ต้องขอยืมประโยคหนึ่งในวลีสุดฮอตแห่งปีจากร้านทองแม่ตั๊กมาใช้ เพราะในปีนี้ ประเทศไทยยังคงเป็นสังคมอุดมดราม่า เรียกว่าแทรกซึมอยู่ในทุกวงการ โดยเฉพาะวงการบันเทิงที่เหมือนเป็นฟันเฟืองผลิตเรื่องเมาท์ เรื่องที่เป็นประเด็นอยู่เสมอ จะมีเรื่องอะไรบ้างไปดูกัน
ดังสัตว์ๆ
ถ้าถามว่าปีนี้เมืองไทยอะไรดัง คงหนีไม่พ้นเรื่องราวดีๆ จากสัตว์ และตุ๊กตาประดามีที่กลายเป็นไวรัลและเป็นที่รักของคนไทยในชั่วข้ามคืน เริ่มตั้งแต่ตุ๊กตาหมีเนย มาสคอตเต้นดุกดิกจากแบรนด์ Butterbear คว้าใจพ่อยกแม่ยกทั้งในไทยและต่างประเทศ จนต้องแห่แหนไปดูน้องเต้นกันแน่นร้าน แถมน้องหมีเนยยังขยันเปลี่ยนชุด คิดท่าเต้นตามกระแส จนเรียกว่าปังอยู่หลายเดือน
หลังจากนั้นไม่นาน ความร้อนแรงของดาราสาวในนามน้องหมูเด้งก็เบียดพี่หมีเนยเกือบตกกระป๋อง เธอคือลูกฮิปโปแคระผู้มาพร้อมผิวแน่นเด้ง ลื่นเมือก จอมวีนเหวี่ยง สวบไม่เว้นไม่ว่าใครหน้าไหน แต่กลายเป็นความน่ารักจนเป็นไวรัล คนดังและสื่อยักษ์ใหญ่ ใครๆ ก็ต่างเทใจให้น้องหมูเด้งกันทั่วโลก เท่านั้นยังไม่พอ สาวน้อยจากสวนสัตว์เขาเขียวยังมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง และได้เป็นศิลปินในสังกัด GMM Grammy ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นั่นคือ 4 เดือน!
ประเด็นสัตว์ๆ ไม่ได้มีแค่เรื่องราวดีๆ เพราะช่วงปลายปีก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การวางยาสลบแมวเพื่อใช้เข้าฉากในซีรีส์เรื่อง แม่หยัว จนกลายเป็นประเด็นให้สังคมไทยหันมามองสวัสดิภาพของสัตว์ในแวดวงบันเทิงอีกด้วย
คัลแลน-พี่จองฟีเวอร์
คนไทยมักจะเอ็นดูชาวต่างชาติที่หัดพูดภาษาไทย ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง ก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่ โซเฟีย ลา ก็ทำไม่ได้ แอนนา ชวนชื่น อย่าหวังเลย ก็คือความน่ารักเป็นธรรมชาติแบบสองหนุ่มยูทูเบอร์ คัลแลนกับพี่จอง จนกลายเป็นขวัญใจชาวไทยมาตั้งแต่ต้นปี
เรียกว่าคัลแลนกับพี่จองค่อยๆ เป็นที่พูดถึงมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตั้งแต่ดราม่าไก่ทอดหาดใหญ่ แสงสปอตไลต์ก็เริ่มส่องให้คนได้เห็นความตั้งใจของสองหนุ่มจากเกาหลีใต้ผู้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วไทย ไม่สนว่าเป็นเมืองหลัก เมืองรอง แล้วถ่ายทอดออกมาอย่างน่าเอ็นดูตามประสาชาวต่างชาติที่มาสัมผัสวัฒนธรรมไทย ช่วงเวลาไม่นาน ทั้งคู่ก็กลายเป็นที่รักของคนไทยเกือบทั้งประเทศ และมีงานพรีเซนเตอร์ไม่ขาดสายจนถึงวันนี้
4 มีนาคม วันกะเทยผ่านศึก
ให้รู้บ้างว่าไผเป็นไผ! เป็นที่รู้กันว่าซอยสุขุมวิท 11 คือแหล่งมาดื่มมาดริงก์ของพี่ๆ กะเทยไทยมานานปี แต่ในระยะหลังมีกะเทยจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามารุกล้ำอธิปไตยอยู่บ่อยครั้ง มิหนำซ้ำยังทำตัวเป็นขาใหญ่ มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับพี่กะเทยไทยอยู่บ่อยๆ
จนกระทั่งในค่ำคืนหนึ่งก็เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้กะเทยฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายชนะ เท่านั้นไม่พอ ยังเปิดไลฟ์ประกาศศักดา เหมือนนังพิรมลขี้รดหัวใจหญิงนุชไปอีก งานนี้มีหรือจะยอม
