doors to the Industry

 

หนึ่งในคำถามที่ดวงพบบ่อยคือ “จบแล้วไปทำอะไรต่อ” แต่สำหรับที่ Istituto Marangoni ที่ล้อมรอบไปด้วยทรัพยากรและช่องทางกับคนที่เขาทำงานจริงในวงการแฟชั่นและการออกแบบ  เป็นเรื่องปกติที่ผู้เรียนจะได้เจอกับประสบการณ์ทำงานจริงจากโปรเจกต์ที่แบรนด์ระดับโลกเข้ามาทำกับสถาบันมารังโกนี 

 

“ทุกปีข้อดีของการเรียนที่นี่ คือเหมือนเราทำงาน เพราะจะมีคนจากบริษัทจริงๆ เวียนมาสอนเรา เด็กจะได้ลงมือทำจริงๆ สมัยพี่ดวงมีทั้ง Fendi และ Valentino มาแจกโจทย์ Industry Project หรือมีทริปไปโรงงาน ไปสำนักงานพีอาร์ ไปดูการทำงานที่แฟชั่นวีค เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายมากๆ”

 

“ตอนที่พี่ส่งเด็กไปมีทั้ง Walter Chiapponi ที่เคยอยู่ Tod’s, Olivier Rousteing ของ Balmain และ Katie Grand สไตลิสต์ชื่อดัง และผู้ก่อตั้ง Perfect Magazine ก็เคยมาสอนที่คลาส แล้วก็มีคนจาก Louis Vuitton มาให้ส่งประกวดทำแอ็กเซสซอรีและ Loro Piana มามอบโจทย์วางแผนด้านการตลาดให้นักศึกษาปริญญาโทได้ทำด้วย”

 

และก่อนจบที่นี่ยังมีโปรแกรมคำแนะนำด้านอาชีพแบบตัวต่อตัว รวมไปถึงการให้คำปรึกษาทั้งการเขียน Personal Branding มีการส่ง CV นักเรียน ให้มีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์งานกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนที่จะก้าวออกไปทำงานจริง ซึ่งมีการเก็บตัวเลขอัตราการจ้างงานจากสถาบันมากกว่า 91%

 

อาจารย์แผนก Career Service แนะแนวการทำ CV และ portfolioที่ดีให้พร้อมสมัครงาน

 

Beyond Fashion

 

ถึงจุดนี้บริบทของคำว่า ‘ลักชัวรี’ ไม่อาจจำกัดอยู่แค่เสื้อผ้าต่อไปแล้ว ซึ่ง  Istituto Marangoni ก็รองรับความต้องการด้านการศึกษาที่ไร้ขอบเขต เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ที่เมืองมิลานเป็นจุดศูนย์กลางของยุโรปเลยก็ว่าได้ “ตอนที่พี่ไปมิลาน พี่ชอบไปเดินที่งาน Salone del Mobile งานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Milan Design Week นักศึกษาแฟชั่นก็ชอบไปดูงานจบของนักศึกษาฝั่งดีไซน์ และฝั่งดีไซน์ก็มาดู Degree Show ของฝั่งแฟชั่น ให้มีอะไรแลกเปลี่ยนไม่เบื่อกันดี” ดวงกล่าว

 

นอกจากสาขา Art & Design ยังมีสาขา Beauty Studies สำหรับคนที่สนใจในวงการความงาม โดยเฉพาะ Fragrance & Cosmetics Management ที่จะลงลึกตั้งแต่กระบวนการผลิตคิดค้น และการดำเนินธุรกิจบิวตี้ที่สร้างมูลค่ามหาศาล รวมไปถึง Luxury Brand Management for Hospitality สำหรับคนที่มีใจรักด้านการเดินทาง และการพักผ่อนแบบลักชัวรี ซึ่งกำลังเป็นหมวดหมู่ที่กำลังอยู่ในขาขึ้น หลังจากที่แบรนด์แฟชั่นเริ่มหันไปหากิจกรรมฝั่งไลฟ์สไตล์อย่างโรงแรม หรือของแต่งบ้านมากขึ้น

 

และสำหรับดวง สถาบัน Istituto Marangoni เป็นเหมือนจุดแรกที่เพาะบ่ม ปั้นและขัดเกลาบุคลากรทางแฟชั่น ให้เป็นบุคลากรมืออาชีพที่พร้อมจะไปพัฒนาวงการแฟชั่นระดับโลก และกลับไปพัฒนาในประเทศที่เขาอยู่ “พี่ดวงว่าสิ่งที่เราได้จากที่นี่ ก็คือความเป็น Italianness, ความรู้และประสบการณ์อันทรงคุณค่า และ ความเป็นมืออาชีพค่ะ”

 

…..

 

ผู้สนใจเรียนต่อกับสถาบันมารังโกนี สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

DP Education (ช่องทางการติดต่อ)

แอด LINE Official: @DPeducation 

โทร. 08 8895 4445

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising