จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษร่วมกันสืบสวน สอบสวน และขยายผล ในคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีการดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ในฐานความผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527, พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และคดีพิเศษที่ 115/2567 กรณีการดำเนินคดีฟอกเงินทางอาญาของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนมีมติในที่ประชุมว่า จะสรุปสำนวนคดีพิเศษที่ 119/2567 พร้อมความเห็นทางคดีส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ก่อนครบกำหนดการฝากขัง 7 ผัด
วันนี้ (20 ธันวาคม) ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะ ร่วมกันประชุมสรุปสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งที่ 8
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษระบุว่า สำหรับการประชุมในวันนี้จะเป็นการมีมติร่วมกันในที่ประชุมของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า จะสรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาดิไอคอนกรุ๊ปทั้ง 18 ราย ต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ด้วยข้อกล่าวหาใดบ้างและรายใดบ้างจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาใด เนื่องด้วยก่อนที่ DSI จะรับไว้เป็นคดีพิเศษนั้น พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้แจ้ง 2 ข้อหา อันประกอบด้วย ฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ต่อมาเมื่อ DSI รับสำนวนไว้เป็นคดีพิเศษ จึงได้ตรวจสอบพยานหลักฐาน, พยานเอกสาร, ถ้อยคำให้การของผู้เสียหาย, การร้องทุกข์กล่าวโทษของผู้เสียหาย ฯลฯ และรับฟังความเห็นจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงมีมติร่วมกันในที่ประชุมว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา คือ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง รวมทั้งหมด 4 ข้อกฎหมาย
หลังจากนั้น DSI เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง และทั้งหมดได้ทยอยส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด หรือธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ปไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ หรือในส่วนของบอสดาราล้วนระบุว่า ตัวเองเป็นเพียงผู้รับจ้างเท่านั้น เป็นเหตุให้คณะพนักงานสอบสวนรวบรวมหนังสือเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและคำให้การของพยานผู้ต้องหาเข้าสู่สำนวนการสอบสวน
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษระบุอีกว่า สำหรับการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่แก่ 18 บอส ทำให้พนักงานสอบสวนสามารถขยายระยะเวลาการฝากขังต่อศาลอาญาได้เป็น 7 ผัด หรือ 84 วัน นอกจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้วางกรอบไทม์ไลน์การทำงานว่าจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการก่อนครบฝากขังผัดที่ 7 หรือภายในวันที่ 23 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ พ.ต.ต. ยุทธนา จึงได้นัดหมายคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รวมถึงที่ปรึกษาคดีพิเศษ นำโดย วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมหารือก่อนมีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษระบุต่อว่า ในการประชุมสรุปสำนวนการสอบสวนในวันนี้จะพิจารณาว่าผู้ต้องหารายใดมีพยานหลักฐานเพียงพอว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นทั้ง 4 ข้อหาหรือไม่ อย่างไร จึงมีความเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาทุกรายอาจไม่จำเป็นต้องถูกแจ้งข้อหาทั้ง 4 ข้อกล่าวหา หากพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าเจ้าตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่มีพฤติการณ์ข้องเกี่ยวตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่ง DSI ให้ความเป็นธรรม รับฟังในสิ่งที่ผู้ต้องหาได้ชี้แจงเข้ามา คาดว่าการประชุมวันนี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด และจะได้นำสำนวนพร้อมความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 23 ธันวาคม 2567