ในค่ำคืนวันที่ 4 มีนาคม กะเทยทั่วหล้าจึงรวมตัวกันที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท หวังจะสั่งสอนกะเทยต่างด้าวที่เข้ามากร่างในแผ่นดินแม่ สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ที่สัญจรไปมา และกลายเป็นไวรัลว่อนโซเชียล จากหน่วยเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย และเป็นหลายร้อยจนกลายเป็นข่าวให้ติดตามความเคลื่อนไหว แม้ในที่สุดกะเทยฟิลิปปินส์จะออกจากโรงแรมมาได้ แต่ก็โดนไปคนละตุ้บคนละตั้บ 4 มีนาคม จึงได้รับการสถาปนาเป็นวันกะเทยผ่านศึกนับแต่นั้นเป็นต้นมา
มีการแซวเล่นๆ ขำๆ ว่า พชร์ อานนท์ จะไม่เอาไปทำหนังเหรอ ในจังหวะนั้นหนังเรื่อง หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด ปิดกล้องพร้อมฉายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ พชร์ อานนท์ คนจริงสั่งเปิดกองเพิ่มฉากนี้เข้าไปก่อนหน้าหนังฉายเพียงไม่กี่วัน ป้าดดดดด! ทำถึงมากค่ะคุณน้า
มหากาพย์ดิไอคอนกรุ๊ป
ปีนี้นอกจากการออกล่าปลาหมอคางดำที่ว่าดังแล้ว ก็เห็นจะมีการออกล่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ปนี่แหละที่เป็นกระแสต่อเนื่องยาวนาน ส่วนสำคัญก็มาจากธุรกิจที่คล้ายแชร์ลูกโซ่นี้ ใช้พลังดาราในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ลากมาตั้งแต่คนที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์ไปยันผู้ที่ออกตัวเป็นผู้บริหาร ส่วนมีใครกันบ้างคงไม่ต้องบอก เพราะรายชื่ออยู่ในบัญชีที่เรือนจำเรียบร้อย
แต่ทีเด็ดอยู่ที่ความเด็ดของ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของดิไอคอนกรุ๊ปผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ใช้โทรศัพท์อัดเสียงบรรดานักรีดไถเอาไว้ทั้งหมด งานนี้เลยสาวไส้ไปถึงนักการเมืองและเหล่าคน (เคย) ดีศรีสังคม ติดร่างแหเข้าไปด้วย สมกับสโลแกนไม่ทิ้งใครไว้ข้างนอก (คุก)
พลังทำลายล้างของดิไอคอนกรุ๊ปยังไม่จบอยู่แค่นั้น เพราะมันทำให้ย้อนนึกไปถึงเหล่าดาราและคนดังที่เคยออกหน้าทำธุรกิจคล้ายๆ กันเมื่อหลายปีก่อน จนต้องออกมาแก้ตัวกันจ้าละหวั่น เรียกได้ว่าประเด็นนี้เป็นอีกครั้งที่ให้บทเรียนทั้งกับเหล่าคนดังว่าความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนมีราคาต้องจ่าย และคนทั่วไปว่าอย่าหลงเชื่อคนดังจนขาดสติ
แต่ละมื้อแต่ละเดย์ในแวดวงนางงาม
ปีนี้แวดวงนางงามยังมีสีสันเช่นเคย เริ่มตั้งแต่เวทีที่เอ็นเตอร์เทนคนดูถึงขีดสุดอย่างการประกวด Miss Grand International ในปีนี้มีเจ้าภาพร่วมคือประเทศกัมพูชา ทว่าหลังจากเก็บตัวไปได้ไม่กี่วัน บรรยากาศที่เคยแกรนด์กลับไม่แกรนด์อย่างที่เคย เพราะการจัดการไม่ได้มาตรฐาน มีภาพหลุดนางงามใส่ชุดราตรีหรูหราต้องนั่งกินถั่วต้มบนเรือสำราญที่เหมือนเรือข้ามฟากมากกว่า พาให้นึกถึงปาร์ตี้พัชรภากรุ๊ปเมื่อหลายปีก่อนไปเสียอย่างนั้น
ว่าแล้วบิ๊กบอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ก็พากองประกวดกลับไทย และจัดงานออกมาได้อลังการอย่างทุกปี แต่สุดท้ายก็ไม่วายมีดราม่าอีก เมื่อผู้ถือลิขสิทธิ์มิสแกรนด์เมียนมาคว้ามงกุฎนางงามของตัวเองมาปาทิ้ง เพราะไม่พอใจที่ได้แค่รองอันดับ 2 จนกลายเป็นประเด็นอยู่หลายสัปดาห์
