โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1946 ในควีนส์ รัฐนิวยอร์ก เขาเป็นบุตรคนที่ 4 จากบุตรทั้งหมด 5 คนของเฟรเดอริก นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ แมรี ทรัมป์ ไฮโซและนักการกุศลชาวนิวยอร์ก
ทรัมป์เติบโตมาแบบเด็กชายที่กระตือรือร้นและมั่นใจในตนเอง ในวัย 13 ปีเขาเริ่มประพฤติตัวไม่ดีในโรงเรียน ส่งผลให้พ่อและแม่ตัดสินใจส่งเขาไปเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยนิวยอร์ก (New York Military Academy) โดยหวังให้ระเบียบวินัยของโรงเรียนช่วยขัดเกลาและส่งเสริมความกระตือรือร้นของเขาไปในทางบวก
เขาทำได้ดีทั้งในด้านสังคมและวิชาการ จนกลายเป็นนักกีฬาดาวเด่นและผู้นำนักเรียน ก่อนจะศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮมในปี 1964 และย้ายไปเรียนสาขาเศรษฐศาสตร์ที่โรงเรียนการเงินวอร์ตัน (Wharton School of Finance) มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในอีก 2 ปีต่อมา กระทั่งสำเร็จการศึกษาในปี 1968
หลังสำเร็จการศึกษา ทรัมป์รับสืบทอดบริษัทต่อจากพ่อ เนื่องจาก เฟร็ด พี่ชายของเขาเลือกที่จะเป็นนักบิน โดยมีส่วนช่วยบริหารโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ในนิวยอร์ก และได้อำนาจบริหารบริษัทเต็มตัวในปี 1971 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Trump Organization ซึ่งภายใต้การบริหารของทรัมป์ได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจของครอบครัวจากโครงการที่พักอาศัยระดับกลางในย่านบรูกลินและควีนส์มาเป็นโครงการหรูหราในแมนฮัตตัน
จากบทบาทนักธุรกิจใหญ่ มีหลายครั้งที่ทรัมป์ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ทั้งในแง่สนอกสนใจและประชดประชัน ถึงขั้นมองว่าชีวิตของนักการเมืองนั้นโหดร้าย
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ผ่านการเป็นสมาชิกพรรคทั้งรีพับลิกัน เดโมแครต และพรรคอิสระอย่างพรรค Reform (ที่เขาเคยเปิดตัวลงสมัครชิงประธานาธิบดีอยู่ 3 เดือน ก่อนจะถอนตัว)
กระทั่งปี 2011 ทรัมป์แสดงท่าทีว่าต้องการลงสมัครชิงประธานาธิบดีแข่งกับ บารัก โอบามา ในการเลือกตั้งปี 2012 แต่ท้ายที่สุดก็ประกาศไม่ลงสมัคร
กระทั่งเดือนมิถุนายน 2015 ทรัมป์ตัดสินใจประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2016 โดยประกาศถ้อยแถลงว่า ‘ความฝันแบบอเมริกัน’ (American Dream) ได้ตายไปแล้ว แต่เขาสัญญาว่าจะ ‘นำมันกลับมาอย่างยิ่งใหญ่และดีขึ้นกว่าเดิม’
ถือเป็นบททดสอบที่สำคัญอย่างยิ่งหากเขาชนะเลือกตั้ง ซึ่งหลากหลายนโยบายที่เขาประกาศไว้ช่วงหาเสียง ทั้งนโยบายผู้อพยพ เศรษฐกิจ การค้า การต่างประเทศ รวมถึงท่าทีกับคู่ปรปักษ์ เช่น จีน รัสเซีย และอิหร่าน ท่ามกลางฉากทัศน์ความขัดแย้งที่ลุกลามอยู่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะยูเครนและตะวันออกกลาง คาดว่าจะมีผลอย่างมากต่อหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทย ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง: