ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมแถลงข่าวร่วมกับ มุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถึงจุดยืนที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤตคาบสมุทรเกาหลีที่ตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา หลังกองทัพโสมแดงเดินหน้าพัฒนาและทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและประชาคมโลก
ทรัมป์กล่าวว่า “การที่เกาหลีเหนือจะหันกลับสู่โต๊ะเจรจาเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลและสามารถเข้าใจได้ เพราะนั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพื่อแค่ประโยชน์ของเกาหลีเหนือเอง แต่เพื่อทุกคนในประชาคมระหว่างประเทศทั่วโลก”
แต่อย่างไรก็ตาม ชาติพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังพิจารณาแผนการที่จะจัดซื้ออาวุธสงครามจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อใช้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศของตนและป้องกันประเทศจากรัฐอันธพาลที่อยู่ใกล้เคียงกันอย่างเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ทรัมป์เองยังเสนอแผนงบประมาณค่าใช้จ่ายปี 2018 ให้สภาครองเกรสพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อป้องกันประเทศกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้กว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.3 แสนล้านบาท) จะใช้ในการสนับสนุนปฏิบัติการฉุกเฉินที่ใช้ตอบโต้ขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐจะใช้สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ในเอเชียใต้และ 700 ล้านเหรียญสหรัฐจะใช้ซ่อมแซมฐานทัพเรือของสหรัฐฯ ในประเทศต่างๆ
ชาวเกาหลีจำนวนมากที่ทราบข่าวการเดินทางมาเยือนโสมขาวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ บางกลุ่มออกมายินดีต้อนรับ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ อยู่เคียงข้างเกาหลีใต้ในการต่อสู้กับปัญหาวิกฤตบนคาบสมุทรเกาหลี ในขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากก็ออกมาต่อต้านทรัมป์และภรรยาเช่นกัน โดยระบุว่า สหรัฐฯ พยายามเข้าแทรกแซงการเมืองภายในประเทศเกาหลีใต้มาโดยตลอด การสนิทสนมกับผู้นำสหรัฐฯ อาจจะยิ่งทำให้เกาหลีใต้ตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ทรัมป์ยังแสดงความต้องการที่จะเดินทางไปยังเขตปลอดอาวุธและกำลังทางทหาร (Demilitarised Zone) หนึ่งในพื้นที่ที่ตึงเครียดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของเกาหลีทั้งสองประเทศ ก่อนที่แผนการจะถูกยกเลิกไป เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศที่มีหมอกหนาจัด
.@realDonaldTrump motorcade sits at a landing zone after a canceled attempt to visit to the Demilitarized zone (DMZ) because of fog. pic.twitter.com/Ztuf24fTtB
— Doug Mills (@dougmillsnyt) November 8, 2017
แม้การเดินทางเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในครั้งนี้จะสั้นเพียง 24 ชั่วโมง และถูกมองว่าเป็นการเยือนในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่การพบกันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ยังคงแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ มากที่สุดชาติหนึ่งในเอเชียนับตั้งแต่สงครามเกาหลี ปี 1950
ก่อนที่ทรัมป์จะเดินทางเยือนจีน เพื่อเขาพบประธานาธิบดีสีจิ้นผิงต่อไป
อ้างอิง:
- www.bbc.com/news/world-asia-41910167
- edition.cnn.com/2017/11/07/politics/trump-moon-jae-in-south-korea/index.html
- edition.cnn.com/2017/11/07/politics/white-house-request-dod-funding-north-korea/index.html
- www.thehindu.com/news/international/donald-trump-promises-to-figure-it-out-with-south-koreas-moon-jae-in/article19994917.ece
- www.theguardian.com/world/2017/nov/08/donald-trump-abandons-secret-trip-north-south-korea-dmz-fog