มาถึงเวทีอันเป็นที่รักอย่างการประกวด Miss Universe ซึ่งปีนี้ตัวแทนประเทศไทยได้แก่ โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี เรียกได้ว่ามีลุ้นเอามงสามเอามากๆ แถมปีนี้ยังไม่มี พอลล่า ชูการ์ต ผู้ขยันเสิร์ฟ ‘แกง’ ให้แฟนนางงามไทยแล้วด้วย แต่กลายเป็นว่าผู้จัดงานกลับเสิร์ฟแกงอ่อม คืออ่อมในหลายช่วงของการประกวดจนอดคิดถึงพอลล่าไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังเสิร์ฟแกงที่หลากหลายกว่า
ประเด็นดราม่าเริ่มตั้งแต่ตอนเก็บตัว คือเก็บจริงเพราะภาพที่ออกมาส่วนใหญ่อยู่ที่หน้าลิฟต์เหมือนยี่ห้อ Otis เป็นสปอนเซอร์ ส่วนในรอบ Preliminary ก็เกือบจะไม่มีการสวมชุดราตรีทั้งที่สำคัญมากๆ สำหรับแฟนนางงาม ยังไม่นับรวมการพรีเซนต์ชุดบนเวทีที่ไม่โดนใจเอาเสียเลย พอถึงวันประกวดจริง กติกาและลำดับขั้นการประกวดก็ออกมางงๆ รวมถึงโปรดักชันทั้งเวทีและการจัดไฟก็ออกมาไม่ได้ดั่งใจ ที่จะดีหน่อยก็เห็นจะมีแค่ช่วง ‘Hello Universeeeeee’ เท่านั้น
หลังจากนั้นไม่กี่วัน แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เจ้าของเวทีไม่รอช้า เชิญแฟนนางงามตัวแม่มานั่งเคลียร์ใจในรายการ แอนโชว์ ในช่อง JKN และยืนยันว่าน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนในปีหน้าจะออกมาเป็นอย่างไรต้องมาลุ้นกัน
‘ลิซ่า’ ทำถึงมากจ้า…ลูกสาวของชาวไทย
แม้จะไปเด่นไปดังถึงเมืองนอกเมืองนา แต่ลูกสาวของชาวไทยอย่าง ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ก็มีสำนึกรักบ้านเกิด เมื่อก้าวขึ้นเป็นศิลปินเดี่ยว มิวสิกวิดีโอซิงเกิลแรกจึงยกโปรดักชันมาถ่ายทำและใช้โลเคชันของเมืองไทยทั้งเพลง ที่เด่นมากๆ คือการใช้ฉากบนถนนเยาวราช แถมทำออกมาได้สวยแซ่บสะใจจนกลายเป็นไวรัลทั้งในไทยและต่างประเทศอีกต่างหาก
และเพราะลิซ่าคือคนไทย แล้วคนไทยแปลว่าอิสระ หลังจากหมดสัญญาจากค่ายเก่าก็เลยรับงานที่หลากหลายขึ้นอย่างงานแสดงในซีรีส์ The White Lotus ซีซัน 3 ที่ยกกองมาถ่ายทำบนเกาะสมุย ร่วมกับนักแสดงไทยอีกหลายคน เรียกได้ว่าปีนี้ลิซ่ากับหมูเด้งเป็นนางแบกซอฟต์พาวเวอร์ไทยที่ทำงานได้ดีกว่ารัฐมนตรีทั้งคณะรัฐบาลเสียอีก
ภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ของละครไทย
ใครจะเชื่อว่าจะมีวันนี้ วันที่ความบันเทิงประจำบ้านอย่างละครไทยใกล้ถึงภาวะสูญพันธุ์จากเม็ดเงินโฆษณาที่เคยทุ่มให้สื่อโทรทัศน์เริ่มลดลงเรื่อยๆ ทำให้หลายช่องยักษ์ใหญ่ปรับกระบวนท่ากันจ้าละหวั่น
หนักที่สุดก็คงไม่พ้นช่อง 3 กับกระแสข่าวไม่สู้ดีที่มีออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ลดงบประมาณการทำละคร หยุดการถ่ายทำ จนถึงขั้นปลดพนักงานให้องค์กรกระฉับกระเฉงขึ้น ดังนั้นเมื่อบ้านใหญ่ดูจะเล็กไปเสียแล้ว เหล่าบรรดาผู้จัดคู่บุญของช่องเลยมีอันต้องโยกย้ายไปเติบโตที่อื่น หลักๆ คือย้ายไปซบอก MONO29 ที่กำลังสยายปีกปลูกปั้นแพลตฟอร์มของตัวเอง
ส่วนช่อง 7 หลังจากที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่นานก็ถึงเวลาพลิกตัวกับเขาบ้างด้วยการจับมือกับแพลตฟอร์มอย่าง Netflix และแว่วๆ ว่าจะโละละครเก่าในสต็อกมาออกอากาศทั้งหมด จากนั้นจะผลิตคอนเทนต์รูปแบบใหม่ที่ช่องไม่เคยทำมาก่อน ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าละครช่อง 7 โฉมใหม่จะไฉไลกว่าเดิมหรือเปล่า